วันนี้ (30 พฤษภาคม) วุฒิสภาประชุมเพื่อพิจารณาญัตติที่ เทวฤทธิ์ มณีฉาย สมาชิกวุฒิสภา (สว.) เป็นผู้เสนอ เพื่อขอให้ชะลอการตั้งคณะกรรมาธิการสามัญเพื่อทำหน้าที่ตรวจสอบประวัติฯ ของบุคคลผู้ได้รับการเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระ เช่น คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ รวมทั้งวาระให้ความเห็นชอบกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)
ตั้งแต่ช่วงเช้า สว. ที่อยู่ในกลุ่มเสียงข้างน้อย เช่น นันทนา นันทวโรภาส, นพ.เปรมศักดิ์ เพียยุระ, น.ต. วุฒิพงศ์ พงศ์สุวรรณ และ อังคณา นีละไพจิตร ฯลฯ ได้อภิปรายแสดงเหตุผลว่าทำไมจึงควรชะลอวาระดังกล่าว โดยย้ำถึงหลักการผลประโยชน์ทับซ้อน และขณะที่การเดินหน้าให้ความเห็นชอบองค์กรอิสระจะไม่ขัดต่อกฎหมายใด แต่ก็อาจจะถูกสังคมมองว่า ไม่ชอบธรรม เพราะ สว. อยู่ในสถานะคู่กรณีขององค์กรอิสระ ทั้งในฐานะผู้ร้องและผู้ถูกร้อง
“ขอความกรุณา ถ้าเราไตร่ตรองให้ดี ขอให้เลื่อนเวลาไปพิจารณาในสมัยประชุมปกติ ผมว่าประชาชนจะยินดีเป็นอย่างยิ่ง และชื่นชมความเสียสละของพวกเรา ไม่ว่าท่านจะได้รับอะไรมาก็ตาม หรือรับคำสั่งจากใครมาก็ตาม วันนี้ขอความกรุณางดฟังคำสั่งที่มาโดยไม่ถูกต้อง ใช้หัวใจและสมองของท่าน คิดอย่างไรลงมติตามนั้น เพราะสว.ทั้งหลายมาจากเสียงประชาชน” น.ต. วุฒิพงศ์ กล่าว
อย่างไรก็ตาม สว. ในกลุ่มเสียงข้างมาก หรือที่ถูกเรียกว่า ‘สว. สีน้ำเงิน’ เช่น พล.ต.ต. ฉัตรวรรษ แสงเพชร, พ.ต.อ. กอบ อัจนากิตติ และ พิสิษฐ์ อภิวัฒนาพงศ์ อภิปรายยืนยันว่า การดำเนินการของ สว. ถูกต้องตามกฎหมาย เป็นการทำหน้าที่ฝ่ายนิติบัญญัติ การท้วงติงหรือวิพากษ์วิจารณ์ถือเป็นความเห็นส่วนบุคคล ก่อนที่ประชุมวุฒิสภาจะเดินหน้าเข้าสู่การลงมติ
ผลการลงมติ คะแนนเสียงเห็นด้วย 37 เสียง ไม่เห็นด้วย 125 เสียง งดออกเสียง 12 เสียง เป็นอันว่าที่ประชุมลงมติไม่เห็นชอบให้ชะลอการพิจารณาวาระการตั้งกรรมาธิการและให้ความเห็นชอบผู้ได้รับการเสนอชื่อในองค์กรอิสระต่างๆ
ทำให้ นพ.เปรมศักดิ์ และนันทนา ลุกขึ้นทันที พร้อมกล่าวว่า ขอไม่ร่วมสังฆกรรมใดๆ กับที่ประชุมนี้ ถึงแม้ สว. เสียงข้างน้อย จะพยายามท้วงติงแล้ว แต่ในเมื่อที่ประชุมยังเดินหน้าต่อ ก็ต้องรับผิดชอบกับการตัดสินใจดังกล่าว ก่อนที่ สว. ในกลุ่มเสียงข้างน้อย จะเดินออกจากห้องประชุมทันที
