วานนี้ (13 พฤษภาคม) พริษฐ์ วัชรสินธุ สส. บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการพัฒนาการเมือง การสื่อสารมวลชน และการมีส่วนร่วมของประชาชน ได้แสดงความคิดเห็นภายหลังจากที่ประชุมติดตามงานของสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ระหว่างประธานสภาผู้แทนราษฎร รองประธานสภาผู้แทนราษฎร และผู้บริหารสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ครั้งที่ 5/2568 เกี่ยวกับวาระงบประมาณปรับปรุงรัฐสภา
กรณีมีมติรับความคิดเห็นของคณะกรรมาธิการพัฒนาการเมือง การสื่อสารมวลชน และการมีส่วนร่วมของประชาชน และขอให้เป็นการพิจารณาในชั้นคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่าย ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 ว่าจะมีการตัดหรือลดงบประมาณหรือไม่ พร้อมทั้งสั่งการให้สำนักงานที่เกี่ยวข้องเตรียมข้อมูลเพื่อชี้แจง ตามข้อสังเกตที่มีการท้วงติงเข้ามา
พริษฐ์กล่าวว่า มติดังกล่าวนี้ ‘น่าผิดหวัง แต่ไม่ผิดคาด’ ตนเองได้พยายามแสดงความเห็นไว้แล้วก่อนหน้านี้ ว่าหากบอร์ดผู้บริหารรัฐสภาเห็นด้วยกับข้อสังเกตและเสียงทักท้วงในช่วง 1-2 สัปดาห์ที่ผ่านมา บอร์ดผู้บริหารรัฐสภาไม่ควรโยนความรับผิดชอบทั้งหมด มาให้เป็นหน้าที่ของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่าย ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 ในการปรับลดงบประมาณในส่วนดังกล่าว แต่ควรมีมติออกมาชัดเจนว่าเห็นควรให้ทบทวนหรือยุติการเดินหน้าโครงการใด
- มติดังกล่าวจะเป็นหลักฐานที่ทำให้คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่าย ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 ปรับลดงบประมาณที่เกี่ยวข้องได้อย่างรวดเร็วขึ้น
- มติดังกล่าวจะเป็นหลักฐานที่ทำให้สภาผู้แทนราษฎรมีความมั่นใจว่าหน่วยงานจะไม่โอนงบประมาณจากโครงการอื่น มาใช้กับโครงการที่ยังไม่ได้รับการจัดสรรงบประมาณผ่านกระบวนการ พ.ร.บ.งบประมาณประจำปี เหมือนที่หน่วยงานได้ทำกับกรณีโครงการออกแบบที่จอดรถมูลค่า 105 ล้านบาท
- มติดังกล่าว จะเป็นโอกาสอันดีที่ผู้บริหารรัฐสภาจะเรียกคืนความเชื่อมั่นจากประชาชน
พริษฐ์ขอตั้งข้อสังเกตไว้ ว่าหากสิ่งที่เกิดขึ้นเกี่ยวกับการตั้งคำถามเรื่องงบประมาณอาคารรัฐสภา เกิดขึ้นกับหน่วยงานในกระทรวงอื่น เราคงได้เห็นรัฐมนตรีในฐานะผู้บริหารสูงสุดจากฝ่ายการเมือง ออกมาสื่อสารและตอบคำถามประชาชนอย่างต่อเนื่อง แต่เหตุใดในกรณีนี้เราถึงไม่ได้เห็นประธานสภา ในฐานะผู้บริหารสูงสุดจากฝ่ายการเมือง ออกมาชี้แจงการตัดสินใจจากที่ประชุมในวันนี้ รวมถึงไม่ได้มีการสื่อสารกับประชาชนในประเด็นเรื่องงบอาคารรัฐสภาตั้งแต่เมื่อวันที่ 6 พฤษภาคมที่ผ่านมา
อ้างอิง:
