วานนี้ (10 มีนาคม) ในการประชุมสมาชิกวุฒิสภา ครั้งที่ 21 สมัยสามัญประจำปีครั้งที่ 2 วาระพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ภาษีสรรพสามิต (ฉบับที่..) พ.ศ. …. หรือร่างสุราชุมชน ในวาระที่ 2 และ 3 โดยผลการลงมติ วาระที่ 2 นั้น มีผู้ร่วมลงมติ 177 คน เห็นด้วย 156 คน ไม่เห็นด้วย 11 คน และงดออกเสียง 10 คน จากนั้นลงมติวาระที่ 3 ต่อในทันที ซึ่งมีผู้ร่วมลงมติ 177 คน เห็นด้วย 166 คน ไม่เห็นด้วย 3 คน และงดออกเสียง 8 คน
ขั้นตอนหลังจากนี้ร่างกฎหมายจะส่งไปยังคณะรัฐมนตรี เพื่อให้นายกรัฐมนตรีนำขึ้นทูลเกล้าฯ เพื่อพระมหากษัตริย์ทรงลงพระปรมาภิไธย จากนั้นให้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาให้มีผลบังคับใช้เป็นกฎหมาย
สำหรับสาระสำคัญของการแก้ไขในมาตรา 153 วรรคสามของ พ.ร.บ. นี้ คือ กฎกระทรวงในวรรคสอง ให้คำนึงถึงมาตรฐานการผลิตสุราและต้องสนับสนุนให้สหกรณ์ กลุ่มเกษตรกร วิสาหกิจชุมชน องค์กรเกษตรกร หรือผู้ประกอบการรายย่อย สามารถขอรับใบอนุญาตผลิตสุราเพื่อการค้า โดยนำสินค้าเกษตรในประเทศมาผลิตเป็นสุราทุกประเภทที่อาจมีสี หรือมีกลิ่นได้ แต่มิให้กำหนดหลักเกณฑ์ใดในการพิจารณาออกใบอนุญาต ที่เป็นการเลือกปฏิบัติหรือผูกขาดทางเศรษฐกิจโดยไม่เป็นธรรม หรือสร้างภาระเกินสมควร เว้นแต่เป็นการกำหนดสัดส่วนความเป็นเจ้าของของบุคคล ซึ่งมิใช่บุคคลสัญชาติไทย หรือเป็นการผลิตสุราของรัฐวิสาหกิจที่มีวัตถุประสงค์เพื่อการผลิตสุรา หรือเพื่อส่งเสริมผู้ประกอบการอุตสาหกรรมรายย่อย
ผลของกฎหมายจะทำให้กรมสรรพสามิตต้องออกกฎกระทรวงเพื่อแก้ไขระเบียบเดิมให้ไม่มีข้อจำกัดในการขออนุญาตผู้ผลิตสุรารายย่อย ให้แล้วเสร็จภายใน 180 วัน ภายหลังกฎหมายมีผลบังคับใช้ในราชกิจจานุเบกษา
ขณะที่ในสัปดาห์นี้ สภาผู้แทนราษฎรมีวาระพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ (ฉบับที่..) พ.ศ. …. ซึ่งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาเสร็จแล้ว
ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 15 มกราคม 2568 สภาผู้แทนราษฎรได้มีมติเอกฉันท์เห็นชอบร่างกฎหมายดังกล่าวในวาระ 2 และ 3 ด้วยคะแนนเสียงเห็นชอบ 414 เสียง และไม่มีเสียงไม่เห็นชอบ
