วันที่ 26-30 มกราคม 2567 บริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ SENA พร้อมเสนอขายหุ้นกู้ชุดใหม่ โดยเป็นหุ้นกู้ชนิดระบุชื่อผู้ถือ ประเภทไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกัน และมีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ ให้แก่ผู้ลงทุนทั่วไปและผู้ลงทุนสถาบัน มูลค่าเสนอขายทั้งสิ้นไม่เกิน 1,000 ล้านบาท อายุหุ้นกู้ 2 ปี อัตราดอกเบี้ยคงที่ 5% ต่อปี ชำระดอกเบี้ยทุกๆ 3 เดือน ตลอดอายุหุ้นกู้ โดยจองซื้อขั้นต่ำ 100,000 บาท และทวีคูณครั้งละ 100,000 บาท
สำหรับผู้ที่จะลงทุนหุ้นกู้ นอกจากเรื่องผลตอบแทนที่จะได้รับ สิ่งที่ควรรู้ก่อนตัดสินใจลงทุนคือ ความแข็งแรงและโดดเด่นของบริษัทที่ออกหุ้นกู้
และนี่คือทุกเรื่องที่คุณ ‘ต้องรู้’ เพื่อทำความรู้จักกับ ‘เสนาฯ’ ให้มากขึ้น
เสนาฯ ถือไพ่อะไรในมือบ้าง?
ปัจจุบันเสนาฯ ในฐานะบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อการอยู่อาศัย (Residences) มีโครงการมากถึง 88 โครงการ ทั้งรูปแบบพัฒนาเอง ไปจนถึงร่วมกันพัฒนากับบริษัท ฮันคิว ฮันชิน พร็อพเพอร์ตี้ส์ คอร์ป (HHP) ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์จากญี่ปุ่น มูลค่ารวมทั้งหมด 101,000 ล้านบาท แบ่งเป็นคอนโดมิเนียม 47 โครงการ มูลค่ารวม 66,000 ล้านบาท และบ้าน 41 โครงการ มูลค่ารวม 35,000 ล้านบาท
นอกจากนั้นยังเพิ่มความแข็งแกร่งผ่านธุรกิจอื่นๆ เช่น ธุรกิจบริหารงานนิติบุคคล, โครงการที่อยู่อาศัยและทรัพย์สินแบบครบวงจร, ธุรกิจนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ เพื่อบริการขายและให้เช่าอสังหาริมทรัพย์, ธุรกิจไฟฟ้าพลังงานสะอาด ภายใต้บริษัท เสนา โซลาร์ เอนเนอร์ยี่ จำกัด, ธุรกิจรับเหมาก่อสร้างที่พักอาศัย, ธุรกิจการบริการสุขภาพ ภายใต้บริษัท เอส.เจ. เฮลธ์แคร์ จำกัด, ธุรกิจการบริการด้านสินเชื่อ โดยบริษัท เงินสดใจดี จำกัด เพื่อเพิ่มความสามารถในการเป็นเจ้าของที่อยู่อาศัยให้กับลูกค้า พร้อมให้คำปรึกษาและให้ความรู้ทางด้านการเงิน รวมไปถึงธุรกิจอาคารสำนักงาน, ธุรกิจสนามกอล์ฟ และธุรกิจด้านการปลูกป่า
ธุรกิจที่ถืออยู่ในมือนี้ยังถูกพัฒนาภายใต้วิสัยทัศน์ Lifelong Trusted Partner มุ่งมั่นในการพัฒนาที่พักอาศัยและธุรกิจที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตที่ดีในทุกช่วงอายุ พร้อมสนับสนุน Decarbonized Lifestyle หรือการใช้ชีวิตแบบ Low Carbon โดยเฉพาะเรื่องการประหยัดพลังงาน ด้วยการออกแบบและพัฒนาที่อยู่อาศัย ไปจนถึงผลิตภัณฑ์และบริการที่สร้างความสุขได้อย่างยั่งยืนให้กับผู้คนและโลก
ประเด็นที่น่าสนใจคือ การนำแนวคิดบ้านพลังงานเป็นศูนย์และคอนโด Low Carbon มาเป็นจุดขาย นอกจากจะเพิ่มความสามารถในการแข่งขันแล้ว ยังสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับแบรนด์มากยิ่งขึ้น
กลยุทธ์ขยายความร่วมมือ ผนึกพันธมิตรเสริมแกร่งธุรกิจ
หนึ่งในกลยุทธ์ที่ถือเป็นไม้เด็ดของเสนาฯ คือ การให้ความสำคัญเรื่อง Partnership การบริหารการเงิน และการบริหารจัดการพอร์ตโฟลิโออย่างมีประสิทธิภาพ
ไม่ว่าจะเป็นการเข้าซื้อบริษัท เจ.เอส.พี. พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) (JSP) เพื่อขยายตลาดแนวราบเพิ่มเติม ร่วมมือกับบริษัท ฮันคิว ฮันชิน พร็อพเพอร์ตี้ส์ คอร์ป (HHP) ในการร่วมลงทุนในโครงการใหม่ๆ ในช่วงที่ผ่านมา ทำให้ปัจจุบันมีมูลค่า Asset สูงกว่า 50,000 ล้านบาท หรือโตขึ้นถึง 43% โดยกลยุทธ์นี้เป็นการมองในระยะยาว เพื่อกระจายความเสี่ยงและลดการลงทุน ทำให้ปัจจุบันอัตราหนี้สินต่อทุนของบริษัท หรือ Net IBD/E Ratio ยังอยู่ในระดับต่ำ ล่าสุดอยู่ที่ 1.13 เท่า สะท้อนถึงการเติบโตของธุรกิจบนพื้นฐานการเงินที่ดี
แนวทางการบริหารพอร์ตโฟลิโอ
อย่างไรก็ดี เสนาฯ ยังคงให้ความสำคัญกับการบริหารพอร์ตโฟลิโอให้เหมาะสม โดยได้มีการขยายโครงการแนวราบเพิ่มขึ้น เพื่อความหลากหลายของสินค้าให้ครอบคลุมทุก Segment สอดคล้องกับสภาวะตลาด และตอบโจทย์ผู้บริโภคทั้งในแง่ทำเล ราคา และไลฟ์สไตล์และเทรนด์ที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอด จากเดิมที่พอร์ตการลงทุนหลัก 90% เป็นคอนโดมิเนียม แต่ปัจจุบันลดลงเหลือ 67% อีก 33% เป็นบ้านแนวราบ
นอกจากนี้ยังมีการกระจายรายได้ผ่านรูปแบบธุรกิจใน 2 ส่วนหลัก คือ รายได้จากโครงการที่พักอาศัย และรายได้จากธุรกิจบริการและธุรกิจเช่า ซึ่งเป็นรายได้ที่สม่ำเสมอที่สัดส่วน 80/20
ปัจจุบันบริษัทมีมูลค่าสินค้าพร้อมพัฒนาและรอการรับรู้รายได้อยู่ในพอร์ตสูงกว่า 82,751 ล้านบาท แบ่งเป็นบ้านจัดสรร 27,089 ล้านบาท ที่เหลือเป็นสินค้าคอนโดมิเนียม แบ่งเป็นแบรนด์ The Niche 27,347 ล้านบาท, The Kith 11,880 ล้านบาท และแบรนด์ FLEXI อีก 10,648 ล้านบาท เป็นต้น
โดยแบ่งการบริหารจัดการสินค้าในพอร์ตในรูปแบบร่วมทุน 72% ผ่านบริษัท เซ็น เอกซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ SEN X อีก 13% และโครงการที่พัฒนาโดยกลุ่มเสนาฯ เองอีก 15% นอกจากนั้นยังมีรายได้จากกลุ่มธุรกิจบริการอื่น ซึ่งเป็นรายได้ประจำที่ช่วยสร้างกระแสเงินสดอย่างต่อเนื่องด้วย
‘หลักทรัพย์ SENA’ หุ้นกู้ชุดใหม่ มีอะไรน่าสนใจ?
หุ้นกู้ชุดใหม่มีมูลค่าเสนอขายทั้งสิ้นไม่เกิน 1,000 ล้านบาท อายุหุ้นกู้ 2 ปี อัตราดอกเบี้ยคงที่ 5% ต่อปี ชำระดอกเบี้ยทุกๆ 3 เดือน ตลอดอายุหุ้นกู้ โดยจองซื้อขั้นต่ำ 100,000 บาท และทวีคูณครั้งละ 100,000 บาท
สำหรับอันดับความน่าเชื่อถือของบริษัทและหุ้นกู้อยู่ที่ระดับ ‘BBB’ แนวโน้ม ‘ลบ’ จากบริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เมื่อวันที่ 12 กันยายน 2566
หุ้นกู้ชุดนี้จะเปิดจองซื้อวันที่ 26-30 มกราคม 2567 ผ่านสถาบันการเงิน 4 แห่ง ได้แก่
- ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) โทร. 0 2111 1111 หรือจองซื้อทางออนไลน์ผ่านแอปพลิเคชัน Krungthai NEXT
- ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) โทร. 0 2888 8888 กด 819 (โดยบุคคลธรรมดาจองซื้อทางออนไลน์ผ่าน www.kasikornbank.com/kmyinvest ยกเว้นบุคคลสัญชาติต่างด้าว และนิติบุคคล สามารถจองซื้อผ่านสำนักงานใหญ่และสาขา)
- บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด โทร. 0 2680 4004
- บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด โทร. 0 2009 8351 56
ทั้งนี้ การจองซื้อหุ้นกู้ในช่วงวันเสาร์และวันอาทิตย์ สามารถจองซื้อได้ผ่านผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้บางรายและในบางช่องทางเท่านั้น
สำหรับผู้ลงทุนที่สนใจจองซื้อหุ้นกู้ สามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.sec.or.th หรือติดต่อสอบถามเพิ่มเติมผ่านสถาบันการเงินทั้ง 4 แห่งข้างต้น