Microsoft จับมือกับสำนักข่าวสตาร์ทอัพ Semafor ในการนำปัญญาประดิษฐ์ (AI) เข้ามาช่วยค้นหา สรุป และวิเคราะห์เนื้อหาข่าวจากทั่วทุกมุมโลก เพื่อให้นักข่าวของ Semafor เข้าใจภาพรวมสถานการณ์ของเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นได้ดียิ่งขึ้น ผ่านการรวบรวมข้อมูลจากหลากหลายแหล่งข่าวในหลายภาษา
แม้ว่ามูลค่าของเม็ดเงินการลงทุนจะไม่ถูกเปิดเผย แต่ Financial Times รายงานว่า Microsoft ได้ทุ่มเงินลงทุนจำนวนมากไปกับธุรกิจของ Semafor
บริการดังกล่าวที่ Microsoft พัฒนาขึ้นมีชื่อว่า Signals ซึ่งจะคอยอัปเดตประเด็นสำคัญของเหตุการณ์ต่างๆ ได้อย่างทันท่วงที ทำให้นักข่าวมีอินไซต์ครอบคลุมในสิ่งที่เกิดขึ้น เพราะสามารถเข้าถึงมุมมองจากหลายแหล่งข่าวที่น่าเชื่อถือทั่วโลกได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ ซึ่งสิ่งนี้เองก็เป็นความตั้งใจของ Semafor นับตั้งแต่วันที่ก่อตั้งในปี 2022 ที่ต้องการจะนำเสนอข่าวในมุมมองที่แตกต่างหลากหลาย
Ben Smith ผู้ร่วมก่อตั้ง Semafor ยืนยันว่า ข้อมูลจาก Signals ทั้งหมดนั้นจะถูกเขียนโดยพนักงานบริษัทที่เป็นมนุษย์เท่านั้น แต่ AI จะมีบทบาทแค่เพียงค้นหาและรายงานข้อมูลให้นักข่าวสามารถเกาะติดสถานการณ์ได้แบบเรียลไทม์ โดยเขามองว่า ในโลกปัจจุบันที่อินเทอร์เน็ตเป็นช่องทางหลักของการเสพข้อมูล มันส่งผลให้การรายงานข่าวหันเหไปสู่ทิศทางที่คนส่วนใหญ่พยายามจะแข่งกันด้วยความเร็วของเนื้อหาในประโยคแรกๆ แต่ก็ไม่ได้พยายามใช้เวลาเพื่อนำเสนอมุมมองเชิงวิเคราะห์มากเท่าที่ควร
เมื่อปัญหาที่ Ben พบเห็นเป็นเช่นนี้ เขาจึงมีความตั้งใจที่จะดำเนินธุรกิจการรายงานข่าวที่ค่อนข้างสวนกระแสกับสิ่งที่เกิดขึ้น ณ ปัจจุบัน ซึ่งสิ่งที่เขาต้องการมุ่งหน้าทำต่อไปคือการใช้ข้อมูลความจริงมาเป็นพื้นฐานเพื่อต่อยอดการวิเคราะห์ รวมถึงอธิบายบริบทเชิงลึกให้กับผู้อ่าน เพื่อความเข้าใจสถานการณ์อย่างครอบคลุมแทนที่จะเข้าใจเพียงแค่ผิวเผิน
สำหรับข่าวด่วนจากเหตุการณ์สำคัญๆ นักข่าว Semafor จะใช้เครื่องมือ AI เพื่อค้นหารายงานและความเห็นจากแหล่งข่าวในทุกมุมโลก โดยข่าวที่ Signals หามาได้อาจจะมาจากสำนักข่าวจีน อินเดีย หรือรัสเซีย เป็นต้น แต่คนที่นำข้อมูลเหล่านี้มานำเสนอเป็นเรื่องเล่าข่าวอีกทีก็คือตัวของนักข่าวนั่นเอง
“คนทำอาชีพสายข่าวควรจะต้องใช้เครื่องมือเหล่านี้เพื่อให้ตัวเองอยู่รอดและเติบโตต่อไปในอนาคต” Noreen Gillespie ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารมวลชนของ Microsoft กล่าวถึงอุตสาหกรรมข่าวที่กำลังเปลี่ยนแปลงไปเพราะการมาของปัญญาประดิษฐ์
อ้างอิง: