วันนี้ (22 เมษายน) นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) เปิดเผยผลการประชุมของ ศบค. ชุดใหญ่ ครั้งที่ 7/2565 ระบุว่า ที่ประชุมได้มีการพิจารณาปรับระดับพื้นที่สีตามสถานการณ์ใหม่อีกครั้ง โดยจะมีผลตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2565 ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้
- ปรับพื้นที่สีส้ม (พื้นที่ควบคุม) จาก 20 เหลือ 0 จังหวัด
- ปรับจังหวัดพื้นที่สีเหลือง (พื้นที่เฝ้าระวังสูง) เพิ่มจาก 47 เป็น 65 จังหวัด
- ปรับจังหวัดพื้นที่สีฟ้า (นำร่องการท่องเที่ยว) จาก 10 เป็น 12 จังหวัด (เพิ่มจังหวัดระยองและสงขลา) และมีจังหวัดอื่นดำเนินการบางพื้นที่รวม 16 จังหวัด
ขณะที่มาตรการป้องกันควบคุมโรคโควิดต่างๆ ยังคงไม่อนุญาตให้เปิดผับบาร์คาราโอเกะเต็มรูปแบบ แต่สามารถปรับให้เป็นร้านอาหารได้ พร้อมปรับมาตรการบริโภคเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ในร้านอาหารหรือสถานที่ที่มีลักษณะเดียวกัน จากไม่เกิน 23.00 น. เป็นไม่เกินเที่ยงคืน
ส่วนแนวทางการจัดการผู้สัมผัสเสี่ยงสูง มีการปรับวันกักตัวจาก 7+3 วัน เปลี่ยนเป็น 5+5 วัน คือ กักตัว 5 วัน สังเกตอาการอีก 5 วัน และต้องตรวจ ATK ด้วยตนเองในวันที่ 10
และอีกไฮไลต์สำคัญคือการปรับมาตรการป้องกันโรคสำหรับการเดินทางเข้าประเทศ โดยจะยกเลิกระบบ Test & Go พร้อมปรับมาตรการที่จะยึดการฉีดวัคซีนเป็นหลัก ซึ่งสามารถแยกเป็น 2 รูปแบบ ดังนี้
- ผู้ที่ได้รับวัคซีนครบตามเกณฑ์: ให้ตรวจ ATK ด้วยตนเองระหว่างพำนักในประเทศ
- ผู้ที่ไม่ได้รับวัคซีนหรือไม่ครบตามเกณฑ์: ต้องยื่นหลักฐานผลตรวจ RT-PCR ไม่เกิน 72 ชั่วโมงก่อนเดินทางถึงประเทศไทย และเมื่อมาถึงไทยเข้ารับการกักตัวในระบบ Alternative Quarantine เป็นเวลา 5 วัน และวันที่ 4-5 ให้ตรวจ RT-PCR และให้ตรวจ ATK ด้วยตนเองระหว่างพำนักในประเทศ
อย่างไรก็ตาม สำหรับผู้เดินทางทั้ง 2 กลุ่มยังต้องลงทะเบียนผ่าน Thailand Pass และมีประกันภัย, วงเงินประกันภัย หรือประกันในรูปแบบอื่นๆ จำนวน 10,000 ดอลลาร์สหรัฐ มีผลบังคับใช้ 1 พฤษภาคม 2565
นอกจากนี้ ที่ประชุมยังเห็นชอบมาตรการเตรียมความพร้อมก่อนเปิดภาคเรียน 1/2565 โดยมีหลักการ 4 ข้อที่สถานศึกษาต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด ดังนี้
- สถานศึกษาประเมินตนเองเตรียมพร้อมก่อนเปิดภาคเรียนที่ 1/2565 ผ่าน TSC+
- นักเรียนอายุ 12-17 ปี ได้รับวัคซีนโควิดเข็มกระตุ้น (เข็ม 3) ผ่านระบบสถานศึกษา และเร่งฉีดวัคซีนโควิดในเด็กอายุ 5-11 ปี ตามความสมัครใจของผู้ปกครองและเด็ก
- นักเรียน ครู บุคลากร ปฏิบัติตามมาตรการ 6-6-7 อย่างเคร่งครัด เช่น เว้นระยะห่าง, สวมหน้ากาก 100%, ล้างมือ, ตรวจหาเชื้อด้วย ATK เมื่อมีอาการหรือเสี่ยง และหลีกเลี่ยงการรวมกลุ่มกัน
- กรณีพบนักเรียนติดเชื้อโควิดและเป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูง ให้สถานศึกษาปฏิบัติตามมาตรการอย่างเคร่งครัด
ทั้งนี้ ที่ประชุมได้รับทราบการบริจาควัคซีนให้กับต่างประเทศ โดยเป็น AstraZeneca ให้ประเทศเอธิโอเปีย 1 ล้านโดส และอัฟกานิสถานกับยูกันดา ประเทศละ 5 แสนโดส