เมื่อช่วงเวลา 11.00 น. ที่ผ่านมา (7 ส.ค.) ไพบูลย์ นลินทรางกูร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ทิสโก้ จำกัด ในฐานะประธานกรรมการสภาธุรกิจตลาดทุนไทย (FETCO) ได้เข้าหารือร่วมกับ อุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เกี่ยวกับการหากองทุนใหม่เพื่อทดแทนกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) โดยเปิดเผยรายละเอียดหลังการหารือว่าเบื้องต้นได้เสนอแนวทางการจัดตั้งกองทุนหุ้นยั่งยืน หรือ Sustainable Equity Fund (SEF) มาทดแทน LTF ที่กำลังจะหมดอายุลงภายในสิ้นปี 2562 เพื่อลดความเหลื่อมล้ำและเพิ่มสิทธิประโยชน์ทางภาษีให้กับประชาชนในวงกว้างมากขึ้น
ไพบูลย์เปิดเผยว่าแต่เดิม LTF เคยถูกมองว่าเป็นกองทุนเพื่อช่วยเหลือคนที่มีรายได้สูงมากกว่าคนที่มีรายได้ต่ำหรือปานกลาง ทำให้เกิดปัญหาความเหลื่อมล้ำ FETCO จึงได้เสนอให้มีการจัดตั้งกองทุน SEF เพื่อแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำนี้ โดยหลักการคือการลดสิทธิประโยชน์ของคนที่รายได้สูง และเพิ่มสิทธิประโยชน์ให้กับคนรายได้ต่ำหรือปานกลางให้มากยิ่งขึ้น
สำหรับรายละเอียดของกองทุน SEF ที่มีการเปิดเผยมาก่อนหน้านี้คือ SEF จะมีจุดเด่นที่ต่างจาก LTF 2 ข้อคือ
1. สามารถเพิ่มวงเงินการลงทุนสูงสุดได้ 30% ของรายได้พึงประเมิน และยอดรวมไม่เกิน 250,000 บาท จากเดิมที่เคยกำหนดให้สามารถลงทุนได้สูงสุดที่ 15% ของรายได้พึงประเมิน และยอดรวมไม่เกิน 500,000 บาท
2. ปรับเปลี่ยนประเภทของหลักทรัพย์ที่กองทุนรวมจะลงทุนได้ ด้วยการกำหนดสัดส่วนการลงทุน 65% ให้ลงทุนในกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ (Infrastructure Fund) กลุ่มหุ้นยั่งยืนที่ดำเนินธุรกิจโดยคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม สังคม และมีธรรมาภิบาล (Environmental, Social and Governance หรือ ESG) รวมถึงหุ้น SME ด้วย
โดยเบื้องต้นหลังการหารือ ประธานกรรมการสภาธุรกิจตลาดทุนไทยเปิดเผยว่ารัฐมนตรีกระทรวงการคลังเห็นด้วยกับหลักการดังกล่าวที่ต้องการจะขยายขอบเขตการลงทุนให้กว้างขึ้น แต่ขณะเดียวกันก็ต้องให้คำตอบกับสังคมได้ในการลดความเหลื่อมล้ำ อย่างไรก็ตาม เนื่องจากเพิ่งเป็นการหารือกันในครั้งแรก จึงยังไม่มีการตกลงกันในรายละเอียด ซึ่งหลังจากนี้ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของกระทรวงการคลังและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่จะดำเนินการต่อไป
สำหรับผลกระทบที่จะเกิดขึ้นหากมีกองทุน SEF มาแทนที่กองทุน LTF ไพบูลย์ให้ความเห็นกับ THE STANDARD ว่าไม่น่าจะมีผลกระทบต่อตลาดทุนมากนัก เพราะหากกองทุนนี้ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลในการให้สิทธิประโยชน์กับกองทุนประเภทใหม่ที่นำเสนอไป ก็จะทำให้เงินไหลเข้าสู่กองทุนประเภทใหม่เหมือนกับที่เคยไหลเข้า LTF
“ประโยชน์ก็ได้กับประชาชนทุกคน ในแง่ของประเทศก็ได้ในเรื่องของการสร้างเงินออมระยะยาวในระบบ ส่วนสถาบันการเงินก็สามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบผลิตภัณฑ์เพื่อรองรับความต้องการของประชาชนได้”
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์