หมายเหตุ: มีการเปิดเผยเนื้อหาของซีรีส์
จกป๊อปคอร์นอย่างต่อเนื่องกับซีรีส์ที่กำลังมาแรงทะยานสู่อันดับที่ 6 บน Netflix อย่าง See You in My 19th Life อีกหนึ่งผลงานจากช่อง tvN ที่สร้างจาก WEBTOON ยอดนิยมของนักเขียน อีฮเย ที่รับหน้าที่เป็นผู้เขียนบทในเรื่องนี้ด้วย ร่วมกับ อีนาจอง ผู้กำกับจาก Fight for My Way, Oh My Venus, Love Alarm และ Mine มาร่วมสร้างสรรค์ พร้อมกับนักแสดงนำอย่าง ชินฮเยซอน, อันโบฮยอน, อันดงกู และ ฮายุนคยอง
See You in My 19th Life เป็นซีรีส์ความยาวรวม 12 ตอน ที่นอกจากจะเป็นแนวโรแมนติกคอเมดี้ผสมดราม่าแล้ว ความน่าสนใจของผลงานชิ้นนี้อยู่ที่การนำกิมมิกความแฟนตาซีในแง่มุม ‘การระลึกชาติ’ มาเล่าผ่านตัวละคร บันจีอึม (รับบทโดย ชินฮเยซอน) หญิงสาวที่เกิดมาแล้ว 19 ชีวิต และสามารถจำเหตุการณ์จากชาติก่อนๆ รวมถึงตัวตนในอดีตชาติของตัวเองได้อย่างแม่นยำ
ซีรีส์ว่าด้วยเรื่องราวในชาติที่ 19 ของบันจีอึมที่ตั้งใจไว้ว่าจะกลับมาเกิดอีกครั้งและจะทำทุกวิถีทางเพื่อตามหา มุนซอฮา (รับบทโดย อันโบฮยอน) เด็กหนุ่มที่เป็นความรักของเธอ หรือ ยุนจูวอน ในช่วงชาติภพที่ 18 หลังจากที่ทั้งคู่ต้องพรากจากกันเพราะอุบัติเหตุทางรถยนต์ที่ทำให้เธอและเขาไม่ได้เติบโตมาด้วยกันอย่างน่าเสียดาย อีกทั้งการตายของยุนจูวอนยังเป็นปมในใจของมุนซอฮาจนถึงปัจจุบัน
ตอนนี้ See You in My 19th Life ดำเนินมาได้ครึ่งทางแล้ว ตลอด 6 ตอนที่ผ่านมาซีรีส์ได้พาผู้ชมไปเห็นถึงชีวิตและตัวตนในอดีตชาติของบันจีอึมที่ทำให้เธอในชาติภพที่ 19 กลายเป็นหญิงสาวมากความสามารถและทักษะครบครัน ไม่ว่าจะเป็น การเต้นฟลาเมงโก, ความรู้ทางประวัติศาสตร์ รวมไปถึงทักษะภาษาทั้งภาษาอังกฤษ, จีน, ญี่ปุ่น และอาหรับ อีกทั้งยังเล่าถึงความสัมพันธ์อา-หลานของเธอในชาติที่ 17 และ ชาชองฮวา (รับบทโดย คิมแอกยอง) คนในชีวิตเธอเพียงคนเดียวที่เชื่อเรื่องชาติภพ ที่ในชาตินี้เธอกลับมาทำตามคำสัญญาที่ให้ไว้กับหลานสาวของเธอว่าจะกลับมาหาอีกครั้ง แม้ว่าในชาตินี้เธอจะอายุเทียบเท่าที่จะเป็นลูกของหลานสาวเธอได้ก็ตาม
มากไปกว่านั้นซีรีส์ไม่ได้เล่าแค่ในมุมของคนที่ตายและเกิดใหม่ที่ระลึกชาติได้ แต่ยังพาผู้ชมไปเห็นมุมของคนที่ยังมีชีวิตอยู่ในชาติภพเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็น มุนซอฮา, ยุนโชวอน (รับบทโดย ฮายุนคยอง) รวมถึงแม่ของเธอในตอนที่เคยเป็นยุนจูวอนอย่าง โชยูซอน (รับบทโดย คังมยองจู) ที่ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหนแต่แผลใหญ่ๆ ที่ชื่อว่า ‘การสูญเสีย’ ไม่เคยหายไป แถมยังสามารถรู้สึกเจ็บได้ทุกครั้งเมื่อสะกิดมัน
สลับมาที่พาร์ตการแสดงที่ชินฮเยซอนยังคงมาตรฐานความน่ารักปนฮาในพาร์ตคอเมดี้เอาไว้ได้อย่างยอดเยี่ยม แม้ว่าเรื่องนี้ไม่ต้องไต่ระดับความฮาไปถึงซีรีส์ยอดฮิตติดเทรนด์อย่าง Mr. Queen แต่ทุกๆ ฉากคอเมดี้ของเธอกลายเป็นความตลกธรรมชาติที่ออกมาได้อย่างกลมกล่อม
ไปต่อที่พระเอกของเรื่องอย่างอันโบฮยอนที่สลัดลุคจากอัยการทหารจากเรื่อง Military Prosecutor Doberman สู่ผู้บริหารโรงแรมในลุคอบอุ่นแต่เต็มไปด้วยความเศร้าที่อันโบฮยอนถ่ายทอดออกมาผ่านสีหน้าและแววตาได้อย่างดีเยี่ยม จนทำให้คนดูอย่างเรารู้สึกอินไปกับชีวิตของเขาและอยากโอบกอดมุนซอฮาคนนี้ไม่แพ้บันจีอึมเช่นกัน
อีกหนึ่งความน่าสนใจคือนักแสดงเด็กที่มารับบทเป็นตัวละครหลักทั้ง 4 คนอย่าง คิมชีอา รับบทเป็น ยุนจูวอนในชาติที่ 18 ของบันจีอึม และ พัคโซอี ที่มารับบทเป็นบันจีอึมในชาติที่ 19 ต่อด้วย จองฮยอนจุน รับบทเป็น มุนซอฮา รวมถึง กีโซยู ที่รับบทเป็น ยุนโชวอน นอกจากการแสดงที่ทั้ง 4 คนถ่ายทอดออกมาได้สอดคล้องกับคาแรกเตอร์ของตัวละครในวัยปัจจุบันแล้ว ในพาร์ตดราม่าหนักๆ หรือแม้กระทั่งฉากน่ารักๆ เอง ถือว่าความสามารถของพวกเขาสะกดคนดูได้ทุกห้วงอารมณ์ไม่แพ้วัยไหนเลย
ในส่วนของพาร์ตโรแมนติกที่หากใครได้ดูก็จะเห็นการเข้าหามุนซอฮาอย่างโจ่งแจ้งของบันจีอึม ที่ชินฮเยซอนถ่ายทอดออกมาได้อย่างน่ารักกำลังพอดี ไม่มากและไม่น้อยเกินไป จึงทำให้หลายๆ ฉากที่บันจีอึมต้องหยอดมุนซอฮาหรือสารภาพความในใจ เชื่อว่าทำให้ใครหลายคนต้องยิ้มจิกหมอนไปตามๆ กัน
นอกจากความโรแมนติกของคู่พระนางแล้ว ด้านคู่รองอย่าง ฮาโดยุน (รับบทโดย อันดงกู) และยุนโชวอน ก็เป็นอีกคู่ที่ผู้เขียนเองก็ลุ้นว่าเมื่อไรที่ทั้งคู่จะขยับความสัมพันธ์กันเสียที เพราะอย่างที่รู้กันว่าฮาโดยุนเป็นรักแรกและรักเดียวของยุนโชวอน แต่เพราะฝ่ายชายตั้งกำแพงปิดกั้นไว้สูงมาก คนดูอย่างเราก็คงต้องเอาใจช่วยยุนโชวอนกันต่อไป
อีกสิ่งหนึ่งที่ผู้เขียนมองว่าเป็นความโรแมนติกไม่แพ้กัน คือความสัมพันธ์พี่น้องของยุนจูวอนและยุนโชวอน ที่ทั้งชินฮเยซอนและฮายุนคยองถ่ายทอดออกมาได้อย่างอบอุ่น และทำให้เราเชื่อว่าความสัมพันธ์พี่น้องของพวกเธอเต็มไปด้วยมวลแห่งความรักและความคิดถึงกันจริงๆ และเชื่อว่าตลอดครึ่งทางที่ผ่านมาสองพี่น้องคู่นี้คงทำให้ใครหลายคนเสียน้ำตากันไปไม่น้อย
ไปต่อที่อีกหนึ่งความโรแมนติกนั่นคือความสัมพันธ์เพื่อนสนิทระหว่างมุนซอฮาและฮาโดยุน ที่เป็นคู่หูกันมาตั้งแต่วัยรุ่นสู่ความสัมพันธ์เจ้านายและเลขาในปัจจุบัน ในตอนที่ผ่านมาเราจะเห็นว่าต่างฝ่ายต่างปกป้องและช่วยเหลือกันและกันมาตลอด แต่ในตอนล่าสุดซีรีส์ได้พาคนดูไปเห็นความขัดแย้งของทั้งคู่ที่ถึงขั้นชกต่อยกัน เนื่องจากมุนซอฮารู้ความจริงว่าพ่อของฮาโดยุนเสียชีวิตพร้อมกับยุนจูวอนในอุบัติเหตุรถยนต์คันเดียวกันกับเขาเหมือนกัน แต่ด้วยมิตรภาพอันยาวนานของพวกเขา คำ ‘ขอโทษ’ จึงไม่ใช่เรื่องยากที่จะทำเพื่อรักษาความสัมพันธ์ที่ดีแบบนี้ต่อไป
จนถึงตอนที่ 6 เนื้อเรื่องเดินทางมาถึงจุดที่มุนซอฮาสับสนทุกครั้งที่เขาอยู่ใกล้บันจีอึม เขาจะรู้สึกเหมือนว่ารักแรกของเขาอย่างยุนจูวอนอยู่กับเขาเสมอ รวมถึงการดำเนินมาถึงจุดที่บันจีอึมเผยความจริงกับยุนโชวอนว่าเธอคือพี่สาวที่กลับชาติมาเกิด แม้ว่าอาจจะดูง่ายขึ้นที่ยุนโชวอนเชื่อในสิ่งที่เธอพูด แต่ดูเหมือนว่าในตอนต่อไป การที่คนในภพชาติปัจจุบันเริ่มรู้ถึงความสามารถพิเศษในการระลึกถึงอดีตชาติของบันจีอึมจะสร้างความวุ่นวายใหม่ให้หลายๆ ตัวละครที่อยู่รอบตัวเธอหรือแม้แต่ตัวเธอเอง รวมถึงการปรากฏตัวของ คังมินกี (รับบทโดย อีแชมิน) ที่ยังไม่รู้ว่าเกี่ยวข้องกับบันจีอึมและมีผลกับเส้นเรื่องในทิศทางไหน คนดูอย่างเราก็คงต้องรอติดตามชมไปพร้อมๆ กันในตอนต่อไป
ระหว่างที่ได้ดู See You in My 19th Life ทั้ง 6 ตอน ผู้เขียนรู้สึกว่าซีรีส์สะท้อนภาพให้เราเห็นถึงความเจ็บปวดของมนุษย์เมื่อ ‘ยึดติด’ กับอดีตผ่านการจดจำอดีตชาติของบันจีอึม จาก 6 ตอนที่ผ่านมาเห็นได้ว่าไม่ว่าจะกี่ภพกี่ชาติเธอก็ยังคงจดจำทุกความเสียใจที่ผ่านมาได้เสมอ ก็คงเหมือนกับคนทั่วไปอย่างเราๆ ที่ไม่ต้องถึงขั้นระลึกชาติได้ แต่แค่กลับไปนึกถึงเรื่องราวที่เจ็บปวด อดีตก็เล่นงานกับความรู้สึกเราจนไม่มีชิ้นดีเช่นกัน
ภาพ: tvN
อ้างอิง: