เกิดอะไรขึ้น:
InnovestX Research ได้จัดทำบทวิเคราะห์พรีวิวผลประกอบการ 1Q67 ของ บมจ.เอ็นฟอร์ซ ซีเคียว (SECURE) ซึ่งคาดว่าจะรายงานผลประกอบการวันที่ 14 พฤษภาคม 2567
โดยคาดกำไร 1Q67 จะอยู่ที่ 31 ล้านบาท เติบโต 5.1%QoQ and 13.8%YoY ซึ่งถือว่าดีมาก เนื่องจากโดยปกติผลประกอบการ 1Q มักจะน้อยกว่า 4Q และด้วยฐานของกำไรที่สูงใน 1Q66 จาก Pent Up Demand ภายหลังสถานการณ์ Chip Shortage ที่ดีขึ้น และถือว่าดีกว่าที่คาดไว้ก่อนหน้านี้ที่จะติดลบทั้ง QoQ และ YoY
โดยปัจจัยขับเคลื่อนผลประกอบการ 1Q67 มาจากความต้องการของสินค้า Cybersecurity ที่ยังดีอย่างต่อเนื่อง ด้านรายได้คาดจะอยู่ที่ 330 ล้านบาท เติบโต 2.5%QoQ และ 31.4%YoY อัตรากำไรขั้นต้นคาดว่าจะทรงตัวจากไตรมาสก่อนหน้าที่ 19.9%
ถ้าการคาดการณ์กำไร 1Q67 ถูกต้องจะคิดเป็น 29% ของทั้งปีที่ประมาณการไว้ ประกอบกับโมเมนตัมของกำไรในเชิง YoY คาดว่าจะดีต่อเนื่องในช่วงที่เหลือของปี และคาดว่าจะสามารถทำจุดสูงสุดใหม่ได้ใน 4Q67 ซึ่งมักจะเป็นไตรมาสที่ดีที่สุดของปี ประกอบกับประมาณการการเติบโตของรายได้ที่ทำไว้อยู่ที่ 10% ซึ่งถือว่าต่ำกว่าเป้าของบริษัทที่ 15-20% ถ้าบริษัทสามารถทำได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ จะมี Upside ต่อประมาณการกำไรที่ 4.5-9% โดยจะมีการพิจารณาประมาณการอีกครั้งภายหลังบริษัทรายงานผลประกอบการ 1Q67
ก่อนหน้านี้บริษัท Group-IB (บริษัทที่ขายผลิตภัณฑ์ด้าน Cybersecurity ชั้นนำของโลก) ได้ออกมากล่าวว่า ประเทศไทยอยู่ในลำดับที่ 3 ในเอเชียสำหรับการโจมตีด้วย Ransomware หรือการโจมตีที่คล้ายการเรียกค่าไถ่ ล่าสุดทาง Kaspersky (บริษัทผู้นำด้านการพัฒนาซอฟต์แวร์ความปลอดภัยด้าน Cyber) ได้ออกมากล่าวว่า ในปี 2566 บริษัทไทยถูกโจมตีด้วย Ransomware เป็นลำดับที่ 1 ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้กว่า 109,315 รายการ โดยประเด็นนี้จะเป็นประเด็นผลักดันความต้องการด้าน Cybersecurity อย่างต่อเนื่อง
กระทบอย่างไร:
ในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา ราคาหุ้น SECURE ปรับลง 0.71% สู่ระดับ 13.90 บาท ขณะที่ SET Index ปรับลง 1.26% สู่ระดับ 1,359.94 จุด
กลยุทธ์การลงทุนและคำแนะนำ:
ราคาหุ้นเพิ่มขึ้น 6.1% YTD Outperform SET 10% โดยเชื่อว่าราคาหุ้นจะปรับตัวขึ้นต่อได้ตามแนวโน้มของผลประกอบการที่ยังเติบโตได้อย่างแข็งแกร่ง Valuation ถือว่าน่าสนใจเช่นกัน โดยซื้อขายที่ 13.4x P/E ปี 2567 เทียบกับการเติบโตของกำไรที่ 16.6% อยู่ที่ 107 ล้านบาท และเป็นการทำจุดสูงสุดใหม่อย่างต่อเนื่อง โดยที่ประมาณการดังกล่าวมีโอกาสที่จะเห็น Upside ด้วยเช่นกัน InnovestX Research คงคำแนะนำ ‘ซื้อ’ ด้วยราคาเป้าหมาย 18 บาทต่อหุ้น อ้างอิง 17x P/E ปี 2567
ปัจจัยเสี่ยงสำคัญที่ต้องติดตามคือการผันผวนของค่าเงินบาทที่อาจส่งผลกระทบเชิงลบต่ออัตรากำไรขั้นต้นในกรณีที่เงินบาทอ่อนค่าอย่างรวดเร็ว ความกังวลเรื่องค่าขนส่งสินค้าจากประเด็นความขัดแย้งในทะเลแดง ณ ปัจจุบันผลกระทบค่อนข้างที่จะจำกัด เนื่องจากบริษัทนำเข้าสินค้าที่เป็นฮาร์ดแวร์ทั้งหมดประมาณ 13-15% ของรายได้และส่วนใหญ่จะมาจากสหรัฐอเมริกา ซึ่งยังคงต้องติดตามประเด็นนี้อย่างต่อเนื่อง