วันนี้ (10 เมษายน) ประยุทธ เพชรคุณ รองอธิบดีอัยการ สำนักงานคดีพิเศษ และโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด พร้อมด้วย นาเคนทร์ ทองไพรวัลย์ รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด และคณะ ร่วมแถลงข่าวความคืบหน้ากรณีที่ ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ถูกกล่าวหาตามความผิดประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112
ประยุทธกล่าวว่า เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2567 อำนาจ เจตน์เจริญรักษ์ อัยการสูงสุด ได้มีคำสั่งให้สอบสวนในคดีนี้เพิ่มเติม เพื่อให้สิ้นกระแสความ และได้ให้พนักงานสอบสวนส่งรายงานการสอบสวนเพิ่มเติมมาภายในวันที่ 10 เมษายนนั้น วานนี้ (9 เมษายน) พนักงานสอบสวนได้ส่งผลการสอบสวนเพิ่มเติมมาเพียงบางประเด็นเท่านั้น ยังไม่ครบถ้วนทุกประเด็น
ดังนั้นอัยการสูงสุดจึงยังไม่อาจมีความเห็นหรือคำสั่งในทางคดีได้ จึงได้เลื่อนการฟังคำสั่งในคดีนี้อีกครั้งไปเป็นวันที่ 29 พฤษภาคม 2567 เวลา 09.00 น. ซึ่งวานนี้ได้แจ้งผลไปยังทักษิณแล้วว่า ผลการสอบยังไม่ครบถ้วน และวันนี้ทักษิณไม่ได้เดินทางมาที่สำนักงานอัยการสูงสุดเพื่อรับทราบคำสั่ง แต่ได้มอบอำนาจให้ผู้รับมอบอำนาจมารับทราบคำสั่งดังกล่าวเรียบร้อยแล้ว
ประยุทธกล่าวยืนยันว่า กรณีการเลื่อนฟังคำสั่งนั้นมี 2 กรณี คือ เลื่อนเพราะฝั่งหน่วยงานราชการ และเลื่อนเพราะเหตุปัจจัยของฝั่งผู้ที่ต้องมารับทราบนัด ซึ่งกรณีในวันนี้เป็นเหตุขัดข้องจากหน่วยงานราชการที่งานของกระบวนการยุติธรรมยังไม่แล้วเสร็จ
สำหรับประเด็นที่อัยการสูงสุดได้สั่งสอบเพิ่มเติมนั้น ยังคงไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ แต่มีความคืบหน้าไปแล้วกว่าร้อยละ 70-80 ซึ่งเป็นการสอบถ้อยคำกับบุคคลที่เกี่ยวข้อง ส่วนที่อยู่ระหว่างดำเนินการอีกร้อยละ 30 นั้น เป็นการดำเนินการด้านเอกสาร หรือด้านอื่นๆ เกี่ยวกับผู้ที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญต่างๆ และหากพนักงานสอบสวนได้ส่งประเด็นการสอบสวนเพิ่มเติมครบถ้วนก่อนวันที่ 29 พฤษภาคมนี้ คาดว่าไม่น่าจะมีเหตุขัดข้องให้ต้องเลื่อนการฟังคำสั่งในคดีออกไปอีก
ด้าน ณรงค์ ศรีระสันต์ อัยการพิเศษฝ่ายแผนช่วยเหลือทางกฎหมาย กล่าวว่า แนวทางการปฏิบัติของผู้ต้องหาหลังจากทราบวันนัดต่อไปแล้ว ผู้ต้องหาจะต้องมารายงานตัวด้วยตนเอง หากไม่มาต้องยื่นคำร้องเพื่อขอเลื่อนการรับฟังคำสั่งของพนักงานอัยการ พร้อมแสดงเหตุผลความจำเป็นเพื่อให้หัวหน้าอัยการใช้ดุลพินิจว่ามีเหตุควรอนุญาตให้เลื่อนหรือไม่ หากไม่มี พนักงานสอบสวนจะติดตามตัวด้วยการออกหมายจับเพื่อมาฟังคำสั่งในคดีต่อไป
นอกจากนี้ หากกระบวนการสั่งคดีของอัยการยังไม่สามารถทำได้ เนื่องจากกระบวนการทางกฎหมาย เช่น การสอบสวนเพิ่มเติมไม่แล้วเสร็จ ผู้ต้องหาสามารถมอบหมายให้นายประกัน ญาติ หรือทนายความ มารับฟังคำสั่งเลื่อนของอัยการได้
ด้าน วิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความ และผู้รับมอบอำนาจจากทักษิณ ให้สัมภาษณ์ภายหลังการแถลงข่าวของคณะอัยการสูงสุดว่า แนวทางการต่อสู้คดีไม่ขอลงรายละเอียด เนื่องจากเป็นความลับของแนวทางการต่อสู้คดีที่ทุกอย่างอยู่ในสำนวน และเกรงว่าจะกระทบต่อรูปคดี โดยคดีนี้ทางอัยการสูงสุดได้ขอให้มีการสอบสวนเพิ่มเติม และส่วนไหนที่มีความเกี่ยวข้องกับผู้ต้องหาตนก็จะชี้แจงเพิ่มเติม
ในส่วนของความมั่นใจในการต่อสู้คดี วิญญัติระบุว่า ไม่ขอบอกเป็นตัวเลข แต่ขอต่อสู้ตามสิทธิในเรื่องของพยานหลักฐานข้อเท็จจริงที่มี ประกอบกับเหตุผลและข้อกฎหมายจากประเด็น 2 ข้อกล่าวหา คือ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ และความผิดมาตรา 112 ที่ต้องต่อสู้ในข้อกฎหมายว่าเข้าองค์ประกอบหรือไม่ ในฐานะตัวแทนของผู้ต้องหา ได้ยื่นเอกสารทั้งหมดไปให้อัยการสูงสุดแล้ว หากอัยการสูงสุดพิจารณาว่ามีประโยชน์และครบถ้วนเป็นธรรมก็จะให้สอบเพิ่มเติม เหมือนกับครั้งนี้ที่มีการส่งสำนวนให้พนักงานสอบสวนเพิ่มเติมให้ครบถ้วนในทุกประเด็น
ในส่วนของทักษิณยังคงมั่นใจว่าไม่ได้มีการกระทำความผิดตามที่ถูกกล่าวหา ซึ่งทุกวันนี้ใช้ชีวิตตามปกติเหมือนประชาชนคนหนึ่งที่เป็นผู้สูงอายุที่รักษาตัวและต้องดูแลตัวเอง
ส่วนประเด็นการขอความเป็นธรรมทางคดีเพิ่มเติม วิญญัติกล่าวว่า ตอนนี้ฝั่งของผู้ต้องหาไม่มีการยื่นขอความเป็นธรรมเพิ่มเติมแล้ว เพราะทุกอย่างได้ทำสมบูรณ์ครบทุกประเด็น