กลายเป็นประเด็นสั่นสะเทือนความมั่นคงของสหรัฐฯ สำหรับกรณีการรั่วไหลของเอกสารลับ ‘ระดับสูง’ ด้านข่าวกรองและการทหาร ซึ่งถูกเผยแพร่ทางอินเทอร์เน็ตเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา โดยมีทั้งเอกสารข้อมูล แผนที่ แผนภูมิและภาพถ่าย และมีรายละเอียดสำคัญในหลายประเด็นที่น่าตกใจ ซึ่งเกี่ยวข้องทั้งจีน ประเทศในตะวันออกกลาง และแอฟริกา ตลอดจนข้อมูลสถานการณ์สงครามระหว่างรัสเซียและยูเครน เช่นการป้องกันทางอากาศของยูเครน
คำถามสำคัญที่สหรัฐฯ และทั่วโลกอยากรู้คือ ใครเป็นคนปล่อยเอกสารลับสุดยอดเหล่านี้ ซึ่งกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ยืนยันแล้วว่าเป็นของจริง และทำไปทำไม มีจุดประสงค์เพื่ออะไร?
มีเอกสารลับอะไรรั่วออกมาบ้าง
- เอกสารลับที่รั่วไหลออกมานี้ หลายสิบฉบับมีทั้งไทม์ไลน์และคำย่อทางทหารนับไม่ถ้วน โดยบางฉบับมีข้อความประทับระบุว่า ‘ลับสุดยอด’ ซึ่งถูกเผยแพร่ผ่านแพลตฟอร์มสื่อสารและส่งข้อความยอดนิยมอย่าง Discord, 4chan และ Telegram
- การรั่วไหลของเอกสารลับในครั้งนี้ เป็นหนึ่งในการละเมิดความมั่นคงที่ร้ายแรงที่สุดของสหรัฐฯ นับตั้งแต่เอกสาร วิดีโอ และข้อมูลทางการทูตมากกว่า 7 แสนรายการปรากฏบนเว็บไซต์ WikiLeaks ในปี 2013
- ที่สำคัญคือกรณีนี้ถือเป็นการรั่วไหลของข้อมูลลับสหรัฐฯ ‘ครั้งใหญ่ที่สุด’ ที่มีความเกี่ยวข้องกับสงครามในยูเครน นับตั้งแต่ที่รัสเซียเปิดฉากการรุกรานยูเครนอย่างเต็มรูปแบบเมื่อ 14 เดือนที่แล้ว โดยเอกสารบางฉบับมีอายุมากถึง 6 สัปดาห์ และมีความสำคัญค่อนข้างมาก ซึ่งข้อมูลในเอกสารอย่างน้อยหนึ่งรายการดูเหมือนจะผ่านการแก้ไขอย่างคร่าวๆ ในเวอร์ชันที่ใหม่กว่า
- ในประเด็นสงครามยูเครนนั้น เนื้อหาเอกสารมากกว่า 20 ฉบับ ระบุถึงรายละเอียดเกี่ยวกับการฝึกอบรมและยุทโธปกรณ์ต่างๆ ที่สหรัฐฯ จัดหาให้กับยูเครน และยังมีข้อมูลการรวบรวมกำลังพลใหม่ของทัพยูเครนหลายสิบกองพัน สำหรับการจู่โจมกองกำลังฝ่ายรัสเซียที่อาจเริ่มขึ้นภายในไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า
- ข้อมูลในเอกสารลับยังแสดงให้เห็นว่า กองพันต่างๆ ของยูเครนจะมีความพร้อมในช่วงเวลาไหน และแสดงรายการของรถถัง รถหุ้มเกราะ และปืนใหญ่ทั้งหมดที่พันธมิตรตะวันตกของยูเครนจัดหาให้
- อย่างไรก็ตาม มีการระบุข้อสังเกตว่า เวลาในการจัดส่งอุปกรณ์จะส่งผลต่อการฝึกอบรมและความพร้อมของยูเครน
- นอกจากนี้ ยังมีการระบุข้อมูลที่สหรัฐฯ ประมาณการตัวเลขทหารรัสเซียที่เสียชีวิตหรือบาดเจ็บในสงครามยูเครน ซึ่งคาดว่ามีจำนวนระหว่าง 1.89-2.23 แสนนาย ซึ่งใกล้เคียงกับตัวเลขความสูญเสียของฝ่ายยูเครน ที่สหรัฐฯ ประเมินว่ามีจำนวนประมาณ 1.24-1.31 แสนนาย
- อย่างไรก็ตาม เพนตากอน ‘มีความเชื่อมั่นต่ำ’ ในตัวเลขดังกล่าว เนื่องจากช่องว่างของข้อมูล ความปลอดภัยในการปฏิบัติงาน และความพยายามโดยเจตนา ซึ่งอาจเกิดจากทั้งสองอย่าง ที่มีจุดมุ่งหมายเพื่อทำให้เข้าใจผิด
- ทั้งนี้ เอกสารบางฉบับซึ่งเป็นแผนที่ มีการระบุข้อมูลของ ‘ช่วงเวลาที่พื้นดินจะกลายเป็นน้ำแข็ง’ ซึ่งเป็นข้อมูลการประเมินสภาพพื้นดินทั่วพื้นที่ภาคตะวันออกของยูเครนในช่วงฤดูใบไม้ผลิ
- เนื้อหาเอกสารลับยังเผยให้เห็นการวิเคราะห์ที่น่าวิตกเกี่ยวกับความสามารถในการป้องกันทางอากาศของยูเครนที่ลดน้อยลง อันเป็นผลจากความพยายามที่จะรักษาสมดุลของทรัพยากรที่มีอยู่อย่างจำกัด เพื่อปกป้องพลเรือน โครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญ และกองกำลังทหารแนวหน้า
- The New York Times ที่รายงานข่าวการรั่วไหลของเอกสารลับเหล่านี้ตั้งแต่วันเสาร์ (8 เมษายน) ที่ผ่านมา ชี้ว่าข้อมูลในเอกสารลับต่างๆ เผยให้เห็นว่าสหรัฐฯ มีความเชื่อมโยงอย่างลึกซึ้งกับการดำเนินสงครามยูเครนในแต่ละวันอย่างไร
- ขณะที่ Reuters ซึ่งตรวจสอบเอกสารลับเหล่านี้มากกว่า 50 ฉบับ ระบุถึงข้อมูลในประเด็นน่าสนใจที่ว่า ระบบป้องกันภัยทางอากาศ S-300 ของยูเครนจะหมดลงภายในวันที่ 2 พฤษภาคมได้อย่างไร จากอัตราใช้งานในปัจจุบัน
- เอกสารที่รั่วออกมาไม่เพียงแต่บอกอะไรมากมายเกี่ยวกับสถานะของกองทัพยูเครน แต่ยังระบุถึงประเด็นละเอียดอ่อนของชาติพันธมิตรอื่นๆ ของสหรัฐฯ ด้วย เช่น กรณีของเกาหลีใต้ ที่มีแผนลับในการจัดหากระสุนปืน 3.3 แสนนัดให้แก่ยูเครน
- นอกจากนี้ยังระบุถึงข้อมูลเกี่ยวกับหน่วยสืบราชการลับมอสสาด (Mossad) ของอิสราเอล ว่ากำลังสนับสนุนหรือกระตุ้นให้เกิดการประท้วงต่อต้านแผนการของนายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮูของอิสราเอล ที่กำลังพยายามควบคุมอำนาจตุลาการของประเทศ
สหรัฐฯ กังวลแค่ไหนกับการรั่วไหลของเอกสารลับเหล่านี้
- สำหรับสหรัฐฯ ในตอนนี้ แม้จะมีพันธมิตรอยู่มากมายหลายประเทศทั่วโลก แต่ในขณะเดียวกันก็มีปรปักษ์และโยงใยในความขัดแย้งทั้งทางทหารและทางการทูตในหลายประเทศ เช่น ซีเรีย เยเมน อิรัก และลิเบีย ขณะที่อิหร่านและซาอุดีอาระเบียก็ค่อยๆ ถอยห่างจากวงโคจรของสหรัฐฯ และกลายเป็นจีนที่เริ่มมีบทบาทตัวกลางสันติภาพในภูมิภาค
- ประเด็นการผูกโยงกับความขัดแย้งต่างๆ เหล่านี้ของสหรัฐฯ กลายเป็นปัจจัยที่ทำให้เห็นถึงความสำคัญของการรั่วไหลของเอกสารลับสุดยอดเหล่านี้ เนื่องจากมีโอกาสที่จะทำให้ศัตรูของสหรัฐฯ สามารถปรับยุทธศาสตร์ในการต่อกร อีกทั้งยังอาจเป็นโอกาสที่จะจำกัดศักยภาพของสหรัฐฯ ในการเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับประเด็นปัญหาต่างๆ ทั่วโลกด้วย
ใครอยู่เบื้องหลังการรั่วไหลของเอกสารลับ
- เอริค โทเลอร์ (Aric Toler) จากกลุ่มข่าวกรอง Open Source เชิงสืบสวน Bellingcat ชี้ว่ายังไม่สามารถเปิดเผยแหล่งที่มาดั้งเดิมของการรั่วไหลของเอกสารลับเหล่านี้ได้ แต่ไทม์ไลน์การปรากฏตัวของเอกสารเหล่านี้บนแพลตฟอร์มส่งข้อความต่างๆ เริ่มต้นขึ้นช่วงต้นเดือนมีนาคม
- โดยในวันที่ 4 มีนาคม ภายหลังเกิดการโต้เถียงเกี่ยวกับสงครามยูเครน บนเซิร์ฟเวอร์หนึ่งของ Discord ที่มีผู้เล่นเกม Minecraft เข้ามาใช้งาน ปรากฏว่ามีผู้ใช้รายหนึ่งเขียนข้อความว่า “ที่นี่มีเอกสารรั่วไหล” ก่อนที่จะมีการโพสต์เอกสารลับจำนวน 10 รายการ
- การรั่วไหลของเอกสารลับในลักษณะเช่นนี้ ถือเป็นรูปแบบการรั่วไหลที่ผิดปกติและแทบไม่เคยเกิดขึ้น ขณะที่ข้อมูลลับที่เผยแพร่ออกมา ยังเป็นข้อมูลที่ละเอียดอ่อนและอาจก่อให้เกิดความเสียหายได้
- ซึ่งแน่นอนว่ายูเครนย่อมไม่ปลื้มกับการปล่อยข้อมูลลับเหล่านี้ออกมา ท่ามกลางสถานการณ์รบช่วงฤดูใบไม้ผลิที่อาจเป็นจุดเปลี่ยนหรือจุดแตกหักสำหรับรัฐบาลเคียฟ และประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ในการปรับเปลี่ยนพลวัตในสนามรบ และกำหนดเงื่อนไขสำหรับการเจรจาสันติภาพที่อาจมีโอกาสเกิดขึ้นในภายหลัง
- ด้านบล็อกเกอร์ทางทหารหลายคนมองว่าการรั่วไหลของข้อมูลทั้งหมดเกี่ยวกับยูเครนนั้น อาจเป็นส่วนหนึ่งของแผนการของสหรัฐฯ ในการทำให้ผู้บัญชาการรบของรัสเซียเข้าใจผิด
- ซึ่งสิ่งที่น่าสังเกตคือ จนถึงตอนนี้ยังไม่มีแนวโน้มที่ยูเครนจะออกมาแสดงท่าทีเพื่อตอบโต้การรั่วไหลของข้อมูลลับที่มีความสำคัญเหล่านี้
- อย่างไรก็ตาม เมื่อพูดถึงการแฮ็กหรือการรั่วไหลของข้อมูลลับในสหรัฐฯ สองประเทศที่มักจะถูกกล่าวถึงทันทีคือรัสเซียและจีน
- แต่สำหรับกรณีนี้ พบว่าล่าสุดหน่วยงานและกระทรวงต่างๆ ของสหรัฐฯ กำลังสืบสวนและพิจารณาถึงความเป็นไปได้ที่การรั่วไหลนั้นอาจเกิดจากภายในประเทศเสียเอง
- ไมเคิล มัลรอย อดีตเจ้าหน้าที่อาวุโสของเพนตากอน ให้สัมภาษณ์ต่อ Reuters ว่า “ประเด็นสำคัญที่ต้องโฟกัสในตอนนี้คือการรั่วไหลของสหรัฐฯ เนื่องจากเอกสารจำนวนมากอยู่ในมือของสหรัฐฯ เท่านั้น”
- อย่างไรก็ตาม ทางด้าน Reuters รายงานข้อมูลจากเจ้าหน้าที่สืบสวนของสหรัฐฯ ที่เผยว่า ยังไม่ได้ตัดความเป็นไปได้เกี่ยวกับรัสเซียต่อเรื่องนี้ออกไปอย่างสิ้นเชิง
- ขณะที่เพนตากอนส่งเรื่องนี้ไปยังกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ ซึ่งเปิดการสอบสวนทางอาญาแล้ว
เรื่องราวและผลกระทบจากการรั่วไหลของเอกสารลับสุดยอดนี้จะเป็นอย่างไรต่อไป น่าติดตามอย่างใกล้ชิด
ภาพ: Alex Wong / Getty Images
อ้างอิง: