เจ้าหน้าที่เปิดเผยว่า เหตุระเบิดในรถตู้โดยสารในกรุงคาบูลวานนี้ (30 เมษายน) ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 1 คน ถือเป็นเหตุระเบิดครั้งที่สองในเมืองหลวงของอัฟกานิสถานในรอบ 2 วัน ในขณะที่ความกังวลด้านความปลอดภัยเพิ่มขึ้นก่อนวันอีดิลฟิตรี ซึ่งเป็นวันหยุดของชาวมุสลิม
กลุ่มรัฐอิสลาม (ไอเอส) ออกมาอ้างความรับผิดชอบต่อเหตุที่เกิดขึ้นวานนี้ ตามข้อมูลที่ระบุในแอป Telegram ของทางกลุ่ม ขณะที่ คาลิด ซาดราน โฆษกตำรวจของกรุงคาบูล ระบุกับสำนักข่าว Reuters ว่ามีผู้เสียชีวิตเป็นหญิง 1 ราย และมีผู้บาดเจ็บอีก 3 ราย
ทั้งนี้ เพียงหนึ่งวันก่อนหน้าก็เกิดเหตุระเบิด หลังพิธีกรรมทางศาสนาในวันศุกร์ที่มัสยิดในกรุงคาบูลที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตมาแล้ว
ความกังวลด้านความปลอดภัยได้เพิ่มสูงขึ้นทั่วทั้งอัฟกานิสถาน ในขณะที่ประเทศกำลังเตรียมฉลองวันอีดิลฟิตรีในวันอาทิตย์ ภายใต้การปกครองของกลุ่มตาลีบันเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 20 ปี หลังจากที่ตาลีบันถูกถอนจากอำนาจภายหลังการบุกอัฟกานิสถานของสหรัฐฯ ในปี 2001
กลุ่มตาลีบันกลับคืนสู่อำนาจเมื่อเดือนสิงหาคมปีที่แล้ว หลังจากที่กองกำลังต่างชาติถอนกำลังออกจากประเทศ และตั้งแต่นั้นมาอัฟกานิสถานก็ต่อสู้กับการโจมตีโดยกลุ่มไอเอสที่เพิ่มขึ้น
ทางการตาลีบันประกาศเมื่อวันเสาร์ (30 เมษายน) ว่าจะมีการเฉลิมฉลองวันอีดิลฟิตรีในวันรุ่งขึ้น ซึ่งนำไปสู่การยิงปืนเฉลิมฉลองที่ถนนในกรุงคาบูลในช่วงดึกของคืนวันเสาร์ ทั้งนี้ ทางการยังเคลื่อนไหวเพื่อบรรเทาความกลัวของประชาชนเกี่ยวกับความปลอดภัยก่อนวันอีดิลฟิตรีด้วย
“เราให้ความมั่นใจแก่เพื่อนร่วมชาติของเราว่าเราจะรับรองความปลอดภัยในช่วงอีด” โฆษกกระทรวงมหาดไทยอัฟกานิสถาน อับดุล นาฟี ทากอร์ กล่าว
ภาพ: JAVED TANVEER / AFP (นักรบตาลีบันยืนเฝ้าขณะที่ชาวมุสลิมเดินทางมาเพื่อละหมาดอีดิลฟิตรี ซึ่งเป็นจุดสิ้นสุดของเดือนรอมฎอน เดือนถือศีลอดอันศักดิ์สิทธิ์ ที่เมืองกันดาฮาร์ของอัฟกานิสถานในวันที่ 1 พฤษภาคม 2022)
อ้างอิง: