หลังจากที่ทางการจีนพยายามเข้ามาควบคุมบริษัทจีนในประเด็นต่างๆ อย่างต่อเนื่อง รวมถึงกรณีที่บริษัทจีนซึ่งเข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้นสหรัฐฯ จำเป็นจะต้องทำตามกฎเกณฑ์ของจีนควบคู่ไปด้วย และแม้ว่าจะมีกระแสข่าวที่ทางการจีนอยากจะให้บริษัทจีนกลับมาจดทะเบียนในตลาดหุ้นจีน แต่ล่าสุดจีนก็ได้ออกมาเปิดเผยว่ายินดีจะให้บริษัทเหล่านี้เข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้นสหรัฐฯ ต่อไป ตราบใดที่บริษัทเหล่านี้สามารถทำตามกฎเกณฑ์ได้ครบถ้วน
ล่าสุด ก.ล.ต. ของสหรัฐฯ โดย แกรี เจนส์เลอร์ (Gary Gensler) กล่าวว่า ประเด็นดังกล่าวเกี่ยวข้องกับนักลงทุนสหรัฐฯ อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ซึ่งในส่วนนี้ ก.ล.ต. ได้ขอให้บริษัทจีนเหล่านี้เปิดเผยข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับความเสี่ยงในประเด็นนี้ก่อนจะเข้าจดทะเบียนในตลาด
ทั้งนี้ การเข้ามาควบคุมอย่างเข้มข้นของทางการจีน รวมถึงการที่จะเปลี่ยนธุรกิจติวเตอร์ให้กลายเป็นธุรกิจไม่แสวงหากำไร นำมาซึ่งแรงขายอย่างหนัก ซึ่งแรงขายที่เกิดขึ้นในหุ้นเทคโนโลยีและการศึกษาของจีนทำให้มูลค่าลดลงไปแล้วกว่า 1 ล้านล้านดอลลาร์ นับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาบริษัทจีนที่เข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้นนิวยอร์กเป็นหนึ่งในรายได้อย่างงามของบรรดาธนาคารใน Wall Street ผ่านการทำดีลขายหุ้น IPO ซึ่งในปีนี้นับเป็นปีที่ดีที่สุดเป็นอันดับสอง หลังจากบริษัทต่างๆ ระดมทุนอย่างน้อย 1.57 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งมากกว่าการระดมทุนตลอดทั้งปี 2020 อิงจากข้อมูลของ Bloomberg
ปัจจุบันมีหุ้นจีนราว 70 บริษัท ที่มีแผนจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้นสหรัฐฯ ซึ่งบางบริษัทได้ถูกเบรกไว้โดยทางการจีนจากการเข้ามาคุมเข้ม เช่น Daojia ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มให้บริการดูแลรักษาบ้าน รวมถึง Lalamove ผู้ให้บริการด้านโลจิสติกส์ ต่างชะลอแผนการเข้าจดทะเบียน
ทั้งนี้ แกรี เจนส์เลอร์ กล่าวว่า บริษัทจีนเหล่านี้ควรจะเปิดเผยความเสี่ยงสำคัญที่อาจกระทบต่อผลประกอบการของบริษัท ซึ่งเกิดจากนโยบายของทางการจีน รวมถึงเปิดเผยเกี่ยวกับความเสี่ยงที่ว่าบริษัทเหล่านั้นถูกสั่งห้ามจากทางการจีนไม่ให้จดทะเบียนในตลาดหุ้นสหรัฐฯ
แกรี เจนส์เลอร์ ระบุว่า เขาได้ขอให้เจ้าหน้าที่ของ ก.ล.ต. ตรวจสอบไฟลิ่งของแต่ละบริษัทที่ดำเนินธุรกิจในจีนอย่างละเอียดอีกครั้ง
อ้างอิง:
