วันนี้ (12 เมษายน) เอกวรัญญู อัมระปาล โฆษกกรุงเทพมหานคร เปิดเผยความคืบหน้าปฏิบัติการค้นหาและช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากเหตุอาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ถล่มที่ดำเนินมาอย่างต่อเนื่อง แม้จะอยู่ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ โดยขณะนี้ยอดผู้ประสบเหตุอยู่ที่ 103 ราย เสียชีวิตแล้ว 35 ราย (พบเพิ่มอีก 8 รายจากเมื่อวานนี้ 11 เมษายน) บาดเจ็บ 9 ราย และยังอยู่ระหว่างติดตามอีก 59 ราย
เจ้าหน้าที่เปิดพื้นที่โซน B4 และ C1 ตามคำแนะนำของทีมค้นหาและกู้ภัย (USAR) ที่พบสัญญาณบางอย่างซึ่งอาจเป็นแสงโทรศัพท์จากผู้ประสบภัยที่ยังมีชีวิต อย่างไรก็ตามการทำงานในบริเวณนี้ต้องใช้ความระมัดระวังสูง เนื่องจากมีความเสี่ยงจากการพังทลายเพิ่มเติมของโซน E โดยจะมีการลดระดับความสูงของโซน E ควบคู่กับการขุดค้นในโซน B4 และ C1
เอกวรัญญูระบุว่า โซน B4 ซึ่งอยู่บริเวณบันไดของอาคาร ถือเป็นจุดสำคัญที่ทีมกู้ภัยจากอิสราเอลเคยตรวจพบสัญญาณชีพ ทีมเจ้าหน้าที่ขุดใกล้ถึงจุดที่พบสัญญาณแล้ว แต่ยังไม่สามารถดำเนินการต่อได้เนื่องจากติดแผ่นปูนขนาดใหญ่ การเปิดพื้นที่ในจุดนี้มีโอกาสพบผู้เสียชีวิตสูง อย่างไรก็ตามยังมีความหวังว่าจะพบผู้รอดชีวิตเช่นกัน
ปัจจุบันการค้นหาใช้เครื่องจักรทำงานเต็มกำลัง พร้อมเจ้าหน้าที่ประจำตามโซนต่างๆ และมีการฉีดน้ำควบคุมฝุ่นละออง เมื่อเครื่องจักรหยุด เจ้าหน้าที่จะเข้าไปปฏิบัติการค้นหาร่างผู้เสียชีวิต ชิ้นส่วนอวัยวะ และทรัพย์สินต่างๆ โดยร่างผู้เสียชีวิตและชิ้นส่วนที่พบจะถูกนำส่งพิสูจน์ยืนยันตัวบุคคล ขณะที่ทรัพย์สินจะถูกส่งต่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการตามขั้นตอน
โฆษกกรุงเทพมหานครกล่าวต่อว่า มีการเร่งเปิดพื้นที่ในโซน B เนื่องจากคาดว่าเป็นจุดที่อาจมีโพรง และเคยเป็นทางสัญจรที่คนงานจำนวนมากใช้เป็นเส้นทางอพยพ จึงเป็นอีกจุดสำคัญที่อาจมีผู้รอดชีวิตหลงเหลืออยู่
“หน่วยงานทุกฝ่ายยังคงทำงานแข่งกับเวลา เพื่อค้นหาและช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างสุดความสามารถแม้อยู่ในช่วงวันหยุดยาว” เอกวรัญญูกล่าว
