มรดกแห่งเรือนเวลากับความงามด้วยวัสดุโลหะและกลิ่นอายความวินเทจ ทั้งยังเติมเต็มลุคการผจญภัยและอันตรายแบบ ‘เจมส์ บอนด์’ กับ OMEGA Seamaster Diver 300M เรือนเวลาที่มีชื่อเล่นว่า Daniel Craig
Seamaster Diver 300M มรดกนาฬิกาใต้สมุทรจาก OMEGA
มรดกเรือนเวลาของ OMEGA มีอยู่มากมาย แต่หนึ่งในผลงานชิ้นเอกคือ Seamaster Diver 300M อย่างปฏิเสธไม่ได้ Seamaster Diver 300M เผยโฉมความงามครั้งแรกในปี 1993 เพื่อสานต่อมรดกแห่งเรือนเวลาสำหรับนักผจญภัยใต้น้ำมาตั้งแต่ปี 1948
Seamaster Diver 300M
มรดกแห่งเรือนเวลาสำหรับนักผจญภัยใต้น้ำ
อะไรทำให้ Seamaster Diver 300M เป็นนาฬิกา OMEGA ที่โด่งดัง?
นับตั้งแต่การเปิดตัวครั้งแรกราว 30 กว่าปีที่แล้ว Seamaster Diver 300M ก็ครองใจเหล่านักดำน้ำมืออาชีพ รวมถึงนักผจญภัยทางทะเลและมหาสมุทร ด้วยฟังก์ชันการบอกเวลาที่พร้อมในทุกสถานการณ์น้ำลึก
Seamaster Diver 300M
ครองใจเหล่านักดำน้ำด้วยดีไซน์พรีเมียม
ไม่เพียงแต่ฟังก์ชันที่ครองใจ แต่ภาพลักษณ์ของความเป็นเรือนเวลาของสุภาพบุรุษและจารชนอย่าง เจมส์ บอนด์ ยิ่งทำให้ความนิยมสูงขึ้นจากการเป็นนาฬิกาประจำตัวของสายลับ 007 ในภาค GoldenEye ในปี 1995 และกลายเป็นเรือนเวลาประจำจารชนผจญอันตรายเรื่อยมา
ความนิยมกลับมาพุ่งสูงเมื่อ Daniel Craig หนึ่งในนักแสดงสายลับ 007 และแอมบาสเดอร์ของ OMEGA สวมใส่นาฬิการุ่นใหม่เรือนแรกตั้งแต่ช่วงฤดูร้อนที่ผ่านมา ระหว่างชมมหกรรมกีฬาโอลิมปิก ปารีส 2024 โดยนาฬิกาที่เขาสวมเป็นนาฬิการุ่นสีดำที่มาพร้อมกับวัสดุสเตนเลสสตีล ซึ่งดึงดูดสายตาหลายต่อหลายคนเป็นอย่างมาก และตั้งตารอการเผยโฉมอย่างเป็นทางการของคอลเล็กชัน
Daniel Craig กับลุคสายลับเจมส์ บอนด์ และนาฬิกา OMEGA
การปรากฏตัวของ Seamaster Diver 300M เป็นการกลับมาอย่างยิ่งใหญ่ของ OMEGA ในโลกแห่งนาฬิกาดำน้ำ หลังทำได้อย่างน่าจดจำในช่วงทศวรรษที่ 60 และ 70 ซึ่งสไตล์ดังกล่าวก็กลายเป็นความคลาสสิกแห่งโลกนาฬิกาใต้น้ำอย่างแท้จริง
เจาะลึกฟังก์ชัน Seamaster Diver 300M ความงามเหนือกาลเวลา
Seamaster Diver 300M ออกแบบในแนวคิดการผสานความงดงามเหนือกาลเวลาเข้ากับฟังก์ชันการใช้งานเหนือคำบรรยายในโลกใต้น้ำ
เอกลักษณ์ที่โดดเด่นที่สุดของเรือนเวลาแห่งมหาสมุทรนี้ก็คือ
- เรือนเวลาขนาด 42 มม. ขนาดพอดีข้อมือ
- กระจกแซฟไฟร์ทรงโดม มอบสัมผัสแห่งความวินเทจ
- สายนาฬิกาโลหะถักที่เป็นสไตล์เดียวกับเรือนเวลาของบอนด์ เติมเต็มลุคการผจญภัยให้ผู้สวมใส่
ขนาด 42 มม. กระจกแซฟไฟร์ทรงโดม และสายนาฬิกาโลหะถัก
คอลเล็กชันจะประกอบไปด้วยตัวเลือกถึง 4 แบบที่แตกต่างกัน ซึ่งนำเสนอพร้อมสายนาฬิกาโลหะถักหรือสายนาฬิกายาง
- รุ่นสเตนเลสสตีลที่มาพร้อมกับขอบตัวเรือนอะลูมิเนียมสีดำ และหน้าปัดอะลูมิเนียมสีดำที่สลักด้วยเลเซอร์เป็นลวดลายคลื่น
- รุ่นสเตนเลสสตีลที่มาพร้อมกับขอบตัวเรือนไทเทเนียมเกรด 5 และหน้าปัดสเตนเลสสตีลเคลือบ PVD ขัดด้าน
ตัวเลือก 4 แบบที่แตกต่างกัน
Seamaster Diver 300M เพียบพร้อมด้วยมาตรฐานระดับสูงของ OMEGA ทั้งด้านความเที่ยงตรง ประสิทธิภาพ และความต้านทานสนามแม่เหล็ก นาฬิกาแต่ละรุ่นล้วนขับเคลื่อนด้วยกลไก Co-Axial Master Chronometer Calibre 8806 ซึ่งสามารถรับชมได้ผ่านกระจกแซฟไฟร์บนฝาหลัง โดดเด่นด้วยหน้าปัดลวดลายคลื่น เข็มวินาทีแบบฉลุ และฮีเลียมวาล์วที่ตำแหน่ง 10 นาฬิกา
กลไก Co-Axial Master Chronometer Calibre 8806
Seamaster Diver 300M รุ่นใหม่จะแตกต่างไปจากสไตล์แบบเซรามิกที่คุ้นเคยในช่วงหลายปีที่ผ่านมา โดยจะเปลี่ยนไปใช้แรงบันดาลใจมาจากนาฬิกา Seamaster Diver 300M 007 Edition ที่ถูกสวมใส่ในภาพยนตร์สายลับ 007 ภาค No Time to Die แทน
Seamaster Diver 300M เป็นมรดกแห่งความงาม บอกเวลาอย่างแม่นยำ และมีความทนทานที่อยู่เหนือกาลเวลา สำหรับผู้ที่รักการผจญภัยและต้องการสไตล์ที่โดดเด่น Seamaster Diver 300M เป็นตัวเลือกที่ไม่มีวันผิดพลาด พร้อมให้คุณร่วมค้นพบได้แล้ววันนี้: https://www.omegawatches.com/th-th/watches/seamaster/diver-300-m/catalog
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเรือนเวลาได้ที่:
- OMEGA สาขาเซ็นทรัล เอ็มบาสซี โทร. 0 2160 5959
- OMEGA สาขาสยามพารากอน โทร. 0 2129 4878
- OMEGA สาขาเซ็นทรัล ภูเก็ต ฟลอเรสต้า โทร. 0 7651 0818
- LINE OA @OMEGAThailand
บทความที่เกี่ยวข้อง
- Swatch และ OMEGA เปิดตัวนาฬิกา MoonSwatch รุ่น Mission to the Super Blue Moonphase
- OMEGA AND THAI OLYMPIANS 9 นักกีฬาไทยกับนาฬิการุ่น Seamaster Diver 300M “Paris 2024”
- ชมคลิป: ดื่มกาแฟกับ เจมส์ จิรายุ ระหว่างดูโอลิมปิกเกมส์ที่ปารีสกับ OMEGA | Coffee Minute with James Jirayu