ใกล้เข้ามาทุกทีแล้ว สำหรับมหกรรมกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ที่ประเทศไทยจะรับหน้าที่เป็นเจ้าภาพ จัดการแข่งขันระหว่างวันที่ 9-20 ธันวาคม 2025
หากย้อนกลับไปดูต้นกำเนิดของรายการนี้ ต้องย้อนไปไกลถึงปี 1958 เมื่อ 6 ชาติในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ได้แก่ ไทย มาเลเซีย เวียดนาม ลาว พม่า และกัมพูชา รวมตัวกันก่อตั้ง ‘สหพันธ์กีฬาแหลมทอง’ และจัดการแข่งขันกีฬาแหลมทองครั้งแรกในปีถัดมา (1959) ที่กรุงเทพมหานคร
จากเวทีเล็กในวันนั้น สู่เวทีใหญ่ของภูมิภาค การแข่งขันได้เติบโตขึ้นพร้อมกับการเพิ่มจำนวนสมาชิกเป็น 10 ประเทศในอาเซียน และเปลี่ยนชื่อมาเป็น ‘ซีเกมส์’ อย่างเป็นทางการในปี 1977
ตลอดระยะเวลากว่า 60 ปีที่ผ่านมา ซีเกมส์ได้กลายเป็นเวทีแห่งความทรงจำของนักกีฬาไทยมากมาย ทั้งช่วงเวลาแห่งชัยชนะ น้ำตา และความภูมิใจที่ยังตราตรึงในหัวใจแฟนกีฬาทั่วประเทศ
บันทึกความยิ่งใหญ่ซีเกมส์
ซีเกมส์ที่ดูจะได้รับความสนใจมากที่สุด เห็นจะเป็นการแข่งขันครั้งที่ 31 ในปี 2021 ที่ประเทศเวียดนาม เพราะเป็นช่วงหลังเกิดการระบาดอย่างหนักของโควิด-19 ทำให้ทั่วโลกต้องออกมาตรการควบคุมโรคอย่างเข้มแข็ง แต่ในการแข่งขันครั้งนี้ กลับมีนักกีฬามากถึง 5,467 คน จาก 10 ชาติอาเซียน เข้าร่วมแข่งขัน และเจ้าภาพก็ดำเนินการจัดแข่งได้อย่างยอดเยี่ยม สร้างความประทับใจให้กับเหล่านักกีฬาจากชาติสมาชิกเป็นอย่างมาก
แต่หากจะกล่าวถึงการแข่งขันซีเกมส์ ที่มีจำนวนนักกีฬาเข้าร่วมมากที่สุดแล้ว อันดับ 1 ต้องยกให้การแข่งขันครั้งล่าสุด ในซีเกมส์ ครั้งที่ 32 ปี 2023 ที่กรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา มีนักกีฬาเข้าร่วมแข่งขันรวมทุกชาติ มากถึง 6,210 คน มากที่สุดก็คือนักกีฬาเจ้าภาพ กัมพูชา 896 คน รองลงมาก็คือนักกีฬาจากประเทศไทย 877 คน และนักกีฬาจากประเทศอินโดนีเซีย 599 คน
ปิดท้ายโมเมนต์ดีๆ ของการทำสถิติคว้าเหรียญทองมากที่สุดของทีมชาติไทย จากการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 24 ที่จังหวัดนครราชสีมา ประเทศไทย เป็นเจ้าภาพในปี 2007 ครั้งนั้นทีมไทย คว้าเหรียญทองได้มากเป็นประวัติศาสตร์ถึง 183 เหรียญทอง ทำลายสถิติที่ 157 เหรียญทอง ที่ทัพนักกีฬาไทย เคยทำไว้ ในซีเกมส์ ครั้งที่ 18 ที่จังหวัดเชียงใหม่ เป็นเจ้าภาพ ในปี 1995
ดาวเด่นแห่งซีเกมส์ จากอดีตถึงปัจจุบัน
ในการแข่งขันซีเกมส์ 2023 ทีมกรีฑาไทย ก็ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม และแจ้งเกิดนักกีฬาหลายคน โดยเฉพาะ บิว-ภูริพล บุญสอน แต่โมเมนต์น่าสนใจ น่าจะเป็นการคว้าเหรียญทอง วิ่ง 100 เมตร ของ ต้า-สรอรรถ ดาบบัง ที่ต้องใช้เทคโนโลยีภาพถ่ายมาตัดสินกันเลยทีเดียว
ครั้งนั้น บิว-ภูริพล นับเป็นนักกีฬาความหวังสูงสุดของแฟนกรีฑาไทย แต่ทว่าเขาได้รับบาดเจ็บในการแข่งขันรอบคัดเลือก ภาระหนักจึงตกไปที่ ต้า-สรอรรถ เขาให้สัมภาษณ์หลังแข่งขันว่า รู้สึกกดดันจนถึงกับนอนไม่หลับเลยทีเดียว
แม้ว่า ซีเกมส์ จะเป็นเวทีแจ้งเกิดให้กับนักกีฬาไทยหลายต่อหลายคน แต่ที่คนไทยจำได้ไม่ลืม ก็คือเขาคนนี้ ซิโก้-เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง ผู้ยิงประตูชัยให้ทีมชาติไทย คว้าเหรียญทองได้สำเร็จ ในซีเกมส์ ครั้งที่ 17 (ปี 1993) ด้วยลีลาการตีลังกา หลังการทำประตู ทำให้เขาได้รับฉายา ‘ศูนย์หน้าจอมตีลังกา’ จากสื่อในยุคนั้นเลยทีเดียว
อีกคนที่ไม่กล่าวถึงไม่ได้ นั่นก็คือ โจ้-สืบศักดิ์ ผันสืบ เจ้าของฉายา ‘โจ้หลังเท้า’ กับหน้าตาที่หล่อเหลา ราวพระเอกหนังและรูปร่างสูงใหญ่ แต่ที่น่าประทับใจคือความสามารถในเชิงกีฬาที่โดดเด่น ทำให้เขากลายเป็นที่กล่าวขาน และจดจำของแฟนกีฬาชาวไทย สืบศักดิ์ ลงแข่งขันในกีฬาซีเกมส์ ในนามทีมชาติไทยถึง 7 สมัย ระหว่างปี 1997-2009 ทำไปทั้งสิ้น 13 เหรียญทอง
ดราม่า และเบื้องหลังวงการกีฬา
เมื่อพูดถึงกีฬาตะกร้อ ก็ต้องนึกถึงโมเมนต์นี้ ในซีเกมส์ ครั้งที่ 24 ในปี 2007 ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ
ทางฝั่ง มาเลเซีย ที่เป็นคู่ปรับมายาวนาน ในการชิงเหรียญทอง จากกีฬาประเภทนี้กับไทย ประกาศถอนตัวจากการแข่งขัน เนื่องจากไม่พอใจที่มีการปรับกติกาการแข่งขันใหม่ เกี่ยวกับอุปกรณ์การแข่งขัน นั่นก็คือลูกตะกร้อ ทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักในช่วงเวลานั้น
ซีเกมส์ ซีโกง เกิดขึ้นบ่อยครั้งที่มีการแข่งขัน แต่ที่คนไทยจดจำได้ไม่ลืม คือการแข่งขันเทควันโด ในซีเกมส์ ครั้งที่ 23 ที่ประเทศฟิลิปปินส์ ในปี 2005 รอบชิงชนะเลิศ รุ่นน้ำหนักไม่เกิน 47 กก. ‘น้องวิว’ เยาวภา บุรพลชัย นักกีฬาความหวังของไทย ที่เพิ่งคว้าเหรียญทองแดงในโอลิมปิกเกมส์ ที่กรุงเอเธนส์ มาหมาดๆ ลงแข่งขันพบนักกีฬาเจ้าภาพฟิลิปปินส์ ผลการแข่งขัน เยาวภา แพ้แบบค้านสายตาจนเธอถึงกับวิ่งชูป้าย Fair Play ไปรอบสนาม
เหตุการณ์นี้เกือบจะบานปลายเป็นปัญหาการเมืองระหว่างประเทศ เมื่อ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ซึ่งดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของไทยในขณะนั้น ออกมาให้สัมภาษณ์สื่อและแสดงถึงความไม่พอใจอย่างรุนแรง ก่อนที่หลายฝ่ายจะช่วยกันเจรจา จนเรื่องราวสงบลงด้วยดีในที่สุด
ว่าด้วยเรื่องดราม่า… ฟุตบอลไทย ในซีเกมส์ ก็เกิดมาหลายต่อหลายครั้ง ทั้งการตกรอบแรก ในซีเกมส์ ครั้งที่ 25 ที่ลาว ในปี 2009 แต่ครั้งที่ดูแฟนบอลไทยจะอินมากที่สุด ก็น่าจะเป็นซีเกมส์ครั้งล่าสุด เมื่อ 2 ปีที่แล้ว ที่ประเทศกัมพูชา รอบชิงชนะเลิศฟุตบอลชาย ที่อินโดนีเซีย ชนะ ไทย ไป 5-2 ประตู เกมนี้เดือดทั้งในสนามและบนอัฒจันทร์คนดูกันเลยทีเดียว
และในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า ซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ที่ประเทศไทยจะรับหน้าที่เป็นเจ้าภาพ พร้อมจัดการแข่งขันใน 3 จังหวัดทั่วประเทศ กำลังจะเปิดฉากขึ้นอีกครั้ง
คำถามคือ… ทัพนักกีฬาไทยจะสามารถสร้างผลงานได้ตามความคาดหวังหรือไม่?
นั่นคือคำตอบอาจยังไม่มีใครรู้ แต่สิ่งหนึ่งที่แน่นอน คือแรงใจและแรงเชียร์จากแฟนกีฬาชาวไทย จะยังคงเป็นพลังสำคัญที่ส่งต่อไปถึงพวกเขาเสมอ
แล้วมาเชียร์ทีมไทยไปด้วยกัน 🇹🇭💪
