สกอตแลนด์เป็นอีกหนึ่งชาติล่าสุดที่หันมาใส่ใจกับการรักษาสิ่งแวดล้อมอย่างจริงจัง เมื่อรัฐบาลประกาศเตรียมผลักดันให้ประชากรในประเทศหันมาใช้รถยนต์พลังงานทางเลือก เช่น รถยนต์พลังงานไฟฟ้า หรือ รถยนต์ที่มีอัตราการปล่อยมลพิษต่ำแทนการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิลให้ได้ในอีก 15 ปีที่จะถึงนี้
นิโคลา สเตอร์เจียน (Nicola Sturgeon) รัฐมนตรีหญิงของสกอตแลนด์กล่าวว่า “จุดมุ่งหมายของพวกเราคือการเลิกใช้รถยนต์เชื้อเพลิงดีเซลและรถยนต์เชื้อเพลิงฟอสซิลทั่วไปให้ได้ภายในปี 2032”
และเพื่อให้แผนการดังกล่าวลุล่วงทันกำหนดการ นางนิโคลาได้เสนอนโยบายปฏิรูปลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สู่อากาศด้วยการสนับสนุนให้คนหันมาใช้รถยนต์พลังงานทางเลือก เช่น รถยนต์พลังงานไฟฟ้า (EV: Electric Vehicle) มากขึ้น และยังเตรียมทุ่มงบประมาณให้แต่ละเขตท้องถิ่นในแต่ละเมืองติดตั้ง EV Station หรือสถานีชาร์จประจุไฟฟ้า เพื่อหวังช่วยกระตุ้นทางอ้อมให้คนหันมาสนใจการใช้รถยนต์พลังงานไฟฟ้า
นอกจากนี้ยังเตรียมเปิดตัวถนนไฮเวย์พลังงานไฟฟ้าสาย ‘A9’ ที่จะมีการติดตั้งสถานีชาร์จประจุไฟฟ้าเรียงรายเป็นจำนวนมากตลอดถนนทั้งสาย นโยบายล่าสุดของสกอตแลนด์นี้เปรียบเสมือนการชิงตัดหน้าอังกฤษและฝรั่งเศสในการผลักดันให้ประชาชนใช้รถยนต์พลังงานทางเลือก เนื่องจากทั้งสองชาติได้ตั้งเป้าไว้ว่า พวกเขาจะบรรลุนโยบายการใช้รถยนต์พลังงานทางเลือกให้ได้ภายในปี 2040 นี้ ซึ่งล่าช้ากว่าสกอตแลนด์ถึง 8 ปี
Photo: MaxPixel.FreeGreatPicture.com
อ้างอิง: