×

ทำไมการประชุมสุดยอดองค์การความร่วมมือเซี่ยงไฮ้ ถึงเป็นโอกาสที่จีนจะประกาศอิทธิพลต่อโลก?

28.08.2025
  • LOADING...
การประชุม SCO

ช่วงปลายสัปดาห์นี้ ต่อเนื่องไปถึงสัปดาห์หน้า จะเป็นช่วงเวลาแห่งการทูตอันเข้มข้นของจีน จากการเตรียมเป็นเจ้าภาพจัดประชุมสุดยอดองค์การความร่วมมือเซี่ยงไฮ้ (Shanghai Cooperation Organization : SCO) ที่เมืองเทียนจิน ระหว่างวันที่ 31 สิงหาคม – 1 กันยายน ต่อด้วยการจัดขบวนพาเหรดทางทหารอย่างยิ่งใหญ่ในกรุงปักกิ่ง เพื่อรำลึกถึงการสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2  ครบรอบ 80 ปี ในวันที่ 3 กันยายน 

 

โดยการเข้าร่วมของผู้นำโลกใน 2 อีเวนต์ใหญ่นี้ ถือเป็นโอกาสสำคัญ ที่จีนจะได้แสดงสามารถอิทธิพลทางการทูตและวางตำแหน่งตนเองในฐานะมหาอำนาจที่น่าเกรงขาม ในช่วงเวลาที่ความขัดแย้งและความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ทั่วโลกกำลังทวีความรุนแรง

 

ทำไม SCO จึงสำคัญ?

 

SCO ถือเป็นเวทีประชุมที่มีความสำคัญอย่างยิ่ง เนื่องจากเป็นองค์กรความร่วมมือด้านการเมืองและความมั่นคงระหว่างรัฐบาลที่ใหญ่ที่สุดในโลก ขณะที่การประชุมสุดยอด SCO ครั้งนี้จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 5 และถือเป็นการประชุมที่ใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่ก่อตั้งองค์กร

 

กระทรวงการต่างประเทศจีน ประกาศว่าจะมีผู้นำโลกกว่า 20 ประเทศ และ 10 ผู้นำองค์กรระหว่างประเทศ เข้าร่วมประชุมครั้งนี้ โดยนอกจากสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน ยังมีวลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีของรัสเซีย และนเรนทรา โมดี นายกรัฐมนตรีอินเดีย ตลอดจนผู้นำชาติอาเซียน ทั้งอินโดนีเซีย มาเลเซีย เวียดนาม สปป.ลาว และกัมพูชา ส่วนไทยยังไม่มีการยืนยัน และผู้นำองค์กรระหว่างประเทศ อาทิ อันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติ และเกา กิม ฮวน เลขาธิการอาเซียน

 

การรวมตัวของผู้นำ SCO ในแง่หนึ่งถูกมองว่าเป็นเวทีสำหรับให้จีนและรัสเซีย ใช้ในการส่งเสริมแนวคิดและมุมมองต่อต้านชาติตะวันตกรวมถึงอิทธิพลของสหรัฐฯ 

 

ขณะที่จีนใช้เวทีนี้ในการชูบทบาทนำของตนเองในการต่อต้านชาติตะวันตก โดยหลิว ปิน ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศจีน แถลงยืนยันความจำเป็นของการประชุม SCO ในการจับมือกันต่อต้านลัทธิอำนาจนิยมที่คุกคามเสถียรภาพโลก และเผยว่า สีจิ้นผิง จะใช้โอกาสในการประชุมนี้ประกาศมาตรการใหม่ๆ เพื่อพัฒนาความร่วมมือ และเสนอแนะแนวทางให้ประเทศต่างๆ “ปกป้องระเบียบระหว่างประเทศหลังสงครามอย่างสร้างสรรค์ และปรับปรุงระบบธรรมาภิบาลโลก” 

 

“ยิ่งสถานการณ์ระหว่างประเทศมีความซับซ้อนและปั่นป่วนมากเท่าใด ประเทศต่างๆ ก็ยิ่งจำเป็นต้องเสริมสร้างความสามัคคีและความร่วมมือมากขึ้นเท่านั้น” 

 

“ในโลกปัจจุบัน แนวคิดล้าสมัยเกี่ยวกับลัทธิอำนาจนิยม และการเมืองแบบใช้อำนาจยังคงมีอิทธิพลอยู่ บางประเทศพยายามให้ความสำคัญกับผลประโยชน์ของตนเองเหนือผลประโยชน์ของผู้อื่น ซึ่งเป็นภัยคุกคามร้ายแรงต่อสันติภาพและเสถียรภาพของโลก”

 

CCTV สื่อทางการจีน เผยว่า สีจิ้นผิง จะกล่าวสุนทรพจน์สำคัญในการประชุมสุดยอดครั้งนี้ และจะร่วมกับผู้นำประเทศสมาชิก SCO รับรองเอกสารส่งเสริมความร่วมมือด้านความมั่นคง เศรษฐกิจ และวัฒนธรรมระหว่างกัน

 

SCO เริ่มต้นจากการเป็นกลุ่มความมั่นคงยูเรเซีย หรือมหาทวีปที่ครอบคลุมประเทศในยุโรปและเอเชีย โดยก่อตั้งในปี 2001 และได้ขยายขอบเขตครอบคลุมด้านต่างๆ เช่น เศรษฐกิจและการค้า 

 

ปัจจุบัน SCO มีสมาชิก 10 ประเทศ ได้แก่ จีน รัสเซีย คาซัคสถาน คีร์กีซสถาน ทาจิกิสถาน อุซเบกิสถาน อิหร่าน อินเดีย ปากีสถาน และเบลารุส  และยังมีประเทศคู่เจรจาอีก 16 ประเทศทั่วเอเชีย ยุโรป และแอฟริกา โดยยขนาดพื้นที่ของประเทศสมาชิกคิดเป็นประมาณ 24% ของพื้นที่โลก และมีจำนวนประชากรคิดเป็น 42% ของประชากรโลก

 

SCO จับมือสู้ภาษีทรัมป์

 

ดีแลน โลห์ (Dylan Loh) ผู้ช่วยศาสตราจารย์ด้านนโยบายต่างประเทศ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีนันยาง (Nanyang Technological University) ประเทศสิงคโปร์ กล่าวว่า ความสำคัญที่เพิ่มขึ้นของการประชุมสุดยอด SCO ในปีนี้เกิดจากสภาพแวดล้อมทางภูมิรัฐศาสตร์ในปัจจุบัน รวมถึงสงครามภาษีของทรัมป์ที่มีต่อประเทศต่างๆ และความพยายามฟื้นฟูความสัมพันธ์ระหว่างอินเดียและจีนให้กลับเป็นปกติ

 

ความสัมพันธ์ระหว่างปักกิ่งและนิวเดลีเสื่อมถอยลงอย่างมากเจากเหตุปะทะในพื้นที่พิพาทชายแดนในปี 2020 ขณะที่อินเดียยอมเปิดใจพูดคุยฟื้นสัมพันธ์กับจีนอีกครั้ง ท่ามกลางความไม่พอใจต่อมาตรการขึ้นภาษีของสหรัฐฯ ที่ต้องการบีบบังคับอินเดียให้หยุดซื้อน้ำมันจากรัสเซีย 

 

หลิน หมินหวาง (Lin Minwang) รองคณบดีสถาบันศึกษาระหว่างประเทศ มหาวิทยาลัยฟู่ตั้น (Fudan University) ชี้ว่า การที่อินเดียหันเข้าหาจีนมากขึ้น จากแรงกดดันของมาตรการภาษีทรัมป์ ในมุมหนึ่งเป็นการเพิ่ม ‘มิติเชิงสัญลักษณ์’ ให้กับการมีส่วนร่วมของอินเดียในการประชุมสุดยอด SCO ครั้งนี้

 

“ในแง่หนึ่ง นโยบายของทรัมป์ได้เสริมสร้างความสามัคคีภายในของ SCO และเน้นย้ำถึงผลประโยชน์ร่วมกันของประเทศเหล่านี้ในการรับมือกับความท้าทายต่อระเบียบระหว่างประเทศ” เขากล่าว

 

SCO-พาเหรด ชูอิทธิพลจีน

 

สำหรับการประชุม SCO ที่เทียนจิน ต่อด้วยงาน Victory Day Parade ซึ่งจัดขึ้นเพื่อรำลึกชัยชนะเหนือญี่ปุ่น สิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2 ครบรอบ 80 ปี ถือว่ายิ่งใหญ่มาก โดยจะมีการโชว์ขบวนพาเหรดทางทหาร และเป็นอีเวนต์ที่จีนจะได้นำอาวุธยุทโธปกรณ์สมัยใหม่มาโชว์ให้โลกเห็น

 

รศ.ดร.อักษรศรี พานิชสาส์น อาจารย์ประจำคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ให้ความเห็นว่าการจัด 2 งานนี้ ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ โดยมองว่าเป็นการเดินเกมเชิงยุทธศาสตร์ของจีน เพราะประธานาธิบดี สีจิ้นผิง และรัฐบาลจีน ต้องการส่งสัญญาณทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ

 

สำหรับเป้าหมายเพื่อส่งสัญญานภายในประเทศจีน  ในขณะนี้ จีนกำลังเผชิญปัญหาทั้งด้านเศรษฐกิจและหลาย ๆ เรื่อง ที่อาจจะส่งผลต่อความนิยมของพรรคคอมมิวนิสต์จีนในสายตาประชาชน เพราะฉะนั้น การจัดงานอีเวนต์ใหญ่เช่นนี้ จะเป็นโอกาสให้สีจิ้นผิงได้โชว์ผลงาน เพื่อปลุกเร้าความรักชาติของคนจีนขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง และยังเป็นการส่งเสริมความชอบธรรมของพรรคคอมมิวนิสต์จีน ว่าสามารถสร้างประเทศจีนที่มีความยิ่งใหญ่ ปลุกเร้าความรักชาติ และสร้างผลงานในการผลิตอาวุธยุทโธปกรณ์ที่เหนือกว่าชาติอื่นได้อย่างไร

 

การปลุกพลังชาตินิยมและสร้างความเป็นเอกภาพภายในประเทศผ่านการแสดงพาเหรดทางการทหารที่ยิ่งใหญ่ จึงเป็นการสร้าง “อารมณ์ร่วม” ของประชาชนชาวจีนให้ฮึกเหิมและภาคภูมิใจในตนเอง รวมถึงภาคภูมิใจในประวัติศาสตร์จีนที่เก่าแก่ยาวนาน  และที่สำคัญคือ การสะท้อนให้เห็นว่า จีนจะไม่ยอมให้ใครมารุกรานอีกต่อไป

 

อีกเป้าหมายสำคัญ คือ การส่งสัญญานให้กับทั้งโลกได้รู้ว่า จีนผงาดขึ้นเป็นมหาอำนาจโลกที่ยิ่งใหญ่ ทั้งด้านเทคโนโลยีและด้านการป้องกันประเทศ จีนพร้อมที่จะแสดงพลังอำนาจแห่งชาติ โดยงานนี้กองทัพจีนจะนำเอายุทโธปกรณ์สมัยใหม่ที่จีนผลิตเองทั้งหมดมาจัดแสดง เพื่อส่งสัญญาณต่อโลก ต่อมหาอำนาจอื่น และภูมิภาคต่างๆ ว่า จีนวันนี้ คือ มหาอำนาจทางการทหารของโลก 

 

ยิ่งไปกว่านั้น ผู้นำประเทศต่าง ๆ ที่จีนเชิญเข้าร่วมชมงาน Victory Day Parade นอกจากรัสเซียแล้ว ล้วนเป็นผู้นำประเทศที่เรียกว่า “โลกขั้วใต้” หรือ Global South จึงชัดเจนว่า จีนพร้อมจะเป็นแกนนำของประเทศเหล่านี้ที่ส่วนใหญ่อยู่คนละข้างกับชาติตะวันตกทั้งหลาย

 

สำหรับการแสดงขบวนพาเหรดทางทหารของจีนเนื่องในโอกาสรำลึกครบรอบ 80 ปี การสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่จัดขึ้นต่อเนื่องจากการประชุม SCO เหตุผลหนึ่งเพื่อให้ประเทศสมาชิกได้เข้าร่วมในทั้ง 2 งาน และจะเป็นการแสดงการสนับสนุนของแต่ละประเทศที่มีต่อปักกิ่ง

 

ขณะที่หลินกล่าวว่า การมีส่วนร่วมของผู้นำหรือผู้แทนระดับสูงท้ังในงานประชุมและการแสดงขบวนพาเหรดนี้ สะท้อนให้เห็นถึงอิทธิพลที่เพิ่มมากขึ้นของจีน และฉายให้เห็นว่าจุดยืนและแนวคิดหลายอย่างของปักกิ่งได้รับความสนใจจากนานาประเทศ โดยเฉพาะประเทศเพื่อนบ้าน

 

โลห์ ชี้ว่า “แถลงการณ์และการประชุมนอกรอบในเวที SCO จะถูกจับตามองอย่างใกล้ชิด เพื่อดูว่า SCO จะยังคงเดินหน้าวางตำแหน่งตัวเองเป็นคู่ต่อสู้ขององค์กรที่นำโดยชาติตะวันตกและได้รับอิทธิพลจากชาติตะวันตกต่อไปหรือไม่” 

 

ขณะที่การเข้าร่วมของผู้นำโลกหมายความว่า SCO จะถูกจับตามองอย่างใกล้ชิด ซึ่งโลห์กล่าวว่าอาจเป็นส่วนหนึ่งในเป้าหมายของจีน “ที่ต้องการนำเสนอบทบาทอันโดดเด่น มีความสำคัญ และอำนาจในการดึงดูดนานาประเทศที่เพิ่มขึ้น”

 

“การประชุมสุดยอด SCO แสดงให้เห็นถึงอิทธิพลทางการทูต และน้ำหนักและหลักฐานจากจำนวนผู้เข้าร่วม ลักษระของประเทศที่เข้าร่วมยังช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับแนวคิดที่ว่า ‘จีนกำลังเป็นผู้นำ’ หรืออาจเป็นผู้นำอย่างไม่เป็นทางการของกลุ่มประเทศกำลังพัฒนา” เขากล่าว

 

อ้างอิง : 

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising