วันนี้ (15 กันยายน) เมื่อเวลา 20.35 น. พ.ต.อ. พฤฒ จำรูญศาสน์ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธร (ผกก.สภ.) บางบัวทอง กล่าวถึงความคืบหน้า กรณีเหตุอาวุธปืนลั่นใส่เด็กนักเรียนที่โรงเรียนแห่งหนึ่งในตำบลบางรักพัฒนา อำเภอบางบัวทอง จังหวัดนนทบุรี จนเป็นเหตุให้นักเรียนคนดังกล่าวเสียชีวิตในห้องเรียนคอมพิวเตอร์
พ.ต.อ. พฤฒกล่าวว่า เหตุที่เกิดขึ้นกับนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 เกิดจากอาวุธปืนจริง โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถติดตาม ค้นหา และพบปืนกระบอกดังกล่าวแล้ว พบว่าเป็นปืนไทยประดิษฐ์ ส่วนสาเหตุที่ก่อเหตุต้องรอพิสูจน์ทราบต่อไป
สำหรับกระบวนการสอบสวนผู้ก่อเหตุซึ่งเป็นเพื่อนผู้เสียชีวิตนั้น เนื่องจากเป็นเยาวชน จึงยังไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลการสอบปากคำได้ ซึ่งต้องรอพนักงานอัยการ และนักจิตวิทยามาร่วมกระบวนการสอบปากคำด้วย ซึ่งเบื้องต้นได้ตั้งข้อกล่าวหาเด็กผู้ก่อเหตุไว้ 2 ข้อหา ได้แก่ พาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับใบอนุญาตให้มีอาวุธปืนติดตัว และยิงปืนในที่สาธารณะ
ทั้งนี้ พ.ต.อ. พฤฒระบุว่าช่วงเช้าของวันพรุ่งนี้ (16 กันยายน) ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนนทบุรีจะแถลงความคืบหน้าของคดีอีกครั้ง
ด้านครูประจำวิชาคอมพิวเตอร์ ซึ่งเดินทางไปให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ สภ.บางบัวทอง จังหวัดนนทบุรี ได้ให้สัมภาษณ์เพียงสั้นๆ ก่อนเดินทางกลับว่า ให้รอรายละเอียดกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพราะให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ไปหมดแล้ว เสียงที่ดังออกมาไม่ทราบว่าเป็นเสียงปืน รู้แต่ว่ามีเสียงดังออกมาเท่าน้ัน
ขณะที่แม่และยายของนักเรียนที่เสียชีวิตได้เดินทางมาติดตามคดีที่ สภ.บางบัวทอง พร้อมกล่าวว่าจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด ส่วนเรื่องของการก่อเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังดำเนินการสืบสวนอยู่ ส่วนตัวไม่ทราบอะไรมาก
ส่วนกรณีที่บอกว่าเด็กมีการทะเลาะวิวาทกัน แม่กล่าวว่าไม่ทราบเรื่องนี้เพราะที่ผ่านมาลูกไม่ได้มีปัญหากับใคร ไม่เคยเล่าให้ฟังว่าเคยทะเลาะกับเพื่อนหรือมีปัญหากับเพื่อน ไปไหนก็มีแต่คนรัก ครูก็บอกว่าเป็นคนดี เป็นเด็กน่ารัก และชอบทำกิจกรรมกับทางโรงเรียนตลอด
โดยหลังจากที่ได้รับสายจากทางโรงเรียน แม่และยายเดินทางไปโรงเรียนทันที ครูบอกว่าลูกเกิดอุบัติเหตุ ตนได้สอบถามครูว่าเป็นอะไรให้บอกสาเหตุที่แท้จริง ครูบอกว่าเด็กอยู่ระหว่างการปั๊มหัวใจ
เมื่อไปถึงที่โรงเรียนก็พบเจ้าหน้าที่กำลังช่วยปั๊มหัวใจ และอยู่ในสภาพไม่รู้สึกตัว ซึ่งทางโรงเรียนแจ้งว่าคอมพิวเตอร์ระเบิด ด้วยความที่ไม่เห็นเหตุการณ์จึงเชื่อตามที่ได้รับแจ้ง แต่ก็มีความสงสัยว่าคอมพิวเตอร์ระเบิดได้อย่างไร เพราะเชื่อว่าคอมพิวเตอร์ที่โรงเรียนก็มีมาตรฐานในการให้เด็กนักเรียนมาใช้บริการ และสำหรับวันพรุ่งนี้ (16 กันยายน) ครอบครัวจะเดินทางไปรับร่างที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ เพื่อประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป