เอสซีจี ชี้แจงประเด็น ‘เอสซีจี พลาสติกส์’ บริษัทย่อยถูกรัฐบาลสหรัฐฯ ปรับเงินฐานละเมิดกฎหมายคว่ำบาตรอิหร่านจำนวน 20 ล้านดอลลาร์ มีการตั้งสำรองในงบการเงินปี 2566 ไว้เรียบร้อยแล้ว
ด้านการเคลื่อนไหวราคาหุ้น บมจ.ปูนซิเมนต์ไทย ภาคเช้าวันนี้ (22 เมษายน) เปิดการซื้อ-ขายที่ 242 บาท ไม่เปลี่ยนแปลงจากราคาปิดวันทำการก่อนหน้า โดยระหว่างการซื้อ-ขายบวกขึ้นไปแตะระดับสูงสุดที่ 245 บาท บวก 1.24% ส่วนราคาต่ำสุดลดลงไปแตะระดับ 241 บาท ลดลง 0.41% จากนั้นราคามาปิดการซื้อ-ขาย ภาคเช้าที่ 244 บาท บวก 2 บาท หรือ 0.83% จากราคาปิดวันทำการก่อนหน้า
ธรรมศักดิ์ เศรษฐอุดม กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ปูนซิเมนต์ไทย (SCC) แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยว่า ตามที่ปรากฏกรณีรัฐบาลสหรัฐอเมริกา สั่งปรับบริษัท เอสซีจี พลาสติกส์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัท ฐานละเมิดกฎหมายคว่ำบาตรอิหร่านจากการโอนเงินดอลลาร์สหรัฐชำระค่าสินค้าที่ผลิตในอิหร่านช่วงปี 2560-2561 นั้น
บมจ.ปูนซิเมนต์ไทย ชี้แจงว่า การจ่ายเงินค่าปรับจำนวนดังกล่าวจะไม่มีผลกระทบต่อผลการดำเนินงานในปี 2567 ของเอสซีจี เนื่องจากตั้งสำรองในงบการเงินสิ้นปี 2566 เรียบร้อยแล้ว ขอเรียนให้ทราบดังนี้
- บริษัท เอสซีจี พลาสติกส์ จำกัด (SCG Plastics) เป็นบริษัทย่อยของ SCC (ปัจจุบันอยู่ระหว่างชำระบัญชี) เคยได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้ขายเม็ดพลาสติกโพลีเอทิลีน (PE) ที่ผลิตจากบริษัทที่เอสซีจีร่วมทุนในอิหร่าน ซึ่ง SCG Plastics ขาย PE ที่ผลิตจากบริษัทร่วมทุนนี้มาตั้งแต่ปี 2548 โดยใช้หลายสกุลเงินในการค้าขายตามความต้องการของลูกค้า ซึ่งเป็นการประกอบธุรกิจตามปกติของอุตสาหกรรมนี้ และช่วงเวลาดังกล่าวไม่มีมาตรการคว่ำบาตรอุตสาหกรรมปิโตรเคมีของอิหร่าน
- ต่อมาในเดือนกุมภาพันธ์ 2556 SCG Plastics หยุดการขาย PE ที่ผลิตในอิหร่าน หลังจากสหรัฐอเมริกาประกาศคว่ำบาตรอุตสาหกรรมปิโตรเคมีของอิหร่าน และกลับมาขายอีกครั้งเมื่อสหรัฐอเมริกาประกาศผ่อนผันการคว่ำบาตรดังกล่าวในปี 2557 จากความไม่แน่นอนในสถานการณ์การคว่ำบาตรของสหรัฐอเมริกาต่ออิหร่าน ตั้งแต่ปี 2561 SCG Plastics ยุติการขาย PE จากบริษัทร่วมทุนอย่างถาวร หลังจากที่บริษัทในเอสซีจีหยุดดำเนินการกับบริษัทร่วมทุนนั้น และสินทรัพย์ดังกล่าวถูกจำหน่ายไปแล้วตั้งแต่ปี 2561 ตามมาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐอเมริกา
- ต่อมาสำนักงานควบคุมทรัพย์สินต่างประเทศของสหรัฐอเมริกา (OFAC) เข้าตรวจสอบการขาย PE ของ SCG Plastics ที่ค้าขายช่วงเดือนเมษายน 2560 ถึง เดือนพฤศจิกายน 2561 ว่าละเมิดมาตรการคว่ำบาตรหรือไม่ ซึ่ง SCG Plastics ให้ความร่วมมือกับทางราชการของสหรัฐฯ เป็นอย่างดี เมื่อเสร็จสิ้นการตรวจสอบ OFAC เห็นว่ามีการละเมิดมาตรการคว่ำบาตรอิหร่าน แม้การขายสินค้าดังกล่าวจะไม่เกี่ยวข้องกับบุคคลสัญชาติสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นเป้าหมายหลักของการคว่ำบาตร แต่มีการใช้เงินสกุลดอลลาร์สหรัฐในการขายสินค้าที่ผลิตจากอิหร่านในช่วงดังกล่าว ทำให้สถาบันการเงินซึ่งเป็นบุคคลสหรัฐฯ มีส่วนร่วมในการชำระเงินด้วย ส่วนการค้าขายด้วยสกุลเงินอื่นไม่ได้ละเมิดมาตรการดังกล่าว
- OFAC เห็นว่า SCG Plastics ให้ความร่วมมือกับ OFAC ในการตรวจสอบอย่างเต็มที่ รวมถึงออกนโยบายเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีกในอนาคต OFAC จึงเสนอให้ SCG Plastics ทำ Settlement Agreement โดยให้ SCG Plastics จ่ายเงินค่าประนอมยอมความให้กระทรวงการคลังของสหรัฐอเมริกาจำนวน 20 ล้านดอลลาร์ ซึ่งจะส่งผลให้ OFAC ยุติการพิจารณาข้อหาดังกล่าว
ทั้งนี้ การจ่ายเงินจำนวนดังกล่าวจะไม่มีผลกระทบต่อผลการดำเนินงานในปี 2567 ของเอสซีจี เนื่องจากได้ตั้งสำรองในงบการเงินสิ้นปี 2566 เรียบร้อยแล้ว