อาทิตย์ นันทวิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและประธานกรรมการบริหาร ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) กล่าวว่า การแพร่ระบาดของโควิด-19 เริ่มส่งผลกระทบต่อรายได้และแนวโน้มกำไรของธนาคารในไตรมาสนี้ แต่ธนาคารเชื่อว่าสถานะเงินกองทุนของธนาคารที่แข็งแกร่งและการตั้งสำรองหนี้สูญในระดับสูง จะช่วยให้ธนาคารสามารถรับมือกับภาวะเศรษฐกิจที่ถดถอยได้
ผู้สื่อข่าวรายงานข้อมูลจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) พบว่า ธนาคารไทยพาณิชย์ประกาศปรับเป้าหมายธุรกิจปี 2563 ตามภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบัน โดยลดเป้าหมายฝั่งรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยเป็น ‘คงที่’ จากเดิมที่คาดว่าจะเติบโต 7-10% และอัตราค่าใช้จ่ายหนี้สูญต่อสินเชื่อ (Credit Cost) ปี 2563 เป็นไม่น้อยกว่า 165 bps จากเดิมที่อยู่ระดับ 120-130 bps
ทั้งนี้ ทางธนาคารเปิดเผยผลประกอบการ ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2563 โดยมีรายละเอียดสำคัญดังนี้
- กำไรสุทธิ (งบการเงินรวมก่อนตรวจสอบ)
- ครึ่งปีแรกของปี 2563 ธนาคารมีกำไรสุทธิจำนวน 17,611 ล้านบาท ลดลง 13% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
- ไตรมาส 2 ของปี 2563 จำนวน 8,360 ล้านบาท ลดลง 24% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เป็นผลจากการตั้งเงินสำรองที่สูงขึ้น
- ครึ่งปีแรกปี 2563 รายได้ดอกเบี้ยสุทธิอยู่ที่ 23,777 ล้านบาท ลดลง 7% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เพราะอัตราส่วนต่างดอกเบี้ยสุทธิ (NIM) หดตัวลงจากการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายหลายครั้ง และรายได้ดอกเบี้ยสุทธิ ลดลงจากธนาคารขายหุ้นของ บมจ.ไทยพาณิชย์ประกันชีวิต ในปี 2562 ที่ผ่านมา
- ครึ่งปีแรกปี 2563 รายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยอยู่ที่ 12,499 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 19% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน มาจากรายได้ธุรกิจ Wealth ธุรกิจประกัน (หลังการขาย SCBLIFE เปลี่ยนจากรายได้ดอกเบี้ยมาเป็นรายได้จากการเป็นนายหน้าประกันฯ รวมถึงรายการพิเศษครั้งเดียวจากการขายเงินลงทุนและธุรกรรมของลูกค้าธุรกิจขนาดใหญ่
- ครึ่งปีแรกปี 2563 ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานอยู่ที่ 16,141 ล้านบาท ลดลง 3% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
- ครึ่งปีแรกปี 2563 สินเชื่อรวมลดลง 1% จากระยะเดียวกันของปีก่อน จากความต้องการสินเชื่อที่เพิ่มขึ้นของธุรกิจขนาดใหญ่ และการสนับสนุนสินเชื่อซอฟต์โลนให้กับลูกค้าธุรกิจ
- ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2563 อัตราส่วนสินเชื่อด้อยคุณภาพ อยู่ที่ 3.05% อัตราส่วนค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญต่อสินเชื่อด้อยคุณภาพเพิ่มขึ้นเป็น 152%
ทั้งนี้ จากความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นทั้งสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 และสภาวะเศรษฐกิจ ส่งผลให้ไตรมาส 2 ของปี 2563 ธนาคารตั้งเงินสำรองจำนวน 9,734 ล้านบาท
ทั้งนี้ ปัจจุบันธนาคารให้ความช่วยเหลือลูกค้าบุคคลไปแล้วกว่า 1.1 ล้านราย และลูกค้าธุรกิจกว่า 13,000 ราย คิดเป็นยอดสินเชื่อภายใต้โครงการให้ความช่วยเหลือทางการเงิน ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2563 รวมประมาณ 840,000 ล้านบาท หรือ 39% ของยอดสินเชื่อรวมของธนาคาร
อ้างอิง: