ต้องยอมรับว่า ‘กลุ่มผู้ประกอบการเอสเอ็มอี’ กำลังเป็นกลุ่มที่หลายธนาคารต่างหมายตาอยากดึงเข้ามาไว้ในมือ ด้วยตัวเลขกว่า 3,000,000 รายทั่วประเทศ ทำให้นี่ถือเป็นโอกาสมหาศาลสำหรับทุกธนาคาร จึงไม่ต้องแปลกใจหากช่วงที่ผ่านมาจะเห็นธนาคารในบ้านเรา ต่างออกผลิตภัณฑ์ทางการเงินเพื่อเจาะกลุ่มเอสเอ็มอีโดยเฉพาะ
เช่นเดียวกับธนาคารอื่นๆ ‘ธนาคารไทยพาณิชย์’ หรือ SCB เป็นธนาคารแรกๆ ที่มีผลิตภัณฑ์ทางการเงินเพื่อซัพพอร์ตกลุ่มลูกค้าเอสเอ็มอีโดยเฉพาะ ทว่าสิ่งที่ SCB เหนือกว่าคู่แข่งในสมรภูมิเดียวกันคือการมี ‘มณี Free Solution’ ที่ออกแบบมาครบทุกด้านสำหรับเอสเอ็มอีในยุคดิจิทัลนี้
สิ่งที่น่าสนใจของ SCB คือผลิตภัณฑ์ที่ออกแบบมาสำหรับทั้งบุคคลทั่วไปที่มีกิจการเป็นของตัวเอง หรือ ‘กลุ่มนิติบุคคล’ ซึ่งเป็นผู้ประกอบการที่มียอดขายไม่เกิน 75 ล้านบาทต่อปี พร้อมกับ ‘มณีมั่งคั่ง’ บัญชีกระแสรายวันมีดอกเบี้ยสูงสุด 1% จ่ายดอกเบี้ยทุกสิ้นเดือน, ใช้คู่กับบริการ Business Anywhere หรือ SCB Easy ฟรีโอนเงินข้ามเขต/ใช้เช็คฟรี และ Payroll เป็นต้น
แน่นอนว่าหากมองเข้าไปในตลาด ผลิตภัณฑ์สำหรับนิติบุคคลอาจดูคล้ายๆ กันไปหมด แต่จริงๆ แล้วเมื่อมองลึกเข้าไปจะพบว่ามีรายละเอียดปลีกย่อยที่แตกต่างกันอยู่ เทียบให้เห็นภาพ คือ ‘มณีมั่งคั่ง’ ที่นอกจากจะเป็นบัญชีกระแสรายวันมีดอกเบี้ยสูงสุด 1% จ่ายดอกเบี้ยทุกเดือนแล้ว ยังไม่มีเปิดบัญชีขั้นต่ำ ขณะที่บางแห่งต้อง 10,000 บาท
นอกจากนี้ยังฟรีค่าธรรมเนียมเมื่อผูกบัญชีมณีมั่งคั่งบนช่องทาง Internet Banking ไม่ว่าจะเป็นบริการรับฝากเช็คข้ามเขต โอนข้ามธนาคารแบบทันที (ORFT) และโอนข้ามธนาคารแบบล่วงหน้า 1 วัน (Smart Next Day) ในข้อสุดท้ายนี้บางแห่งต้องเสียเงิน 12 บาทต่อรายการเลยทีเดียว และยังมีในเรื่องของ Payroll สำหรับโอนเงินเดือนและจ่ายเงินเดือนทุกธนาคารฟรีเช่นเดียวกัน ดังนั้นผู้ประกอบการที่เป็นนิติบุคคลจึงสามารถลดต้นทุนในจุดนี้ได้ทันที โดยทั้งหมดถูกออกแบบมาเพื่อลดรายจ่ายโดยเฉพาะ
ด้วยความที่สมัยนี้ทุกอย่างต้องเป็นดิจิทัลกันหมดแล้ว สิ่งแรกจึงต้องลืมภาพการทำธุรกรรมแบบเดิมๆ ไปก่อน การเดินเข้าออกธนาคารวันละหลายๆ ครั้งจะไม่เกิดขึ้นอีกต่อไป ในเมื่อทุกวันนี้สามารถทำทุกอย่างได้เพียงปลายนิ้วสัมผัสผ่านสมาร์ทโฟนที่อยู่ในมือ ซึ่งทำได้ง่ายๆ ผ่านแอปฯ SCB Easy สำหรับบุคคลธรรมดา หรือ Business Anywhere สำหรับนิติบุคคล
ขณะเดียวกันนอกจากผลิตภัณฑ์สำหรับกลุ่มเอสเอ็มอีแล้ว อีกหนึ่งจุดที่ SCB แตกต่างเมื่อเทียบกับรายอื่นๆ ในตลาด การเพิ่มตัวช่วยอื่นๆ สำหรับกลุ่มเอสเอ็มอี โดยเฉพาะอย่างยิ่งการช่วยเพิ่มยอดขาย เช่น ‘Robinhood’ แอปพลิเคชัน Food Delivery ที่เกิดขึ้นจากความมุ่งมั่นของกลุ่ม SCB ที่อยากช่วยเหลือสังคม
สำหรับ Robinhood นั้นเป็น Food Delivery ที่จะไม่มีการเก็บค่าธรรมเนียมใดๆ เช่นกัน ไม่มีค่าสมัคร ไม่คิดค่า GP (Gross Profit) ร้านอาหารได้เงินเต็มทุกบาททุกสตางค์ ทำให้สามารถขายอาหารที่ได้ทั้งคุณภาพและปริมาณที่เหมาะสม ลูกค้าได้จ่ายค่าอาหารและค่าส่งตามจริงไม่มีบวก
อีกหนึ่งตัวช่วยในการเพิ่มยอดขายคือ Google My Business การปักหมุดร้านที่อยู่บน Google Maps โดยหนึ่งในพฤติกรรมผู้บริโภคยุคดิจิทัลที่ชอบทำ คือการค้นหาร้านบน Google Maps ให้ช่วยนำทางไปที่ร้านแบบไม่ผิดเพี้ยน แต่ปัญหาของร้านค้าคือไม่รู้จะปักอย่างไร ทำให้บางครั้งปักจุดที่ไม่ตรงกับร้าน เมื่อลูกค้าหาร้านไม่เจอก็เสียโอกาสที่จะทำรายได้ไปฟรีๆ
ดังนั้น Google My Business คือตัวช่วยที่ทำให้ร้านค้าสามารถปักหมุดร้านบน Google Maps ได้อย่างถูกต้องและไม่ยุ่งยาก ซึ่งสามารถสมัครได้ง่ายๆ ผ่านแอปฯ SCB Easy สมัครได้ทั้งแม่มณี QR Code และ Google My Business ซึ่งทำให้เราเร็วกว่า ได้เปรียบกว่า โดยปักหมุดร้านแบบเรียลไทม์ ผ่านแอปฯ SCB Easy ช่วยให้ร้านมีตัวตนบนโลกออนไลน์ ให้ลูกค้าหาร้านเจอได้บนหน้า Google Search และ Maps
ตลอดจนติดต่อสะดวก สามารถอัปเดตข้อมูลได้แบบเรียลไทม์ ทั้งเวลาเปิด-ปิด เบอร์โทรศัพท์และช่องทางการติดต่อ ที่อยู่ร้าน กลายเป็นตัวช่วยให้รู้จักลูกค้าและต่อยอดการขายบนโลกออนไลน์ได้ดีขึ้น จากการศึกษาสถิติการใช้งานของลูกค้า นอกจากนี้ SCB ยังได้เตรียม ‘มณี Business Booster’ เครื่องมือเช็กความพร้อมธุรกิจ ช่วยค้นหา Solution ที่เหมาะกับธุรกิจคุณ ด้วยการเชื่อมต่อธุรกิจอย่างครบวงจร ร่วมกับพาร์ตเนอร์ระดับประเทศให้อีกด้วย
ทั้งหมดคือตัวช่วยที่ SCB เตรียมไว้สำหรับลูกค้านิติบุคคลที่เราเชื่อว่า หาไม่ได้จากที่ไหนแล้วอย่างแน่นอน สนใจศึกษาข้อมูลอย่างละเอียด คลิกเบาๆ ได้ที่ https://scbsme.scb.co.th/
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์
