การระบาดของโรคโควิดไม่เพียงแต่เข้ามาเปลี่ยนวิถีชีวิตของผู้คนไปอย่างมากมาย แต่ยังเข้ามาเปลี่ยนกระบวนการทำธุรกิจไปอีกด้วย ดังนั้นการปรับเปลี่ยนองค์กรที่รวดเร็วและปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ต่างๆ จึงเป็นหัวใจสำคัญในวันนี้ ซึ่งสำหรับ SC Asset ได้เตรียมพร้อมกับเรื่องเหล่านี้ไว้หมดแล้ว
ณัฐพงศ์ คุณากรวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SC ผู้ส่งมอบ Living Solutions คุณภาพมาตรฐานสูง ที่มุ่งสู่แบรนด์บ้านเดี่ยวอันดับ 1 ในใจผู้บริโภค เปิดเผยถึงสถานการณ์ของการฝ่าวิกฤตในช่วงโควิดเกือบ 2 ปีที่ผ่านมาว่า บริษัทมีการปรับตัวยืดหยุ่นสูง ได้มีการอัปเกรดองค์กรให้พร้อมและก้าวสู่การทำงานวิถี Hybrid โดยจะเริ่มตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนนี้ ด้วยการเตรียมความพร้อมใน 5 เรื่องสำคัญ เพื่อการเติบโตแข็งแกร่งและยั่งยืน รับโอกาสในการเปิดประเทศ ดังนี้
- Liquidity (สภาพคล่อง) เพราะกระแสเงินสดเป็นดั่งลมหายใจที่สำคัญที่สุด ดังนั้น SC Asset จึงมีเงินสดและวงเงินพร้อมเบิกมากกว่า 10,000 ล้านบาท พร้อมฐานะการเงินแข็งแกร่ง โดยมีอัตราหนี้สินต่อทุน IBD/E ต่ำกว่า 1.3 เท่า
- Lands (ที่ดิน) ด้วยที่ดินเป็นสิ่งพื้นฐานสำคัญที่จะเป็นกุญแจสำคัญสำหรับการเติบโตในอนาคต โดยในปีนี้ SC Asset ได้โอนที่ดินใหม่แนวราบรวมทั้งปี 10,000 ล้านบาท สำหรับรองรับการพัฒนาโครงการในปี 2565-2567
- Products (สินค้า) วิถีชีวิตในวันนี้ของผู้บริโภคคือการที่อยู่ติดบ้านมากขึ้น SC Asset จึงได้เตรียมความพร้อมของสินค้าในสามด้านสำคัญ คือ
- High Quality: มุ่งส่งมอบสินค้าคุณภาพมาตรฐานสูง แบรนด์น่าเชื่อถือ
- Human-Centric: ออกแบบและพัฒนาสินค้าและนวัตกรรมโดยยึดหลักแนวคิด Human-Centric โดยพัฒนา Prototype แบบบ้าน และฟังก์ชันใหม่ที่ได้รับความนิยมสูง เช่น บ้านคนโสด, บ้านเดียวกัน และ LANAI Series (ลาไน) เป็นต้น
- Backlog & Inventory: SC Asset มียอดขายรอโอนหรือ Backlog รวมกว่า 8,500 ล้านบาท และ 50% พร้อมโอนในไตรมาส 4 ปีนี้ และเตรียมเพิ่มสต๊อกพร้อมขายและโอนสำหรับแนวราบจนถึงปลายปี 2565 มูลค่ารวมมากกว่า 20,000 ล้านบาท เพื่อรองรับอุปสงค์ที่เติบโตสวนกระแสของที่อยู่อาศัยแนวราบ
- People (ผู้คน) องค์กรคือผู้คน ซึ่งสำหรับ SC Asset แล้ว วันนี้ผู้คนเป็นเรื่องสำคัญ จึงได้เตรียมความพร้อมของทุกคนในองค์กรใน 3 ด้าน คือ
- Safety: ความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ทุกคน พนักงานฉีดวัคซีนครบ 2 เข็ม 100% และยังเตรียม Booster Shot เข็ม 3-4 ให้กับพนักงานและครอบครัว โดยที่จะเริ่มฉีดเข็ม 3 ภายในไตรมาส 4 ในส่วนการฉีดวัคซีนกลุ่มแรงงาน ได้รับวัคซีนเข็ม 1 ครบ 100% และเข็ม 2 ปัจจุบันอยู่ที่ 70%
- Communications: การสื่อสารทั่วถึง 3 ระดับ โดยเริ่มตั้งแต่การสื่อสารอย่างทั่วถึงและสม่ำเสมอ มีการขับเคลื่อนการทำงานในแบบ Agile Working Team ที่มีความรวดเร็วและคล่องตัวทันเหตุการณ์ ตลอดจนการสื่อสารแบบ One-on-One เพื่อให้แต่ละแผนกได้มีการพูดคุยกันอย่างใกล้ชิด
- Hybrid Workplace: วิถีการทำงานแบบผสมผสาน สำนักงานใหญ่จะใช้วิถีการทำงานแบบ Hybrid โดยผสมผสานระหว่างการทำงานที่ออฟฟิศและการทำงานที่ไหนก็ได้ (Work from Anywhere) ในสัดส่วน 3 ต่อ 2 วัน เพื่อส่งเสริมให้เกิด Productivity และ Creativity ให้อิสระในการทำงานที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์ที่ตอบโจทย์วิถีใหม่
- Technology (เทคโนโลยี) ซึ่งจะเข้ามาช่วยเพิ่มความคล่องตัว รวดเร็ว แม่นยำ โดยเชื่อมโยงข้อมูลใน 3 ส่วนสำคัญ ได้แก่ การจัดการทรัพยากรในเรื่องของการสร้าง ซื้อ และลงทุน สำหรับรองรับการเติบโตของธุรกิจ, การจัดการข้อมูลของลูกค้า เพื่อออกแบบและส่งมอบงานบริการแบบไร้รอยต่อ ทั้งงานขาย ซ่อม และดูแลลูกค้าแบบครบทุกมิติ สุดท้าย การนำเทคโนโลยีระบบควบคุมอัตโนมัติ (Automation) มาช่วยลดขั้นตอนการทำงาน ทั้งยังสามารถลดค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องในกระบวนการทำงาน
“ในช่วงเวลาแห่งความท้าทายนี้ เราได้เรียนรู้ทักษะการปรับตัวอย่างมหาศาล เป็นการยกระดับครั้งสำคัญ วันนี้ SC Asset เราพร้อมมากสำหรับการเติบโตอย่างแข็งแกร่งในบริบทของวิถีปกติใหม่” แม่ทัพ SC Asset กล่าวทิ้งท้าย
ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH
Twitter: twitter.com/standard_wealth
Instagram: instagram.com/thestandardwealth
Official Line: https://lin.ee/xfPbXUP