วันนี้ (27 มิถุนายน) แสวง บุญมี เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) แถลงข่าวสรุปภาพรวมการเลือก สว. ระดับประเทศว่า ใช้เวลาไปนานพอสมควร ทำให้คนหลายอาชีพไปอยู่รวมกันหลายชั่วโมง แต่ทุกอย่างก็ผ่านไปด้วยความเรียบร้อย ขอขอบคุณผู้สมัครที่อาจจะดูแลได้ไม่ดี ที่ปล่อยให้รับประทานอาหารเที่ยงล่าช้า และในช่วงภาคค่ำเราได้จัดอาหาร ทั้งอาหารค่ำ อาหารว่าง และรอบดึกด้วย แต่ก็น่าเห็นใจ
“ทางผู้สมัคร, เจ้าหน้าที่ กกต. และนักข่าว อยู่ด้วยกันตลอด รู้สึกอบอุ่น เพราะเราได้กินมาม่าจากหม้อน้ำร้อนเดียวกัน เป็นความใกล้ชิดกัน นี่เป็นบรรยากาศที่เจอเมื่อวานนี้” แสวงกล่าว
ส่วนของการจัดงานเลือก สว. ได้มีการประกาศผลคะแนนแล้วกลุ่มละ 10 คน และมีสำรองกลุ่มละ 5 คน รวมจำนวน 200 คน กับ 100 คน ในฐานะผู้อำนวยการระดับประเทศก็ได้แจ้งผลไปยัง กกต. แล้วในวันนี้ ในช่วงเวลา 06.00 น. ที่ผ่านมา เพื่อรายงานต่อ กกต. ตามมาตรา 42 ของ กกต. ก็จะต้องพิจารณาประกาศผล แต่ก็ต้องรอไว้ไม่น้อยอีก 5 วัน หรือตั้งแต่วันที่ 3 กรกฎาคมเป็นต้นไป ซึ่งยังไม่แน่ชัดว่าจะเป็นวันไหนถ้าเห็นว่าการเลือกเป็นไปโดยสุจริตและเที่ยงธรรม
นอกจากนี้หากเห็นว่าเจ้าหน้าที่ดำเนินการเป็นไปไม่ชอบด้วยกฎหมาย ส่วนกรณีที่พบว่าการเลือกไม่สุจริตและเที่ยงธรรม สามารถร้องมายัง กกต. หรือศาลฎีกาได้
ส่วนข้อสังเกตและความผิดปกติของการลงคะแนน ได้มีการอธิบายไปว่า ถ้าระเบียบเก่าอยู่ เรื่องแบบนี้จะเกิดขึ้นน้อย แต่เมื่อระเบียบเราถูกยกเลิก ก็ต้องมาดูกฎหมายว่าการกระทำนั้นเป็นความผิดหรือไม่ การบล็อกโหวตไม่มีใครเคยบอกว่าผิดกฎหมาย แต่ต้องบอกว่าการกระทำเหล่านี้กับกฎหมายกำหนดว่าเป็นความผิดหรือไม่ และมีองค์ประกอบความผิดอย่างไร ซึ่ง กกต. ไม่ได้นิ่งนอนใจกับการกระทำที่เกิดขึ้น แต่ก็ต้องดูว่ามีการแลกผลประโยชน์กันหรือไม่
อย่างไรก็ตาม ก็จะรวบรวมพยานหลักฐานให้ได้ข้อเท็จจริงมากที่สุดในทุกเรื่อง เช่น ในโรงแรมที่ต้องตรวจสอบว่ากลุ่มไหนเข้าไปพัก ใครจ่าย ใครให้เงิน ทั้งนี้ เมื่อคะแนนเท่ากันหลายคนก็เป็นข้อสังเกตให้ต้องสอบหาข้อเท็จจริง
โดยคำร้องล่าสุด 614 คำร้อง อาทิ เรื่องคุณสมบัติให้ลบชื่อ 400 กว่าคำร้อง, คำร้องเรื่องความไม่สุจริต, คำร้องจ้างให้ลงคะแนน รวมถึงคำร้องเกี่ยวกับเจ้าหน้าที่ และคำร้องที่บอกว่ามีพรรคการเมืองอยู่เบื้องหลัง
ส่วนที่มีการตั้งข้อสังเกตว่าผู้ที่ได้รับเลือกเป็น สว. เป็นกลุ่มคนของพรรคการเมืองใหญ่ แสวงกล่าวว่า มีการตรวจสอบอยู่แล้ว แต่ก็ต้องดูว่าผิดกฎหมายหรือไม่ หรือเข้าองค์ประกอบของกฎหมายหรือไม่ เราอยากให้การเลือกสุจริตและเที่ยงธรรม พยายามเอากฎหมายมาใช้ให้ได้ มีคนบอกว่ามีโพย มีบล็อกโหวต แต่ไม่มีใครกล้าบอกว่าผิดกฎหมาย จึงต้องมีการสืบว่ามีการให้ผลประโยชน์กันจริงหรือไม่ เราจึงต้องหาหลักฐานตรงนี้
แสวงยังชี้แจงสาเหตุที่ใช้เวลานานในการเลือก โดยยอมรับว่าไม่คิดว่าจะเลือกนาน ตอนเช้าใช้เวลาลงเลขอารบิก 10 หมายเลข ต้องอ่านแต่ละกลุ่ม 1,500 รายชื่อ แต่อ่าน 20 กลุ่มพร้อมกัน และช่วงบ่ายเหลือกลุ่มละ 40 คน ดูเหมือนคนน้อย แต่ใช้เวลาอ่านถึง 8,000 ครั้ง และต้องอ่านทีละกลุ่ม จะเร่งก็ไม่ได้ ต้องอ่านให้ชัดเจน
ส่วนที่มีรายงานว่าพบความผิดปกติในห้องน้ำชายนั้น แสวงกล่าวว่า มีเรื่องคุยกันในห้องน้ำจริง แต่ไม่มีใครจ่ายเงินกันในห้องน้ำ แต่หากจะมีการจ่ายหลังจากจบก็ต้องไปสืบข้อมูลกันต่อ และคงไม่มีการส่งโพยกัน เพราะมีคนของเราติดตามอยู่ในนั้น แต่ถ้าจะทำโพยจริงก็น่าจะทำมาจากบ้านแล้ว ซึ่งการตรวจสอบเรื่องเหล่านี้เป็นเรื่องไม่ง่าย ที่จะสืบหาข้อเท็จจริง
แสวงยังปฏิเสธให้ความเห็นกรณีที่ผู้สมัคร สว. ที่ได้รับเลือกส่วนใหญ่เป็นคนจากพรรคการเมือง โดยยืนยันว่าสำหรับตนเองผู้สมัครทุกคนเท่ากันหมด แต่ถ้ายังใช้ระบบนี้อยู่อีก ในอนาคตการบริหารจัดการน่าจะดีขึ้น
เมื่อสื่อมวลชนถามว่าหากย้อนกลับไปได้มีอะไรที่ต้องแก้ไขหรือไม่ แสวงกล่าวว่า “มันเกินกำลังคนตัวเล็กๆ อย่างผม แต่ก็ต้องดำเนินการไปตามกฎหมาย” และเมื่อถามว่าควรมีการแก้ไขกติกาหรือไม่ แสวงปฏิเสธที่จะให้ความเห็นต่อประเด็นดังกล่าว
