วานนี้ (27 ธันวาคม) ภายหลังที่ตำรวจกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) เข้าจับกุม รัชฎา สุริยกุล ณ อยุธยา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ในข้อกล่าวหา ‘เป็นเจ้าพนักงาน สมาชิกสภา นิติบัญญัติแห่งรัฐ สมาชิกสภาจังหวัด หรือสมาชิกสภาเทศบาล เรียก รับ หรือยอมจะรับทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเองหรือผู้อื่นโดยมิชอบ เพื่อกระทำการหรือไม่กระทำการอย่างใดในตำแหน่งไม่ว่าการนั้นจะชอบหรือมิชอบด้วยหน้าที่ และเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต’ ภายในห้องทำงานที่กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ถนนพหลโยธิน แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร ก่อนถูกเชิญตัวมาสอบปากคำดำเนินคดี
ด้าน ชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร อดีตหัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน กล่าวถึง สาเหตุที่เข้าพบพนักงานสอบสวนเพื่อแจ้งเอาผิดรัชฎา เพราะพบเห็นพฤติกรรมการใช้อำนาจหน้าที่ในทางไม่เหมาะสม กลั่นแกล้งโยกย้ายตำแหน่งเจ้าหน้าที่ ที่ไม่ยอมจ่ายเงินวิ่งเต้น โยกย้ายไปทำงานในยังตำแหน่งอื่นที่ห่างไกลจากภูมิลำเนาหรือที่พักอาศัย
ส่งผลกระทบต่อความเป็นอยู่ของครอบครัว ทำให้เจ้าหน้าที่คนนั้นจำเป็นต้องวิ่งเต้นหาเงินมาเพื่อทำให้ตัวเองไม่โดนย้าย อีกทั้งยังพบว่ามีการเรียกรับสินบนในการวิ่งเต้นเลื่อนตำแหน่งหน้าที่การทำงานรายบุคคล ครั้งละ 200,000-300,000 บาท
นอกจากนี้ยังมีพฤติกรรมเรียกเก็บเงินจากหัวหน้าหน่วยงานภาคสนาม คิดตามอัตราส่วนจากหน่วยงานที่ได้รับจัดสรรงบประมาณ เช่น อุทยานแห่งชาติ, เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า จะเก็บร้อยละ 18.5 จากหมวดงบดำเนินงานและค่าใช้สอย, หน่วยป้องกันไฟป่าร้อยละ 30 จากหมวดงบดำเนินงานและค่าใช้สอย
ชัยวัฒน์กล่าวต่อไปว่า ในส่วนนี้จะมีการเรียกประชุมผู้บัญชาการสำนัก 16 สำนัก 15 สาขา มาประชุมประจำเดือน จึงชี้ให้เห็นว่ามีการแบ่งรับแบ่งจ่ายกันในแต่ละส่วนงาน เงินที่พบวานนี้จำนวนประมาณ 5 ล้านบาท เป็นเพียง 1 ใน 4 ส่วนเท่านั้น
การที่เข้ามาช่วยเปิดโปงเรื่องนี้ ชัยวัฒน์กล่าวว่า เพราะทนเห็นพฤติกรรมแบบนี้ไม่ได้ ตัวเองยังเคยถูกเรียกสินบน