วันนี้ (20 กันยายน) เวลา 11.00 น. พชร คำชำนาญ กลุ่มภาคี Save บางกลอย ได้เข้าไปยื่นหนังสือถึง อนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการอิสระเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงและแก้ไขปัญหาชุมชนกะเหรี่ยงบางกลอย หมู่ที่ 1 ตำบลห้วยแม่เพรียง อำเภอแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี เพื่อติดตามแนวทางการแก้ไขปัญหาด้านคดีความของชาวบ้านบางกลอย จำนวน 29 คน เนื่องจากปรากฏข่าวว่าอัยการจังหวัดเพชรบุรีมีคำสั่งฟ้อง
สำหรับการยื่นหนังสือครั้งนี้ มี ชาญเชาวน์ ไชยานุกิจ รองประธานคณะกรรมการอิสระฯ คนที่ 1 และ มงคลชัย สมอุดร รองปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี มารับหนังสือแทน และให้ความชัดเจนด้านกระบวนการ
พชรกล่าวต่อไปว่า หากยังมีการเดินหน้ากระบวนการทางคดีกับชาวบ้านบางกลอย ไม่เพียงหมายถึงชาวบางกลอยอาจสูญเสียอิสรภาพหากศาลรับฟ้องและเห็นว่าผิด แต่อาจหมายถึงที่ดินที่ชาวบ้านกลับขึ้นไปทำกินที่บางกลอยบนที่ติดคดี ก็จะไม่สามารถเข้าสู่กระบวนการแก้ไขปัญหาให้ชาวบ้านกลับไปทำไร่หมุนเวียนตามเจตนารมณ์ได้ หากแก้ปัญหาทางคดีไม่ได้ ก็ยากจะนำไปสู่การแก้ไขปัญหาด้านอื่นๆ ให้กับกลุ่มบางกลอยคืนถิ่น
ทั้งนี้ การยื่นหนังสือในวันนี้ผ่านไปได้ด้วยดี ได้พูดคุยกับตัวแทนคณะกรรมการอิสระฯ ได้ทราบว่าความคืบหน้าที่ผ่านมาคือ เบื้องต้นคณะกรรมการอิสระฯ ที่ตั้งขึ้นมาเพื่อแก้ไขปัญหาได้ส่งหนังสือแจ้งไปถึงอัยการแล้ว ต่อจากนี้ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของอัยการ
ส่วนเนื้อหาตามรายละเอียดของหนังสือที่มียื่นในวันนี้มีดังนี้
- สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีมีหนังสือไปยังอธิบดีอัยการภาค 7 เจ้าของสำนวน เพื่อแจ้งมติคณะกรรมการอิสระเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงและแก้ไขปัญหาชุมชนกะเหรี่ยงบางกลอย หมู่ที่ 1 ตำบลห้วยแม่เพรียง อำเภอแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี เพื่อความช่วยเหลือทางคดี โดยทำงานร่วมกับกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ดำเนินการตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2565
- สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีได้มีหนังสือถึงปลัดกระทรวงยุติธรรมให้พิจารณาให้ความช่วยเหลือ (กองทุนยุติธรรม)
- คณะกรรมการอิสระฯ ทำงานร่วมกับกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ในการดำเนินการตามกรอบช่วยเหลือและแก้ไขปัญหา ตามพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2562 เกี่ยวกับเงื่อนไขในการดำรงชีวิตของชาวบางกลอยในพื้นที่อุทยานแห่งชาติ
ด้านชาญเชาวน์กล่าวว่า ตามกรอบการดำเนินงาน 3 ข้อนี้ พนักงานสามารถใช้ดุลพินิจได้ โดยเคารพดุลพินิจของพนักงานอัยการ
ขณะที่มงคลชัยกล่าวว่า รัฐบาลและคณะกรรมการอิสระฯ ไม่ได้นิ่งนอนใจในการดำเนินการเรื่องนี้ อาจมีข้อจำกัดทางกฎหมายบ้าง แต่สามารถจบลงได้ที่การเจรจา พูดคุยกันอย่างตรงไปตรงมา