เมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ที่อาคารกีฬาเวสน์ 2 ศูนย์เยาวชนกรุงเทพมหานคร (ไทย-ญี่ปุ่น) มูลนิธิโรงเรียนวันเสาร์ หรือ Saturday School นำโดย ยีราฟ-สรวิศ ไพบูลย์รัตนากร ผู้ก่อตั้งมูลนิธิฯ ได้ร่วมมือกับกรุงเทพมหานคร (กทม.) ในการจัดงาน BIGDAY 2023 ภายใต้ธีม Reaching new height in learning และได้รับเกียรติจาก ศานนท์ หวังสร้างบุญ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เข้าร่วมในการเปิดงาน โดยงาน BIGDAY2023 นั้นจะเป็นพื้นที่ให้นักเรียนในโครงการได้นำผลงานที่พวกเขาได้เรียนกันมาตลอดหลายสัปดาห์มาจัดแสดง อีกทั้งยังเปิดพื้นที่ให้นักเรียนได้แสดงความสามารถที่หลากหลาย เช่น ทักษะการวาด การร้องเพลง การแสดง และการพากย์เสียงแข่งขัน E-Sports
สรวิศระบุถึงจุดประสงค์การจัดงานนี้ขึ้นไว้ว่า Saturday School อาสาสอนเด็กๆ หลายสัปดาห์ นักเรียนจะเรียน 2-10 สัปดาห์ ดังนั้น BIGDAY 2023 จึงเป็นวันที่นักเรียนจากทุกโรงเรียนจะได้มาแสดงผลงาน รวมไปถึงความสามารถที่ได้เรียนมา อีกทั้งยังเป็นพื้นที่ให้เด็กได้มาแสดงออก ตนรู้สึกดีใจกับเด็กๆ ที่เห็นว่าพวกเขาสนุกไปกับบรรยากาศของงาน และตนก็อยากเห็นน้องๆ เรียนรู้และพัฒนาตัวเองต่อไป
สรวิศยังกล่าวขอบคุณทาง กทม. ที่ได้ร่วมงานกัน เพราะตนมีวิสัยทัศน์ด้านการศึกษาที่คล้ายกับคณะผู้บริหารกรุงเทพมหานครในปัจจุบัน ตนอยากสร้างการมีส่วนร่วมกับหลายๆ หน่วยงาน ทั้งภาคประชาชน หรือเอกชนรายอื่นๆ ภายใต้โครงการ Open Education ตนขอบคุณทาง กทม. ที่ได้ช่วยประสานงานกับโรงเรียนในเครือข่ายกว่า 400 โรงเรียน ช่วยอุดหนุนงบประมาณในการจัดอบรมอาสาสมัคร และขอขอบคุณที่เปิดพื้นที่สนามกีฬาแห่งนี้ในการจัดกิจกรรม
ด้านศานนท์ได้กล่าวเพิ่มเติมว่า นโยบายด้านการศึกษาเป็นเรื่องที่ผู้ว่าฯ มีแผนชัดเจนมาโดยตลอด ทีมบริหารกรุงเทพมหานครอยากเปลี่ยนการศึกษาเป็นการเรียนรู้ เพราะเชื่อว่าทุกๆ ที่ ทุกๆ เวลา สามารถเป็นการเรียนรู้ได้ทั้งหมด การมีอยู่ของมูลนิธิโรงเรียนวันเสาร์ หรือ Saturday School จึงเป็นต้นทุนหลักของกรุงเทพมหานคร เพราะในปัจจุบันหลายคนยังมีภาพว่ากรุงเทพมหานครเป็นเมืองธุรกิจหรือเมืองนักออกแบบเพียงเท่านั้น ทีมบริหารอยากให้กรุงเทพมหานครเป็น Learning City หรือเมืองแห่งการเรียนรู้ ทั้งนี้ กรุงเทพมหานครพร้อมที่จะสืบเนื่องและขยายผลจากความสำเร็จของมูลนิธิฯ เพื่อเปิดพื้นที่ให้น้องๆ นักเรียนทุกคน
ภายในงานถูกจัดไปด้วยซุ้มของนักเรียนจากหลากหลายโรงเรียนในโครงการ ซึ่งผลงานที่นำเสนอมีทั้งผลงานที่ออกมาเพื่อแก้ไขปัญหาชุมชน เช่น ขยะ หรือซุ้มทดลองทางวิทยาศาสตร์ เพื่อให้นักเรียนจากต่างโรงเรียนได้เข้ามาแลกเปลี่ยนความรู้ซึ่งกันและกัน นอกจากนั้นยังมีการนำหุ่นยนต์มาจัดแสดง ซึ่งสร้างความตื่นตาให้กับน้องๆ ที่เข้ามาร่วมกิจกรรมอีกด้วย
อนึ่งในงานมีการจัดแสดงความสามารถพิเศษของน้องๆ ทั้งโชว์ร้องเพลง การแสดงละครเวที และการพากย์การแข่งขัน E-Sports เป็นต้น ซึ่งได้รับเสียงตอบรับจากผู้ที่เข้าร่วมงานได้อย่างดีเยี่ยม
สรวิศได้แสดงความคาดหวังสำหรับงาน BIGDAY ครั้งถัดไปว่าจะมีผู้เข้าร่วมงานมากขึ้น จากการที่ตนขยายกรอบความร่วมมือมากขึ้น ทั้งในแง่อาสาสมัคร ครูผู้สอน และโรงเรียนที่เข้าร่วมโครงการ โดยในอนาคตมูลนิธิฯ มีแผนที่จะไปเพิ่มโรงเรียนอีก 7 จังหวัด เพื่อให้เกิดการเรียนรู้แก่น้องๆ นักเรียน และคาดหวังว่างาน BIGDAY ครั้งถัดไปจะมีคนทั่วไปเข้ามาชมผลงานนักเรียนกันมากขึ้น
