วันนี้ (18 พฤษภาคม) สถิตย์ ลิ่มพงศ์พันธุ์ สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ให้สัมภาษณ์ถึงการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ว่า
เดิมมีอยู่ 2 คำคือคำว่า แลนด์สไลด์ และปิดสวิตช์ ส.ว. ความหมายของสองคำนี้คือ ไม่จำเป็นต้องใช้เสียง ส.ว. แต่ใช้เสียงของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) 376 คน ถ้าเป็นไปตามนั้น ส.ว. ก็ไม่จำเป็นต้องใช้สิทธิ ตอนแรกตนตั้งใจว่าจะงดออกเสียง เนื่องจากเมื่อได้เสียงเกิน 376 เสียงแล้วตนก็ไม่จำเป็นต้องใช้สิทธิ ควรจะเป็นสิทธิของ ส.ส.
“เมื่อรวมกันแล้ว 313 เสียง และไม่ตั้งใจที่จะรวบรวมมากกว่านี้ แสดงว่ามีการเปิดสวิตช์ ส.ว. แล้ว ผมในฐานะ ส.ว. ต้องใช้สิทธิตามหลักการประชาธิปไตย ด้วยการ โหวตให้ตามเสียงข้างมากของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ตอนแรกที่ไม่ได้พูดออกมา เพราะต้องรอว่า ส.ส. จะปิดสวิตช์ ส.ว. หรือไม่ ซึ่งก็เป็นหลักการตามประชาธิปไตยอย่างหนึ่ง และที่สัญญาไว้ให้กับประชาชน” สถิตย์กล่าว
สถิตย์ยังกล่าวถึงกรณี ไอติม-พริษฐ์ วัชรสินธุ ผู้จัดการการสื่อสารและการรณรงค์นโยบาย พรรคก้าวไกล โพสต์เฟซบุ๊กจดหมายเปิดผนึกถึง ส.ว. 250 คนว่า สิ่งที่พริษฐ์ได้ทำถือว่าเป็นประโยชน์มาก มีวิธีการสื่อสารที่ดี เพราะมาในแนวทางของการให้เกียรติ จูงใจที่มีเหตุผล เป็นการพูดที่เข้าใจคนต่างวัย เป็นการสื่อสารที่มีตรรกะของความเข้าใจมากกว่าการสร้างความไม่เข้าใจระหว่างรุ่น ซึ่งทำให้มีผลในทางที่ดี
“ไม่มีเงื่อนไขอื่น ถ้าพูดตามหลักการไม่ว่าใครที่มาแนวทางนี้ก็ควรได้รับการสนับสนุน แต่ต้องเป็นเงื่อนไขที่ว่าได้สัญญากับประชาชนไว้แล้วว่าจะทำอะไร ไม่ใช่ประชาชนเลือกมาแล้วไปทำอีกอย่างที่ประชาชนไม่รับทราบ อย่างนั้นก็สนับสนุนไม่ได้ และวุฒิสมาชิกก็ใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรองอีกชั้นหนึ่ง ไม่ใช่เป็นหุ่นยนต์อย่างที่เขาพูดกัน สมาชิกวุฒิสภา คือสมาชิกที่มีวุฒิภาวะ” สถิตย์กล่าว