วันนี้ (15 กรกฎาคม) สาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยถึงแผนการจัดซื้อวัคซีนที่เมื่อวานนี้ (14 กรกฎาคม) คณะกรรมการวัคซีนแห่งชาติ มีมติตั้งกรอบจัดหาวัคซีนอีก 120 ล้านโดสในปี 2565 ซึ่งเป็นการจัดหาเพิ่มเพื่อให้ครอบคลุมในกลุ่มอื่นๆ เช่นกลุ่มเด็ก
สาธิตระบุถึงสัญญาการจัดซื้อวัคซีน AstraZeneca ในปี 2564 ซึ่งมีความคลาดเคลื่อน คือเดิมจะต้องส่งมอบภายในสิ้นปี 2564 จำนวน 61 ล้านโดส แต่ตอนนี้มีการขยายไปเดือนพฤษภาคมปี 2565 โดยในสัญญาไม่ได้ระบุเงื่อนเวลา มีแต่จำนวนเต็มทั้งหมด
“สงครามวัคซีนในเวลานี้ ต้องยอมรับว่าเป็นอำนาจของผู้ขาย ฉะนั้นการกำหนดในสัญญาต่างๆ เขาจะไม่ Commit ในเรื่องเวลา” สาธิตกล่าว
สาธิตกล่าวต่อไปว่า เรายังวางแผนการฉีดได้ ซึ่งก็มีความพยายามอย่างเต็มที่ในการบริหารวัคซีนที่มีอยู่ให้ทั่วถึงและฉีดให้ได้มากที่สุด ในส่วนของ AstraZeneca ซึ่งเขาบอกว่าจะส่งมอบ 40% ของกำลังการผลิตทั้งหมดให้ทางไทย ซึ่งขณะนี้เขามีกำลังการผลิต 15 ล้านโดสต่อเดือน ซึ่งจำเป็นต้องเจรจากันเนื่องจากเรายังต้องการวัคซีนจำนวนมากมาหยุดยั้งการระบาดที่กำลังเกิดขึ้นในขณะนี้
ส่วนเรื่องการควบคุมการส่งออกของวัคซีน AstraZeneca นั้น ยังเป็นข้อเสนอของสถาบันวัคซีน แต่ได้ให้กรมควบคุมโรคกับสถาบันวัคซีนเจรจากับ AstraZeneca อย่างถึงที่สุดก่อน เราเน้นการเจรจาก่อนเพื่อไปให้ถึงเป้าหมายที่เราอยากได้
“เรามีกฎหมายอยู่หลายกฎหมาย การส่งออกยา หรือประกาศของสถาบันวัคซีน หรือ พ.ร.บ. วัคซีนแห่งชาติ เราก็พอมีอำนาจ แต่การมีอำนาจผมเรียนว่าบางครั้งก็ได้ผล บางครั้งก็ไม่ได้ผล” สาธิตกล่าว
