วันนี้ (14 พฤศจิกายน) เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสชท.) ร่วมกับการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) จัดพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ เรื่องการสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการซื้อลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก 2022 รอบสุดท้าย ที่จะแข่งขันกันระหว่างวันที่ 20 พฤศจิกายน – 18 ธันวาคมนี้ที่ประเทศกาตาร์
โดยวันนี้ ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการ กกท. ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน เปิดเผยว่าตอนนี้อยู่ในขั้นตอนของการเจรจากับทางสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) เกี่ยวกับมูลค่าลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก 2022 ที่เพิ่งพูดคุยกันล่าสุดไปเมื่อคืนวันศุกร์ที่ 11 พฤศจิกายน ให้มีความเหมาะสมมากขึ้น ซึ่งหากทางฟีฟ่าไม่ยอมปรับราคาให้มีความเหมาะสมมากขึ้น อาจต้องยอมรับว่าแฟนบอลไทยจะไม่ได้รับชมฟุตบอลโลก 2022 ในครั้งนี้
“ขณะนี้เราก็พยายามเต็มที่ให้ในการที่จะตกลงให้ได้ข้อยุติให้ได้เร็วที่สุด เงื่อนไขต่างๆ ที่เราส่งให้ฟีฟ่าครบหมดแล้ว ทั้งการให้ฟีฟ่าพิจารณาราคาให้เหมาะสมมากขึ้น หรือเงื่อนไขในการแบ่งแยกให้เป็นแพ็กเกจเล็กลง วันนี้เราต้องรอความชัดเจนจากฟีฟ่า ซึ่งคาดว่าจะได้คำตอบวันนี้
“สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการตัดสินใจของฟีฟ่าว่าจะยิมยอมตกลงราคาที่เหมาะสมกับเราอย่างไร และในส่วนของผู้สนับสนุนเราก็ต้องหาให้ได้มากที่สุด ก็มีภาคเอกชนหลายรายยืนยันให้การสนับสนุน แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ เพราะยังรอความชัดเจนอยู่
“1,600 ล้านบาทเป็นราคาที่มากเกินควรสำหรับพี่น้องประชาชน และเราเองด้วย ที่เมื่อเทียบกับลิขสิทธิ์ในชาติเพื่อนบ้าน ราคานี้สูงเกินไป
“ถ้าฟีฟ่าไม่ยอมจริงๆ ก็ต้องทำความเข้าใจกับพี่น้องประชาชนว่าเราได้พยายามถึงที่สุดแล้ว แต่ถ้ายังยืนราคาที่สูงเกินไป เราก็รับไม่ได้ ก็ต้องยอมรับว่าครั้งนี้จะไม่มีการถ่ายทอดสด
“แต่ก็เราก็ยังเชื่อนะครับว่าฟีฟ่ากับประเทศไทยมีเจตนาตรงกันว่าอยากให้คนไทยได้รับชมการถ่ายทอดสด ทางฟีฟ่าคงจะมีทางออกข้อเสนอให้เราพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง
“เรามีเวลาในการดำเนินการถึงวันที่ 20 พฤศจิกายน หลังจากนั้นก็จะเป็นการดำเนินการได้ยากที่จะถ่ายทอดสดฟุตบอลโลกครั้งนี้”
ส่วนในเรื่องของการใช้เงินกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติมาสนับสนุนการซื้อลิขสิทธิ์ฟุตบอลโลกในครั้งนี้ ยังคงต้องตรวจสอบความเหมาะสม เนื่องจากงบประมาณในแต่ละปีมีการจัดสรรไปแล้ว
“ตอนนี้เราดูในแง่กฎหมายเฉยๆ ไม่ได้มีการดำเนินการ ในข้อกฎหมายมีความเป็นไปได้ แต่ต้องระวังในการใช้กองทุน เพราะในการจัดสรรงบประมาณในแต่ละปีเราจะมีแผนในการอนุมัติ ซึ่งในแผนมีความชัดเจนในเรื่องต่างๆ อยู่แล้ว
“ไม่ใช่มีเงินเหลือยู่ ซึ่งต้องเรียนว่าดูเหมือนจะมีอยู่เยอะ แต่เงินถูกจัดสรรไปสู่สมาคมกีฬาต่างๆ ส่วนใหญ่ และเป็นกิจการที่เราผูกพันต่อเนื่องมา เพราะฉะนั้นการใช้งานต่างๆ ต้องพิจารณาอีกหลายปัจจัย
“ตอนนี้ปัจจัยสำคัญที่สุดที่จะให้คนไทยได้ดูฟุตบอลโลกคือการทำงานให้รวดเร็วที่สุด”
สำหรับการลงนามครั้งนี้จัดขึ้นหลังจากที่ กสทช. มีมติอนุมัติเงินสนับสนุนจากกองทุนวิจัยและพัฒนากิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม เพื่อประโยชน์สาธารณะ (กทปส.) ให้ กกท. เพื่อถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก 2022 ในกรอบวงเงิน 600 ล้านบาท จากจำนวนเต็มที่ กกท. เสนอขอรับการสนับสนุนไป 1,600 ล้านบาท ทำให้ กกท. ต้องหาภาคเอกชนเข้ามาสนับสนุนอีก 1,000 ล้านบาทนั้น
จนเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมามีรายงานว่ามีเอกชนเข้าร่วมสนับสนุนแล้วทั้งหมด 3 บริษัท ได้แก่ บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จํากัด (มหาชน), บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จํากัด (มหาชน), บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เป็นจำนวนเงิน 400 ล้านบาท และ กกท. ได้ทำหนังสือขอรับการสนับสนุนจากบริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป จํากัด (มหาชน) และบริษัท ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) (ปตท.สผ.) ไปเมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายนที่ผ่านมา
คณะทำงานมี 2 ทางเลือกในเวลานี้คือ 1. ยอมซื้อในราคา 1,600 ล้านบาท ซึ่งจะโดนวิพากษ์วิจารณ์ว่าซื้อในราคาแพง กับข้อ 2. เราจะไม่ซื้อลิขสิทธิ์ เราก็จะไม่ต้องเอาเงินภาษีประชาชนไปซื้อ ซึ่งก็จะโดนตำหนิจากประชาชนอีกส่วนหนึ่งว่าซื้อไม่สำเร็จ
โดยที่ผ่านมาประเทศไทยกับฟุตบอลโลกมีการถ่ายทอดสดมาให้ชมตลอดตั้งแต่ปี 1970 หรือเมื่อ 52 ปีที่แล้ว ตอนนั้นเป็นฟุตบอลโลกที่เม็กซิโก และถ่ายทอดสดในเกมนัดชิงชนะเลิศมานัดเดียว
จากนั้นในปี 1974 ที่เยอรมนีเป็นเจ้าภาพ และปี 1978 ที่อาร์เจนตินา ไทยถ่ายทอดสด 2 เกมคือ นัดเปิดสนาม กับนัดชิงชนะเลิศ
ต่อมาในปี 1982 ที่ประเทศสเปน ถ่ายทอดสด 4 นัดคือ นัดเปิดสนาม รอบรองชนะเลิศ และรอบชิงชนะเลิศ
ปี 1986 ที่เม็กซิโก เริ่มมากขึ้นโดยถ่ายเกมนัดเปิดสนาม ต่อด้วยถ่ายตั้งแต่รอบ 8 ทีมสุดท้ายไปจนถึงนัดชิงชนะเลิศ
จากนั้นตั้งแต่ปี 1990 (อิตาลี), 1994 (สหรัฐอเมริกา), 1998 (ฝรั่งเศส), 2002 (เกาหลี-ญี่ปุ่น), 2006 (เยอรมนี), 2010 (แอฟริกาใต้), 2014 (บราซิล) และ 2018 (รัสเซีย) คนไทยได้ดูฟุตบอลโลกครบทุกแมตช์
สำหรับฟุตบอลโลก 2022 ที่กาตาร์ จะเริ่มนัดเปิดสนามในวันที่ 20 พฤจิกายนนี้ ส่วนนัดชิงชนะเลิศจะมีขึ้นในวันที่ 18 ธันวาคม