วันนี้ (5 พฤษภาคม) ธันย์นิชา เอกสุวรรณวัฒน์ ทนายความของ สรารัตน์ รังสิวุฒาภรณ์ หรือ แอม ผู้ต้องหาในคดีไซยาไนด์ กล่าวภายหลังเข้าพบแอมภายในทัณฑสถานหญิงกลาง ประมาณ 1 ชั่วโมง ว่า เมื่อแอมได้เจอกับตนเองไม่ได้มีทีท่าเครียดและยังคงยิ้มแย้มปกติ
ส่วนทางคดีวันนี้แอมยังรับทราบข้อกล่าวหาไม่ครบทุกคดี รับทราบไปเพียง 8 คดีเท่านั้น ซึ่งแอมได้ให้การปฏิเสธในทุกคดีและขอให้การในชั้นศาล พร้อมบอกกับตนเองมาว่าหลังจากนี้ไม่ต้องให้ใครมารบกวนเขาอีก ขอให้มีแค่ทนายความมาได้เพียงคนเดียว เนื่องจากเขาไม่อยากลงมาพบบ่อยๆ อยู่ในช่วงตั้งครรภ์ด้วย
ส่วนในวันพรุ่งนี้ (6 พฤษภาคม) ที่ พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ จะเข้ามาพบนั้น ตนเองก็บอกไปว่าให้แอมรายงานท่านไปเหมือนวันนี้ให้ท่านได้ยินด้วยตนเอง พร้อมยอมรับว่าจากที่ พ.ต.ท. วิฑูรย์ รังสิวุฒาภรณ์ หรือ รองผู้กำกับอ๊อฟ อดีตสามีของแอม เข้ามาพบเมื่อวานนี้ (4 พฤษภาคม) ทำให้แอมเครียดและรู้สึกอ่อนไหว ส่วนมากจะพูดคุยถึงเรื่องที่บ้านและครอบครัวมากกว่า
ธันย์นิชากล่าวต่อไปว่า ได้บอกกับแอมว่า “อย่างดีก็แค่ประหารชีวิต และข้อหานี้ถ้าจะประหารชีวิตก็จะต้องสุดๆ จริงๆ ชีวิตเรามีเพียง 1 ชีวิต หากจะรับสารภาพอันหนึ่งก็จะมีผลต่อคดีอื่นๆ ด้วย และคดีมี 3 ศาล หากถึงชั้นฎีกาแล้วยังขอถวายฎีกาได้อีก และหากจะประหารชีวิตก็จะต้องสุดจริงๆ” ทางแอมก็ยืนยันว่าจะสู้คดีและขอให้การในชั้นศาลเท่านั้น
“ขณะนี้มั่นใจในพยานหลักฐานที่แอมมีในคดีของ ศิริพร หรือ ก้อย ส่วนในคดีอื่นๆ ดิฉันขอเวลาไปรวบรวมพยานหลักฐานก่อน เพราะดิฉันจะเป็นทนายความให้กับแอมในทุกคดี ซึ่งดิฉันก็ได้ให้กำลังใจแอมให้สู้” ธันย์นิชากล่าว
ธันย์นิชากล่าวต่อไปว่า ด้านแอมก็ให้กำลังใจเธอโดยถามว่า “พี่เหนื่อยไหม เลยบอกไม่เหนื่อย” ยืนยันว่าไม่หนักใจในการทำคดี เพราะมีหน้าที่ในการนำเสนอให้ผู้พิพากษาได้เห็น ส่วนการตัดสินเป็นอำนาจของศาล การชั่งน้ำหนักพยานก็เป็นศาลที่จะใช้ดุลพินิจเช่นกัน