วันนี้ (16 มีนาคม) ศรัณย์วุฒิ ศรัณย์เกตุ แถลงถึงการย้ายไปอยู่กับพรรครวมไทยสร้างชาติว่า สมัยตนอยู่พรรคเพื่อไทยก็ไปด้วยกันไม่ได้ เพราะพรรคเพื่อไทยไม่ให้ตนอภิปรายและไม่ให้แตะต้อง พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ตนจึงแตกหักกับพรรคเพื่อไทย
และเมื่อไปอยู่กับพรรคเพื่อชาติก็แตกหักและอยู่ด้วยกันไม่ได้ เมื่อไปอยู่กับพรรคเสรีรวมไทยของ พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ก็มีความคิดไม่ตรงกันบางอย่าง เพราะตนอึดอัดใจกับ พล.อ. ประวิตร
ศรัณย์วุฒิกล่าวต่อไปว่า ตนสู้เต็มร้อย ตนถูกฟ้องหลายคดีและไม่มีใครช่วย ตนเป็นนักรบผู้ต้องการประชาธิปไตยตัวจริง จึงอยู่พรรคไหนไม่ได้ เพราะพรรคที่มีอยู่ก็เป็นประชาธิปไตยจอมปลอมและหลอกลวงประชาชน คนไทยทั้งแผ่นดินต้องหูตาสว่าง อย่าให้ใครมาหลอกเรา
“ผมจึงมีทางเลือกสองทาง คือด้วยความสามารถและการต่อสู้เพื่อประชาชน วันนี้จึงไม่สนใจขั้วประชาธิปไตยจอมปลอมที่ผสมพันธุ์กันไปหมดแล้ว และทำพรรคเพื่อบริษัทหนึ่งและตระกูลหนึ่ง ผมหมายถึงพรรคไหนคนก็รู้ ส่วนอีกพรรคหนึ่งก็สุดโต่งจนประชาชนหวั่นไหวกันหมด อีกทางเลือกหนึ่งคือการทำงานกับพรรคที่ทำเพื่อประโยชน์ของประชาชน” ศรัณย์วุฒิกล่าว
ศรัณย์วุฒิกล่าวอีกว่า พรรคการเมืองปัจจุบันคือพวกประชาธิปไตยจอมปลอมและหลอกลวงประชาชนโดยใช้ประชาธิปไตยบังหน้า แต่ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีจุดเด่น 3 ข้อ คือ
- เป็นสัญลักษณ์ของการต่อสู้กับพวกประชาธิปไตยปล้นชาติ
- มีความจงรักภักดี
- ประชาชนรากหญ้าได้รับประโยชน์มากมายจากรัฐบาลของ พล.อ. ประยุทธ์ เมื่อเปรียบเทียบกับรัฐบาลอื่นๆ ที่ผ่านมาพวกเขาเหล่านั้นไม่ได้รับอะไรเลย มิหนำซ้ำชาวบ้านยังบอกกับตนว่าชื่นชอบ พล.อ. ประยุทธ์ เพราะได้รับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และแม่ค้าก็บอกว่าชอบโครงการคนละครึ่ง
ศรัณย์วุฒิยังกล่าวด้วยว่า พล.อ. ประยุทธ์ ก็มีจุดอ่อน แต่จุดแข็งก็มาจากสถานการณ์ที่ผ่านมา ตั้งแต่โควิดหรือว่าเศรษฐกิจโลกจะทรุดแค่ไหน พล.อ. ประยุทธ์ ก็ประคองให้เศรษฐกิจไทยอยู่ได้ แต่หลายคนโจมตีว่าบริหารไม่เป็น ถ้า พล.อ. ประยุทธ์ บริหารเศรษฐกิจแย่ ก็ให้ไปดูเศรษฐกิจในหลายประเทศว่าแย่กว่าประเทศไทยมากแค่ไหน ตนจึงมาอยู่กับ พล.อ. ประยุทธ์ หลังจากยุบสภาตนจะลาออกจากพรรคเพื่อชาติ และจะไปสมัครพรรครวมไทยสร้างชาติทันที
“ส่วนการที่ผมเคยท้า พล.อ. ประยุทธ์ ดวลปืนนั้น ผมทำหน้าที่ฝ่ายค้าน ซึ่งต้องทำสุดชีวิตและขุดคุ้ยทุกอย่าง เมื่อวันนี้สถานการณ์เปลี่ยน ผมต้องยึดประโยชน์ของชาติและประชาชนเป็นที่ตั้ง นอกจากนี้ผมยังชื่นชอบ พล.อ. ประยุทธ์ ที่บอกว่าต้องการจะต่อสู้กับพวกประชาธิปไตยปล้นชาติ และมีสัญลักษณ์ของความเป็นอนุรักษนิยม เพื่อทำให้ประเทศสงบและอยู่ด้วยสิ่งดีๆ ไม่ใช่ใช้ประชาธิปไตยจอมปลอมมาปล้นชาติ โกงบ้านกินเมือง ผมจึงขอโทษ พล.อ. ประยุทธ์ สำหรับสิ่งที่ทำไป ผมไม่ได้กลืนน้ำลายตัวเอง เพราะคนที่ย้ายพรรคกันไปกันมาก็ไม่เห็นมีจุดยืนอะไร” ศรัณย์วุฒิกล่าวในที่สุด