วานนี้ (26 ธันวาคม) สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ได้ออกเอกสารชี้แจงกรณีเหตุการณ์อาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (แห่งใหม่) ทรุดตัวลงเมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2568
โดยระบุว่า ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา สตง. ได้ให้ความร่วมมือเต็มที่กับทุกหน่วยงานที่เข้าตรวจสอบ ทั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง, รัฐสภา, ตำรวจ, DSI, ป.ป.ช. และกรมบัญชีกลาง โดยมีความคืบหน้าสำคัญใน 4 ประเด็นหลัก ดังนี้
1. เปิดผลสอบวิศวกรรม: แผ่นดินไหวซ้ำเติมโครงสร้างที่อ่อนแอ คณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงสรุปสาเหตุการพังถล่มว่า เกิดจากการวิบัติเริ่มจากชั้น 1-4 เนื่องจากแรงเฉือนจากแผ่นดินไหว โดยพบข้อบกพร่องร้ายแรงจากการก่อสร้าง 3 ประการ:
- คอนกรีตไม่ได้มาตรฐาน: ผลทดสอบก้อนตัวอย่างคอนกรีตจากผนังรับแรงเฉือน มีค่าต่ำกว่าเกณฑ์
- แบบก่อสร้างผิดกฎหมาย: รายละเอียดในแบบก่อสร้างไม่เป็นไปตามกฎหมาย ทำให้ศักยภาพการรับแรงของอาคารต่ำกว่าที่ควรจะเป็น
- เหล็กเสริมไม่แน่นหนา: ระยะฝังของเหล็กเสริมที่จุดต่อคาน (Link Beam) กับผนังรับแรงเฉือน น้อยกว่ากฎหมายกำหนด ทำให้จุดต่อไม่แข็งแรงพอ
2. คดีอาญา: อัยการสั่งฟ้อง 23 ราย พนักงานสอบสวน สน.บางซื่อ ได้สรุปสำนวนและพนักงานอัยการมีความเห็น สั่งฟ้องผู้ต้องหา 23 ราย (ทั้งบุคคลธรรมดาและนิติบุคคล) ต่อศาลอาญา ในฐานความผิด:
- ออกแบบ ควบคุม และก่อสร้างอาคารโดยไม่ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ เป็นเหตุให้เกิดอันตรายและมีผู้เสียชีวิต
- ร่วมกันปลอมและใช้เอกสารปลอม
- ความผิดตาม พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร และ พ.ร.บ.จัดซื้อจัดจ้างฯ
3. คดีพิเศษ (DSI) และ ป.ป.ช.: ลุยสอบฮั้วประมูล-นอมินี กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ได้ดำเนินการสอบสวนและมีความเห็นสั่งฟ้องในกรณีความผิดตาม พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว (นอมินี) ส่วนประเด็นการ ฮั้วประมูล (พ.ร.บ.ฮั้ว) และการร้องเรียนเจ้าหน้าที่รัฐทุจริต ได้ส่งเรื่องให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. ไต่สวนและวินิจฉัยต่อตามอำนาจหน้าที่ โดย สตง. ได้ส่งมอบเอกสารหลักฐานให้ ป.ป.ช. ครบถ้วนแล้ว
4. การตรวจสอบจัดซื้อจัดจ้าง คณะผู้ตรวจสอบของกรมบัญชีกลางกำลังตรวจสอบการปฏิบัติตาม พ.ร.บ.การจัดซื้อจัดจ้างฯ พ.ศ. 2560 ซึ่ง สตง. ได้ชี้แจงข้อมูลและส่งเอกสารประกอบการพิจารณาแล้วเช่นกัน
ทั้งนี้ สตง. ย้ำจุดยืนในตอนท้ายว่า ยินดีให้ความร่วมมือในการตรวจสอบอย่างโปร่งใส เชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรม และพร้อมดำเนินการตามกฎหมายอย่างเคร่งครัดหากพบว่ามีเจ้าหน้าที่ของรัฐกระทำความผิด เพื่อสร้างความเชื่อมั่นแก่สาธารณชน


