วันนี้ (20 มีนาคม) พัฒนา พร้อมพัฒน์ ผู้บริหารบริษัท วอเตอร์เกท พาวิลเลี่ยน จำกัด ตั้งโต๊ะแถลงข่าวที่อาคารรัชดา วัน ชี้แจงข้อเท็จจริงเรื่องอาคาร SKYY9 หลัง รักชนก ศรีนอก สส. กทม. และ สหัสวัต คุ้มคง สส. ชลบุรี พรรคประชาชน ออกมาแฉว่ามีการซื้อขายตึกให้กับสำนักงานประกันสังคมในราคาสูงถึง 7,000 ล้านบาท
พัฒนาเปิดเผยว่า ตึก SKYY9 ชื่อเดิม Cas Capital หรือตึก ICE หลังมีการอ้างว่าเป็นการซื้อจากบริษัทของลูกชายนักการเมืองคนหนึ่ง ซึ่งคนทั่วไปเชื่อมโยงว่าเป็นตนเองนั้น บริษัท วอเตอร์เกท พาวิลเลี่ยน จำกัด ซึ่งเป็นเจ้าของตึกที่ตนเองบริหารจัดการอยู่ เคยเป็นเจ้าของตึก ICE ซึ่งมีพื้นที่ประมาณ 100,000 ตารางเมตร โดยบริษัท วอเตอร์เกท ซื้อมาตั้งแต่ปี 2560 ขณะนั้นอาคารนี้เป็นอาคารร้างและมีสภาพทรุดโทรม ไม่สามารถใช้ประโยชน์และใช้งานได้ โดยเป็นการลงทุนซื้ออาคารเก่า ซึ่งเป็นห้องชุดโดยซื้อมาจากหลายเจ้าของ
ในระหว่างที่ถือครองอยู่ เคยมีแผนการที่จะปรับปรุงอาคารดังกล่าวเป็นสำนักงานตามเดิมที่อาคารนี้เคยเป็นอยู่ แต่ตลอดระยะเวลาที่ถือครองทรัพย์สินอยู่ ได้มีพรรคพวกที่อยู่ในวงการการเงินและอสังหาริมทรัพย์มาแนะนำให้รู้จักกับผู้สนใจลงทุนหลายราย หนึ่งในนั้นคือผู้ซื้อ คือ บริษัท เอจีอาร์อี 101 ซึ่งเป็นบริษัทที่เป็นกองทุน PE Fund (กองทุนที่ระดมทุนจากผู้มีเงินหลากหลายราย) ในต่างประเทศ
ตนเองจบการศึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์โดยตรง มีประสบการณ์ในภาคการเงินและอสังหาริมทรัพย์อยู่แล้ว บริษัทจึงได้ทำข้อตกลงการซื้อขายตามสภาพตึกที่เป็นอยู่ในวันที่ 1 พฤษภาคม 2562 และทำการโอนกรรมสิทธิ์ทรัพย์สินคือห้องชุดในอาคารทั้งหมด ในราคาประมาณ 2,000 ล้านบาท ในวันที่ 23 สิงหาคม 2562 ให้แก่ บริษัท เอจีอาร์อี 101 จำกัด
เมื่อบริษัทได้รับชำระเงินแล้วก็โอนกรรมสิทธิ์ให้แก่ผู้ซื้อไปเรียบร้อยดี โดยผู้ซื้อมิได้กลับมามีนิติสัมพันธ์ใดๆ มิได้มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ กับผู้ซื้อ และมิได้ติดต่อกันอีก หลังจากขายไปแล้วก็จบสิ้น ตนเองก็ไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกับผู้ซื้ออีกในทุกกรณี ทราบแต่เพียงว่าผู้ซื้อไปประสงค์จะลงทุนปรับปรุงอาคารให้อยู่ในสภาพที่สมบูรณ์ สามารถประกอบธุรกิจได้ และมีการลงทุนปรับปรุงอีกหลายพันล้านบาท
พัฒนายืนยันว่า ตนเองไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับผู้ซื้อ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง และไม่เคยทราบเรื่องราวว่าอาคารหลังนี้ได้ถูกเปลี่ยนมือมาเป็นของใคร ในราคาเท่าไร และเพิ่งจะทราบเรื่องทั้งหมดพร้อมกับทุกคนว่า สำนักงานประกันสังคมได้ซื้ออาคารหลังนี้ไป ตนเองไม่เคยพบ ไม่เคยเจอ ไม่รู้จักกับผู้ใดในประกันสังคม รวมถึงกรรมการ หรือผู้มีอำนาจ ไม่ว่าจะเป็นใคร ทั้งในสำนักงานประกันสังคมและกระทรวงแรงงาน
ทั้งนี้ ภายหลังการขายอาคารให้แก่ บริษัท เอจีอาร์อี 101 จำกัด ตนเองก็มิได้เกี่ยวข้องอีก จึงต้องออกมาชี้แจงถึงประเด็นดังกล่าว ที่มีกระแสพูดถึงว่าตนเองเป็นผู้ขาย หรือเกี่ยวข้องกับการขายอาคารหลังนี้ให้แก่สำนักงานประกันสังคม ซึ่งไม่เป็นความจริง และการที่ผู้ซื้อไปนำไปพัฒนาให้เกิดความสวยงาม สามารถใช้งานใช้ประโยชน์ได้ และใช้เงินพัฒนาและรีโนเวตไปหลายพันล้านแล้วขายต่อไปนั้น ไม่เกี่ยวกับตนเองโดยสิ้นเชิง จะมีกำไรหรือขาดทุน ตนเองก็มิได้เข้าเกี่ยงแม้แต่น้อย
ทั้งนี้ ช่วงถาม-ตอบ พัฒนาได้กล่าวถึงกระแสข่าวที่ตนเองอาจไปเกี่ยวข้องกับการซื้อขายตึกให้สำนักงานประกันสังคม โดยระบุว่าเรื่องดังกล่าวเกิดขึ้น เมื่อสองสัปดาห์ก่อน มี สส. เปิดประเด็นเรื่องประกันสังคมขึ้นมา และมีการเชื่อมโยงมาถึงตนเอง จึงต้องออกมาชี้แจงว่าเราไม่เกี่ยวข้อง
อย่างไรก็ตาม เหตุผลที่ตัดสินใจลงทุนในตึก SKYY9 เพราะอาคารนี้เป็นอาคารใหญ่ สภาพทรุดโทรมแต่มีพื้นที่ 100,000 กว่าตารางเมตร อยู่ในโลเคชันที่ดี น่าจะเป็นอสังหาริมทรัพย์ที่ลงทุนได้ อยู่ในพื้นที่ที่ดีเพียงแต่เก่าและต้องถูกปรับปรุง โดยราคาซื้อขาย ณ ขณะนั้นขอไม่เปิดเผย แต่เราขายให้กับผู้ซื้อประมาณ 2,000 ล้านบาท
พัฒนากล่าวอีกว่า ในวันที่ซื้ออาคารนี้มีสภาพเป็นอาคารที่สร้างเสร็จแล้ว แต่เก่ามาก อุปกรณ์ภายในเสียหาย ทั้งบันไดเลื่อน สายไฟ และระบบ ไม่สามารถใช้งานได้อีก อาคารสร้างถึงชั้นบนสุดเรียบร้อยแล้ว มีประมาณ 37 ชั้น ซึ่งตอนที่ขายให้กับบริษัท เอจีอาร์อี 101 จำกัด ไม่ได้ปรับปรุงอะไรเพิ่มเติม
ปัจจุบันเห็นว่าอาคารนี้ได้รับการออกแบบสวยและมีคุณภาพ ได้รับรางวัลตั้งอยู่ในทำเลที่ดี แต่การขายต่อให้กับสำนักงานประกันสังคมในมูลค่า 7,000 ล้านบาทนั้น ขออนุญาตไม่มีความเห็น เพราะไม่ทราบว่าบริษัทดังกล่าวขายให้กับกองทุนประกันสังคมหรือไม่ ทราบมาว่าเป็นอย่างนั้นแต่ไม่ได้เข้าไปตรวจสอบ
ส่วนกระแสข่าวที่มีการวิเคราะห์ว่า การซื้อขายอาคารดังกล่าวอาจจะเป็นการเอื้อประโยชน์ของกลุ่มพรรคการเมืองในสมัยที่รัฐมนตรีท่านหนึ่งของพรรคพลังประชารัฐดำรงตำแหน่งเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ซึ่งอาจจะเชื่อมโยงมาถึงตนเองนั้น พัฒนาตอบเพียงว่า “ไม่ทราบครับ”
พัฒนาย้ำว่าบริษัท เอจีอาร์อี 101 จำกัด เป็นเพียงแค่ผู้ซื้อและผู้ขายกับตระกูลพร้อมพัฒน์เท่านั้น ไม่มีความสนิทเป็นเครือญาติ โดยการที่ออกมาชี้แจงในวันนี้ เป็นการพูดด้วยตนเอง พร้อมยืนยันว่าไม่ได้ถือหุ้นในบริษัท เอจีอาร์อี 101 จำกัด และไม่รู้จักกันมาก่อน
นอกจากนี้ในช่วงที่มีการซื้อขายตึก มีพรรคพวกที่รู้จักกันหลายรายเข้ามาคุย เขาบอกว่าจะซื้อไปทำธุรกิจต่อ เราเห็นว่า บริษัท เอจีอาร์อี 101 จำกัดมีศักยภาพก็เลยขายไป ประเมินดูแล้วราคาที่ขายไปเป็นราคาที่เหมาะสมกับทรัพย์สินที่ขายไป ส่วนการอัปราคาขายจาก 2,000 ล้านบาท เป็น 7,000 ล้านบาทนั้น การซื้อทรัพย์สินชิ้นหนึ่งมีหลายอย่างต้องพิจารณาและขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย แต่การปรับราคาขึ้นสองถึงสามเท่านั้นแม้ตนเองจะทำงานด้านนี้ แต่ก็ไม่ใช่กูรู จึงขอไม่ตอบประเด็นคำถามนี้
พัฒนาย้ำว่าตนเองไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการขายให้กับสำนักงานประกันสังคม ไม่รู้จักไม่มีอะไรใดๆ เพียงแต่ได้ขายกับบริษัท เอจีอาร์อี 101 จำกัด เท่านั้นในนามของตระกูลพร้อมพัฒน์และพร้อมทวีสิทธิ์ ไม่มีใครรู้จักกับบริษัทดังกล่าว ไม่เคยพบใครในสำนักงานประกันสังคม และกระทรวงแรงงาน ไม่เคยโทรศัพท์หา
อีกทั้ง สันติ พร้อมพัฒน์ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข และรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ในฐานะบิดาก็ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับเรื่องนี้ รวมถึงธุรกิจอื่นก็ไม่ได้เกี่ยวข้องกับสำนักงานประกันสังคม และยังไม่ได้คิดที่จะฟ้องกลับใคร โดยข่าวดังกล่าวไม่ได้ส่งผลต่อธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ มองว่าเป็นเรื่องธรรมดา