วันนี้ (3 เมษายน) สันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง และ เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) คนใหม่ กล่าวภายหลังการประชุมใหญ่สามัญพรรคพลังประชารัฐ ซึ่งตนในนามกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ ยืนยันเป้าหมายว่าขับเคลื่อนนโยบาย ที่ พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคได้ประกาศไว้ โดยจากนี้ตนจะร่วมประชุมกับกรรมการบริหารพรรค และภาคส่วนต่างๆ ตลอดจนผู้อำนวยการพรรค และฝ่ายยุทธศาสตร์ของพรรค เพื่อกระจายงานลงไปให้กับสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) สมาชิกพรรค ผู้บริหารในแต่ละภาคที่แบ่งเป็น 10 ภาคทั่วประเทศ ลงไปรับทราบและสะท้อนปัญหาจากประชาชนในแต่ละภาคและกลุ่มจังหวัด นอกจากนี้ จะพัฒนาเยาวชนคนรุ่นใหม่ เพิ่มศักยภาพหลังจบการศึกษา
ขณะเดียวกัน พรรคได้ตั้งเป้าหมายที่ พล.อ. ประวิตร ให้โจทย์ไว้ ว่าจะได้ ส.ส. ขั้นต่ำไม่น้อยกว่า 150 ที่นั่ง ซึ่ง ส.ส. เก่า, ส.ส. ใหม่ และกรรมการบริหารพรรคจะรวมกันเป็นหนึ่ง เพื่อเดินไปสู่เป้าหมายให้ประชาชนมีความหวังกับพลังประชารัฐ จะทำเพื่อปากท้องของประชาชน สมตามเจตนารมณ์ของพล.อ. ประวิตร เมื่อถามว่าการตั้งพรรคใหม่ที่สนับสนุนพล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา เช่นเดียวกับพลังประชารัฐ จะเป็นการตัดคะแนนกันหรือไม่ สันติกล่าวว่า ไม่สนใจพรรคอื่น ให้ความสำคัญกับพลังประชารัฐที่จะพัฒนาให้เป็นความหวังของประชาชน
เมื่อถามว่า พีระพันธ์ุ สาลีรัฐวิภาค ที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคได้ลาออกจากพรรคพลังประชารัฐ จะมีผลกระทบต่อพรรคหรือไม่ สันติกล่าวว่า พรรคมีความตั้งใจจะพัฒนาให้เป็นสถาบัน เพื่อให้คนรุ่นใหม่ในอนาคตสามารถเข้ามาสานต่อนโยบายและผลักดันให้ขับเคลื่อนไปได้อย่างไม่มีรอยต่อหรือสะดุด แม้ว่าในอนาคตจะไม่มีตน หรือกรรมการบริหารคนอื่นๆ ก็จะสามารถเดินหน้าพรรคต่อไปได้
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าการนั่งเลขาธิการพรรค ตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เล็กเกินไปหรือไม่ สันติกล่าวว่า หน้าที่ในตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังนั้น มีส่วนเกี่ยวข้องกับทุกกระทรวงที่จะแก้ปัญหาปากท้องให้กับประชาชน หากมีความตั้งใจในการที่จะดูแลขับเคลื่อนแก้ปัญหา มองว่าไม่ว่าจะอยู่ตรงไหนก็สามารถที่จะประสานให้นโยบายของพรรคขับเคลื่อนไปได้
สันติกล่าวว่า ไม่ได้ให้ความสำคัญกับการประกาศตัวเป็นหัวหน้าครอบครัวของพรรคการเมืองอื่น แต่พลังประชารัฐให้ความสำคัญกับบ้านหลังใหญ่ของพรรคพลังประชารัฐ เพราะสมาชิกของพลังประชารัฐถือเป็นครอบครัวใหญ่ที่ต้องลงไปดูทุกข์สุขของประชาชนเป็นหลัก
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าพรรคพลังประชารัฐมีแนวทางจะดึงคะแนนเสียงของคนรุ่นใหม่ได้อย่างไร สันติกล่าวว่า หลังจากนี้จะมีการสัมมนากับสมาชิกใน 400 เขตของพรรค เพื่อให้นำนโยบายของพรรคไปแจ้งกับประชาชน โดยเชื่อว่าหากเราดูแลประชาชนได้ตั้งแต่ฐานรากขึ้นมาจนถึงนักธุรกิจ ตนก็เชื่อมั่นว่าคะแนนความไว้วางใจจะได้รับการตอบรับเอง
ส่วนที่พรรคเพื่อไทยจะได้คะแนนเสียงแบบแลนสไลด์ พรรคพลังประชารัฐจะสามารถต้านทานได้หรือไม่ สันติมั่นใจในพรรคพลังประชารัฐ ส่วนการแลนสไลด์ของพรรคอื่นที่พูดถึง เป็นแค่ความฝัน แค่คำพูด แต่สำคัญที่การกระทำ
เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงกระแสพรรคที่ตกต่ำลง จะสามารถสู้ศึกในการเลือกตั้งครั้งหน้าได้หรือไม่ สันติยืนยันว่า กระแสพรรคพลังประชารัฐไม่ได้ตกต่ำ แต่ต้องบอกว่ากระแสดีมาก ดูจากโพลเป็นกลางที่สำรวจความเห็นของประชาชน ซึ่งมั่นใจว่ากระแสของตัวพล.อ. ประยุทธ์ ที่ทำเพื่อประชาชน โดยเฉพาะช่วงโควิด ยาวนานถึง 2 ปี สามารถแก้ปัญหาเศรษฐกิจได้ด้วยการใช้งบประมาณดูแลประชาชน ทั้งการเยียวยา ดูแลรักษา จึงถือว่ามีความทุ่มเทในการทำงานมาก
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าหลังจากนี้จะมีการปรับการทำงานด้านการประชาสัมพันธ์ของพรรคพลังประชารัฐหรือไม่ สันติกล่าวว่า หลังจากนี้จะมีนวัตกรรมที่เข้ามาเสริมการทำงานของทีมประชาสัมพันธ์พรรค แต่บุคลากรพรรคก็ทำงานได้ดีแล้ว และจากนี้จะนำผลงานของรัฐบาลและผลงานพรรค สร้างการรับรู้ให้กับประชาชนมากขึ้น
ด้าน นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ เหรัญญิกพรรคพลังประชารัฐ ซึ่งได้รับการแต่งตั้งเป็นคณะกรรมการสรรหาผู้สมัคร ส.ส. ของพรรค กล่าวว่า หลังจากนี้ คณะกรรมการชุดนี้ถือว่าถูกต้องตามกฎหมาย เป็นมติของที่ประชุมใหญ่ และต่อไปจะมีการจัดองค์ประกอบต่างๆ และช่วงใกล้การเลือกตั้งถึงจะมีการขับเคลื่อนการทำงาน ซึ่งยอมรับว่าบรรยากาศการประชุมใหญ่สามัญประจำปีของพรรคในครั้งนี้ เป็นบรรยากาศที่ดี อบอุ่น ราบรื่น