ปฏิเสธไม่ได้ว่า ‘ความหลากหลายทางเพศ’ กำลังเป็นเรื่องที่พูดถึงในวงกว้างมากขึ้นอยู่ในเวลานี้ เพราะต้องยอมรับว่า สังคมโลกในปัจจุบันเปิดกว้างและให้การยอมรับความแตกต่างและความหลากหลายของมนุษย์มากขึ้นกว่าในอดีต ทั้งด้านเชื้อชาติ ศาสนา อายุ โดยฉพาะอย่างยิ่ง ความหลากหลายทางเพศ และรสนิยมทางเพศ
การยอมรับความหลากหลายทางเพศ หรือกลุ่ม LGBTQ+ ที่เพิ่มขึ้นสะท้อนจากเดือนมิถุนายนของทุกปี ซึ่งถูกกำหนดให้เป็น ‘เดือนแห่งความหลากหลายทางเพศ’ หรือ ‘Pride Month’ โดยผู้คนและองค์กรต่างๆ ทั่วโลกออกกิจกรรมหรือแคมเปญต่างๆ เพื่อส่งเสริมความหลากหลายทางเพศ
สำหรับในประเทศไทยต้องยอมรับว่า ‘แสนสิริ’ ซึ่งเป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์ยักษ์ใหญ่ คือหนึ่งในองค์กรที่ออกมาจุดกระแสเรื่องการเปิดกว้างสำหรับความหลากหลายทางเพศ และความเท่าเทียม
ไม่ได้ทำเพื่อยอดขาย
ย้อนกลับไปเมื่อ 6 ปีที่แล้ว ‘แสนสิริ’ เรียกเสียงฮือฮาให้กับผู้คนด้วยการเปลี่ยน ‘โลโก้’ อันเป็นสัญลักษณ์ขององค์กรให้เป็น ‘สีรุ้ง’ ซึ่งเป็นตัวแทนของกลุ่มผู้มีความหลากหลายทางเพศ
การเปลี่ยนครั้งนั้นมีเป้าหมายเพื่อประกาศเจตนารมณ์อย่างชัดเจนถึงการสนับสนุนความหลากหลายทางเพศ ไม่ใช่ทำขึ้นมาเพื่อ ‘เกาะกระแส’ หรือ Rainbow Washing ที่ทำแคมเปญขึ้นมาเพื่อดึงดูดกำลังซื้อจากกลุ่มลูกค้าที่มีความหลากหลายทางเพศ
จากข้อมูลของ Forbes ในปี 2019 ผู้ใหญ่ที่เป็น LGBTQ+ มีกำลังซื้อรวมกันอยู่ที่ 3.7 ล้านล้านดอลลาร์ หรือมากถึง 127 ล้านล้านบาท จึงไม่แปลกที่ธุรกิจอยากได้ฐานลูกค้ากลุ่มนี้
ขณะที่บทความโดย BBC ระบุว่า ผู้ที่เป็นเกย์กว่า 90% สนับสนุนธุรกิจที่สนับสนุนความหลากหลายทางเพศ และในปี 2017 MarketingMag ระบุว่า ‘เกือบ 70% ของกลุ่มรักร่วมเพศยอมรับว่าได้รับอิทธิพลในทางบวกจากโฆษณาที่มีภาพเกย์และเลสเบี้ยน’
และยังมีผลวิจัยจาก PwC ที่ร่วมกับ Out Leadership ระบุว่า กลุ่ม LGBTQ+ รวมถึงเพื่อนและครอบครัวของพวกเขา จะเลือกใช้สินค้าและสนับสนุนแบรนด์ของธุรกิจที่เป็นมิตรกับกลุ่ม LGBTQ+ นอกจากนี้มากกว่า 80% ของพนักงานทั้งกลุ่ม LGBTQ+ และกลุ่มคนรุ่นใหม่ ให้ความเห็นว่านโยบายขององค์กรที่สนับสนุนความหลากหลาย เป็นปัจจัยสำคัญในการตัดสินใจเลือกสถานที่ทำงาน
แต่สำหรับแสนสิรินั้นไม่ปฏิเสธว่า ผลพลอยได้คือยอดขายที่จะเข้ามา แต่แสนสิริยืนยันถึงทิศทางการไม่ทำแคมเปญที่ออกมาเพียงเพื่อฉาบฉวยเท่านั้น เพราะเป้าหมายหลักของการขับเคลื่อนอย่างจริงจังคือ ความเชื่อที่ว่า ‘ทุกวัน คือ ความเท่าเทียมของแสนสิริ’
“แสนสิริเชื่ออย่างแน่วแน่ว่า ทุกมิติของชีวิตคือเรื่องความเท่าเทียม เราให้ความสำคัญในด้านนี้อย่างจริงจรัง และขับเคลื่อนอย่างเป็นรูปธรรม” เศรษฐา ทวีสิน ประธานอำนวยการและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน)
ส่งเสริมอย่างจริงจัง
เรื่องนี้สะท้อนได้จากระยะเวลา 6 ปีที่ผ่านมา แสนสิริเป็นองค์กรผู้นำอสังหาริมทรัพย์ของประเทศที่มุ่งมั่นยืนหยัดส่งเสริมความเท่าเทียม และเปิดกว้างรับความหลากหลายอย่างเป็นรูปธรรมชัดเจน ภายในองค์กรครอบคลุมตั้งแต่พนักงานและครอบครัว
โดยเป็น ‘องค์กรแรกในไทย’ และ 1 ในกว่า 200 บริษัทชั้นนำทั่วโลก เช่น Microsoft, Google, Coca-Cola, Netflix และ Nike ที่ได้ร่วมลงนามในสัญญา UN Global Standards of Conduct for Business ภายใต้การสนับสนุนของ UNDP เปิดกว้างรับพนักงาน LGBTQ+ และปฏิบัติงานอย่างเท่าเทียม
โดยในปีนี้ได้มีการมอบสวัสดิการสำหรับพนักงานที่มีความหลากหลายในองค์กร ได้แก่ ลาสมรส ไม่เกิน 6 วันต่อปี, ลาผ่าตัดแปลงเพศ ไม่เกิน 30 วันต่อปี, ลาฌาปนกิจคู่ชีวิต ไม่เกิน 15 วันต่อปี, ลาเพื่อดูแลคู่ชีวิตและบุตรบุญธรรม ไม่เกิน 7 วันต่อปี นอกจากนี้ ยังครอบคลุมไปถึงคู่ชีวิตของพนักงาน อาทิ วัคซีนทางเลือก ประกันสุขภาพ และอื่นๆ
นอกจากนี้ยังมีการจับมือเป็นพันธมิตรคู่ค้าหลากหลายธุรกิจชั้นนำ ธุรกิจ SMEs และธุรกิจระดับโลก ภายใต้วิสัยทัศน์เดียวกัน ผลักดันความเท่าเทียมจากในองค์กรเพื่อสังคมไทยที่มีความเท่าเทียมกันในทุกมิติ ได้แก่ความเท่าเทียมของการยอมรับกลุ่ม LGBTQ+ ในที่ทำงาน และการผลักดันนโยบายอย่างเป็นรูปธรรมในองค์กร
ตลอดจนความเท่าเทียมของทุกคนหรือลูกค้าในการมีบ้านได้ง่ายขึ้น ร่วมมือกับ 8 พันธมิตรธนาคาร เปิดกว้างให้ทุกคู่ชีวิตเป็นเจ้าของบ้านแสนสิริได้อย่างเท่าเทียม ความเท่าเทียมของผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจกลุ่ม SMEs ที่ควรได้รับการช่วยเหลือจากทุกภาคส่วน ตลอดจนความเท่าเทียมการเข้าถึงสิทธิ์ลงทุนเพื่อสร้างรายได้ของทุกคนและทุกระดับ
ต้องแสดงออกอย่างจริงใจ
การแสดงออกอย่างจริงจังถือเป็นเรื่องที่สำคัญขององค์กร เพราะข้อมูลของ PwC ได้เผยถึงแนวทางที่จะสร้างความเท่าเทียมกันในองค์กร ไม่ว่าจะเป็น ‘ผู้นำองค์กรต้องให้การสนับสนุนและมีส่วนร่วม’ เพราะนี่จะทำให้องค์กรสามารถสร้างวัฒนธรรมที่ไม่แบ่งแยก เห็นคุณค่า และยอมรับความแตกต่างซึ่งกันและกัน
โดยพบว่า 98% ของผู้ถูกสำรวจบอกว่า ความมุ่งมั่นในการสนับสนุนนโยบายที่ส่งเสริมการทำงานของกลุ่ม LGBTQ+ จากนายจ้างมีความสำคัญมากต่อการสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่ส่งเสริมความเท่าเทียม
‘แสดงจุดยืนในการส่งเสริมความเท่าเทียม 90%’ ของผู้ถูกสำรวจให้ความสำคัญกับการที่องค์กรแสดงออกในการส่งเสริม และสนับสนุนความเท่าเทียมอย่างชัดเจน เพราะเป็นสัญญาณว่าองค์กรยึดมั่นที่จะยอมรับในความแตกต่างอย่างแท้จริง
และ ‘สื่อสารถึงการยอมรับความแตกต่างและความหลากหลาย’ ทั้งการสื่อสารภายในองค์กร และการสื่อสารสู่ภายนอก ยิ่งมีการสื่อสาร ทำการตลาดกับกลุ่ม LGBTQ+ มากเท่าไร ก็จะยิ่งทำให้เกิดบรรยากาศที่ยอมรับในความหลากหลายมากขึ้นเท่านั้น อย่างไรก็ดี องค์กรต้องระมัดระวังในเรื่องของเนื้อหาในการสื่อสาร และต้องมั่นใจว่าปราศจากอคติ
‘แสนสิริ’ จับมือ ‘ดีแทค’ และ ‘ยูนิลีเวอร์’ ขับเคลื่อนความเท่าเทียม
ล่าสุดแสนสิริได้ยกระดับการขับเคลื่อนเพื่อกลุ่มผู้ความหลากหลายทางเพศ จับมือ ‘ดีแทค’ และ ‘ยูนิลีเวอร์ ’พันธมิตรระดับโลกองค์กรต้นแบบด้านความเท่าเทียม สานต่อแคมเปญ ‘Live Equally เราเท่ากัน ฉันเท่าเธอ’ ภายใต้การสนับสนุนของ UNDP ปีที่ 3 ผลักดันสร้างบรรทัดฐานใหม่สนับสนุนความเท่าเทียมและความหลากหลาย ทั้งในองค์กรให้กับพนักงานและสังคมไทยร่วมกัน โดยมีเป้าหมายเพื่อ ‘สร้างสังคม ที่ความเท่าเทียมกลายเป็นมาตรฐานในทุกมิติ’
“แสนสิริขอขอบคุณพันธมิตรในปีนี้ ที่เห็นคุณค่าของความเท่าเทียมและความหลากหลายที่ทั่วโลกหันมาให้ความสำคัญ ซึ่งเราหวังว่าการร่วมมือครั้งนี้ จะเป็นส่วนหนึ่งของการจุดประกายให้ภาคส่วนอื่นๆ เปิดกว้างยอมรับความหลากหลายในสังคม และสร้างความเท่าเทียมในทุกมิติจนกลายเป็นมาตรฐานสังคมมากขึ้น” เศรษฐากล่าว
ด้าน เรอโน เมแยร์ ผู้แทนโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ ประจำประเทศไทย (United Nations Development Programme: UNDP) กล่าวว่า “UNDP มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่แสนสิริตอกย้ำความมุ่งมั่นที่จะส่งเสริมประเด็นความหลากหลาย ความเท่าเทียม และการมีส่วนร่วม ตลอดจนริเริ่มความร่วมมือกับดีแทคและยูนิลีเวอร์ เพื่อผลักดันค่านิยมและหลักการเหล่านี้ในบริษัทและในสังคมไทย”
ชารัด เมห์โรทรา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือดีแทค กล่าวว่า “ที่ดีแทค เรายึดมั่นในมาตรฐานสูงสุดด้านสิทธิมนุษยชน ซึ่งรวมถึงการขับเคลื่อนความหลากหลายและการมีส่วนร่วม (Diversity & Inclusion) ทั้งในระดับองค์กรและสังคม ในการจับมือกับแสนสิริและยูนิลีเวอร์ครั้งนี้ ดีแทคมุ่งหวังที่จะสร้างแรงบันดาลใจให้กับองค์กรธุรกิจอื่นๆ ในประเทศไทย นำเอานโยบายด้านความหลากหลายและการมีส่วนร่วมเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของหลักการดำเนินธุรกิจ
ณัฏฐิณี เนตรอำไพ ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายองค์กรสัมพันธ์ บริษัท ยูนิลีเวอร์ ประเทศไทย กล่าวว่า “ความเท่าเทียม (Equality) คืออุดมคติที่ทุกคนมีความเท่าเทียมกัน ในขณะที่ความเสมอภาค (Equity) คือหนทางในการทำให้เกิดความเท่าเทียมกัน ในฐานะบริษัท ยูนิลีเวอร์สามารถเลือกที่จะให้ความเสมอภาค นี่คือเหตุผลที่เราให้ความสำคัญกับการวิเคราะห์หาอุปสรรคในโครงสร้างของเราที่ก่อให้เกิดความไม่เท่าเทียมหรือเสมอภาค โดยเรากำลังสร้างสถานที่ทำงานที่ให้ความเท่าเทียมกัน ซึ่งสนับสนุน เพิ่มขีดความสามารถ และตระหนักถึงคุณค่าขั้นพื้นฐานของผู้คนจากทุกเอกลักษณ์ ภูมิหลัง และทุกสายอาชีพ”
พันธกิจระยะยาว 3 ปี
สำหรับพันธกิจระยะยาว 3 ปีที่ ‘แสนสิริ’ จับมือ ‘ดีแทค’ และ ‘ยูนิลีเวอร์’ ความร่วมมือในการผลักดันสู่ความเท่าเทียมทุกมิติในสังคมไทย ประกอบด้วย
เป้าหมายระยะสั้น ปีที่ 1: เข้าร่วมกิจกรรมเกี่ยวกับ Diversity & Inclusion ที่จัดโดย UNDP อาทิ Roundtable Discussion on LGBTI Inclusion in Thai Business: The Economic Environment และอื่นๆ แบ่งปันองค์ความรู้และกรณีศึกษาที่แต่ละองค์กรได้ลงมือปฏิบัติ เพื่อเป็นแนวทางในการพัฒนาการดำเนินงานเกี่ยวกับความเท่าเทียม ตลอดจนเข้าร่วมในเวทีสาธารณะ และเวทีที่มีหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง อาทิ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (กลต.), กรมคุ้มครองสิทธิ กระทรวงแรงงาน เพื่อผลักดัน ต่อยอด และสร้าง Ecosystem เรื่องความเท่าเทียม
เป้าหมายระยะกลาง ปีที่ 2: ประยุกต์องค์ความรู้เพื่อสร้างบรรทัดฐานและแนวทางปฏิบัติร่วมกัน อาทิ สวัสดิการเพื่อความหลากหลาย เชื่อมต่อโครงการคู่ค้าทางธุรกิจ (Supply Chain) เพื่อสนับสนุนความเท่าเทียมให้กับพันธมิตรทางธุรกิจ ผู้รับเหมา คู่ค้า และอื่นๆ ร่วมงานเสวนา หรือให้ความรู้ร่วมกันบนเวทีสาธารณะ เพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงให้ภาคธุรกิจและสังคม ตลอดจนขยายวงกว้างของการรณรงค์เรื่องความเท่าเทียมจากเรื่องเพศไปยังเรื่องอื่นๆ เช่น เด็กและเยาวชน สตรี ผู้พิการ รวมถึงผู้สูงอายุ
เป้าหมายระยะยาว ปีที่ 3: ร่วมมือทำแคมเปญเกี่ยวกับ Diversity & Inclusion รวมถึงการสร้างแคมเปญต้นแบบที่ 3 องค์กรริเริ่มและพัฒนาร่วมกัน
โดยปลายทางของความร่วมมือในครั้งนี้คือ การยกระดับความเท่าเทียมให้เกิดขึ้นในสังคมไทย และกลายเป็น ‘ต้นแบบ’ ที่องค์กรอื่นๆ นำไปทำตามเพื่อขับเคลื่อนความหลากหลายทางเพศ
ติดตามเรื่องราวดีๆ ที่แสนสิริและคุณร่วมกันทำเพื่อโลกใบนี้ และคอมมูนิตี้ของเรา ‘YOU&ME’ Together for Better คุณ และ เรา ร่วมกันต่อยอดสิ่งดีๆ ให้ดียิ่งกว่าไปด้วยกัน www.sansiri.com/thai/แสนสิริเพื่อสังคม
อ้างอิง: