ผมไม่อยากตามบอลพี่คนนี้แล้ว กรณีศึกษา ซานโดร โตนาลี ที่เอาอนาคตตัวเองไปแทงพนัน

“ผมตามบอลพี่คนนี้อยู่” “ก่อนนี้ไม่เคยได้เลยจนกระทั่งเจอทางสว่างจากพี่คนนี้” “แม่นเหมือน เดวิด เบ็คแฮม วางบอลต้องพี่คนนี้เลย”

ไม่รู้หรอกว่าพี่คนนี้คือคนไหน แต่ที่รู้แน่ๆ คือข้อความสแปมที่เห็นแล้วชวนหงุดหงิดใจเหล่านี้มาจากเหล่าโต๊ะพนันที่ต้องการหลอกล่อให้คนเข้าไปเสี่ยงโชคกันให้มากที่สุด แล้วแต่ว่าใครจะตกหลุมด้วยความไม่ตั้งใจหรือเต็มใจที่จะติดปลายนวม

แต่นั่นเป็นปัญหาในระดับ User

ยังมีปัญหาอีกแบบที่เป็นเรื่องใหญ่กว่าและกำลังเขย่าวงการฟุตบอลอิตาลีอีกครั้งในเวลานี้ เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจบุกเข้าแคมป์ทีมชาติที่ศูนย์ฝึกในตำนานโคเวียร์ชาโน ก่อนจะนำไปสู่ข่าวช็อกเมื่อ ซานโดร โตนาลี และ นิโคโล ซานิโอโล สองนักเตะที่เป็นเพชรเม็ดงามของวงการต้องออกจากแคมป์

ความผิดของพวกเขาคือ ‘การพนันฟุตบอล’ ก่อนที่ในเวลาต่อมาเอเจนต์ของโตนาลี จะออกมายอมรับว่ามิดฟิลด์พลังรถถังกำลังมีปัญหาเรื่องติดการพนันจริง และเตรียมจะเข้ารับการบำบัด

เรื่องราวทั้งหมดเป็นมาอย่างไร แล้วโตนาลี รวมถึงซานิโอโล จะโดนบทลงโทษในระดับไหน และบทเรียนครั้งนี้มันกำลังบอกอะไรกับโลกฟุตบอลรวมถึงแฟนบอลทุกคน?

ข่าวการบุกเข้าโคเวียร์ชาโนในวันที่ 12 ตุลาคมที่ผ่านมาถือว่าเป็นข่าวใหญ่ของวงการฟุตบอลอิตาลี เพราะเกิดขึ้นแบบไม่มีใครคาดคิดมาก่อน

และยิ่งไม่มีใครคิดว่าคนที่ถูกดำเนินคดีคือนักเตะในระดับสตาร์อย่าง ซานโดร โตนาลี และ นิโคโล ซานิโอโล นักเตะของดีเมืองอิตาลีที่ปัจจุบันย้ายไปค้าแข้งในพรีเมียร์ลีกและกำลังทำผลงานได้อย่างโดดเด่น

ทั้งคู่ได้ถูกสอบสวนในคดีเกี่ยวข้องกับการพนันเมื่อครั้งยังเล่นอยู่ในอิตาลี ซึ่งผิดกฎข้อที่ 25 ของสหพันธ์ฟุตบอลอิตาลี (FIGC) ที่ห้ามไม่ให้นักฟุตบอลอาชีพที่ลงทะเบียนกับสโมสรข้องเกี่ยวกับการพนันที่เกี่ยวข้องกับเกมฟุตบอล

เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ยึดโทรศัพท์มือถือและแท็บเล็ตของโตนาลีและซานิโอโลไว้เป็นของกลางเพื่อทำการสืบสวนต่อไปว่าได้มีการกระทำผิดจริงหรือไม่ และอาจมีโอกาสขยายผลการสืบสวนเพื่อให้เห็นขบวนการทั้งหมดได้

อย่างไรก็ดี นักฟุตบอลที่ต้องสงสัยว่ากระทำผิดไม่ได้มีแค่โตนาลีและซานิโอโลเท่านั้น เพราะมีนักฟุตบอลในอิตาลีถึง 40 รายที่พัวพันกับเรื่องของการพนันฟุตบอล

ก่อนหน้านี้มีรายของ นิโคโล ฟาโจลี กองกลางอนาคตไกลของทีมยูเวนตุสอีกคนที่ถูกดำเนินคดีมาแล้ว และมีรายงานข่าวว่าทางด้าน FIGC มีการตัดสินความผิดเรียบร้อยโดยจะต้องรับโทษแบนเป็นเวลา 7 เดือนด้วยกัน

คำถามคือแล้วกรณีของโตนาลีกับซานิโอโลที่คนสนใจในเวลานี้ ถ้ามีความผิดจริงพวกเขาต้องรับโทษแบนไหม และถูกลงโทษเป็นระยะเวลาเท่าไร?

เอาอนาคตมาเดิมพัน

ตามรายงานจากอิตาลีเปิดเผยว่ากรณีของโตนาลีและซานิโอโล รวมถึงฟาโจลีนั้นถือเป็นเรื่อง ‘ต่างกรรมต่างวาระ’

ในรายของฟาโจลีนั้นนักเตะถูกจับตาโดย FIGC ที่รู้มานานแล้วว่ามีการกระทำผิดเล่นพนันฟุตบอลจริง และเคยเรียกมาพูดคุยหลายครั้ง ซึ่งทางด้านนักเตะเองก็ยอมรับสารภาพและยินดีที่จะให้ความร่วมมือกับหน่วยงานเป็นอย่างดี

หนึ่งในข้อมูลที่ FIGC ได้จากฟาโจลีคือเรื่องที่โตนาลีเป็นผู้แนะนำให้เขารู้จักกับแอปพลิเคชันเล่นพนัน

การให้ความร่วมมือของฟาโจลีทำให้แม้สำนักงานอัยการเมืองตูรินที่เป็นผู้รับผิดชอบคดีนี้จะต้องการลงโทษแบนเป็นเวลา 1 ปี แต่ทางด้าน FIGC ถือว่ารับสารภาพและให้ความร่วมมือ บทลงโทษจึงลดเหลือแค่ 7 เดือนเท่านั้น และคาดว่าจะมีการประกาศบทลงโทษออกมาในเร็วๆ นี้

สำหรับรายของโตนาลี ตามรายงานข่าว สตาร์วัย 22 ปีเอง ‘สำนึกผิด’ กับสิ่งที่ได้ทำลงไปถึงขั้นร้องไห้เสียใจ

เพราะเขารู้ตัวแล้วว่ากำลังโยน ‘อนาคต’ ที่สดใสของตัวเองทิ้งลงเหว เพียงเพราะหลงมัวเมาไปกับการพนัน นั่นทำให้โตนาลียินดีให้ความร่วมมือกับหน่วยงาน บอกทุกอย่างที่รู้ เพื่อหวังลดหย่อนบทลงโทษลง

คำสารภาพเพื่อหวังลดโทษ

เพียงแต่ในกรณีของเขาข้อหาร้ายแรงกว่าเพราะพัวพันกับการเล่นพนันในเกมที่เอซี มิลาน สโมสรต้นสังกัดลงสนามด้วย

บทลงโทษของ FIGC ในกรณีทำผิดร้ายแรงแบบนี้สามารถแบนได้นานถึง 3 ปี

La Gazzetta dello Sport สื่อกีฬาในอิตาลีรายงานในช่วงก่อนหน้านี้ว่าโตนาลีเองหวังว่าการให้ความร่วมมือจะช่วยลดหย่อนโทษลงได้สักครึ่งหนึ่งเหลือ 18 เดือน (จาก 36 เดือน)

แต่ล่าสุดรายงานข่าวระบุว่าเขาทำผิดจริงโดยเล่นพนันในเกมกับมิลาน และเสี่ยงที่จะโดนลงโทษแบน 1 ปีด้วยกัน

อย่างไรก็ดี กรณีของโตนาลี แม้ตัวนักเตะจะอยากรีบเร่งให้มีการตัดสินคดีเลย ถ้าไม่ผิดก็จะได้มูฟออน แต่ถ้าผิดจริง (ซึ่งมีความเป็นไปได้สูงมาก) ก็จะได้ชดใช้ในการกระทำของตัวเอง แต่คาดว่ากระบวนการสอบสวนสืบสวนอาจจะใช้เวลาอีกราว 2-3 เดือน

ดังนั้นถึงจะกลับมารายงานตัวกับนิวคาสเซิล ต้นสังกัด ลงซ้อม และมีโอกาสจะได้ลงสนามในเกมพรีเมียร์ลีก ก็ไม่ได้หมายความว่าเรื่องจะจบ มีโอกาสที่จะโดน ‘เช็กบิล’ หลังจากนี้อีก และยังมีความเสี่ยงที่จะโดน ‘เช็กบิลซ้อน’ จากสมาคมฟุตบอลอังกฤษและพรีเมียร์ลีกด้วย

เพราะมีข่าวว่าญาติของโตนาลีพนันจำนวนใบเหลืองในเกมพรีเมียร์ลีกนัดล่าสุดกับเวสต์แฮมไว้เกิน 6 ใบ ซึ่งในเกมดังกล่าวมีใบเหลืองจำนวน 6 ใบพอดีจนถึงช่วงทดเวลาบาดเจ็บ ซึ่งสตาร์ชาวอิตาลีได้ถ่วงเวลาจนโดนใบเหลืองเป็นใบที่ 7

ตรงนี้เป็นเรื่องที่ต้องรอความชัดเจนอีกครั้งว่าจะมีการสืบสวนและมีการดำเนินคดีอีกหรือไม่จากฝั่งอังกฤษ

ส่วนรายของซานิโอโลนั้นอาจจะถูกลงโทษเบาที่สุด ตามรายงานข่าวระบุว่าอดีตเจ้าชายลูกหนังของทีมโรมาไม่ได้เกี่ยวข้องกับการพนันฟุตบอล แต่เล่นพนันโป๊กเกอร์และแบล็กแจ็กบนแอปพลิเคชันที่ผิดกฎหมาย บทลงโทษจึงอาจไม่ถึงกับแบน แค่เป็นการปรับเงินจำนวนหนึ่งเท่านั้น

ผมไม่อยากตามบอลพี่คนนี้แล้ว

จูเซ็ปเป โรซี เอเจนต์ส่วนตัวออกมายอมรับกับสื่อมวลชนเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา (17 ตุลาคม) ว่าโตนาลีมีปัญหาเรื่องติดการพนันจริงๆ และพร้อมที่จะเข้ารับการบำบัดทันที

เรื่องนี้อาจฟังดูเข้าใจยากสำหรับบางคนว่าก็แค่การพนัน เลิกเฉยๆ ไม่ได้เหรอ?

แต่ในความเป็นจริงแล้วการพนันเป็นพฤติกรรมที่ยากจะเลิก หากใครหลงผิดไปแล้วการจะถอนตัวออกมานั้นเป็นไปได้ยากมาก ซึ่งในอดีตก็เคยมีนักฟุตบอลระดับดาวดังหลายคนที่ชีวิตพังเพราะการพนันมาแล้วมากมาย

หนึ่งในนั้นคือ พอล เมอร์สัน อดีตดาวดังของทีมอาร์เซนอลในยุค 80 และ 90 ที่เคยชีวิตพังเพราะการพนันมาแล้ว ชนิดที่เคยเสียเงินไปมากกว่า 7 ล้านปอนด์ให้กับการพนัน

เมอร์สันเคยเจอช่วงเวลาที่ดำดิ่งทั้งการติดเหล้าและยาเสพติด แต่สิ่งที่ทำร้ายเขามากที่สุดคือการพนัน “ผมเคยติดแอลกอฮอล์กับโคเคน แต่สิ่งที่ทำลายผมมากที่สุดและเป็นสิ่งที่ผมยังเจ็บปวดกับมันอยู่คือการพนัน

“พอมองย้อนกลับไป สิ่งที่ทำให้เสียดายที่สุดไม่ใช่เรื่องของเงิน แต่เป็นเวลาที่เสียไป ผมมีลูก 8 คนที่ผมรักมากๆ”

สำหรับสาเหตุที่ทำให้เมอร์สันเสพติดการพนันมาจากเรื่องของ ‘การต้องการความตื่นเต้นในชีวิต’ ที่มากกว่าแค่การลงสนามแข่งฟุตบอลแล้วจบลง “ไม่มีอะไรในโลกนี้จะทำให้ตื่นเต้นได้เท่ากับการยิงประตูได้ แต่พอผมออกจากสนามมา สิ่งที่แตกต่างระหว่างผมกับคนอื่นคือผมยังต้องการความตื่นเต้นอยู่”

สหพันธ์นักฟุตบอลอาชีพ (Professional Players’ Federation) เคยทำการศึกษาเอาไว้ในปี 2014 ว่านักกีฬาชายมีปัญหาการพนันถึง 6.1 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งสูงกว่าวัยรุ่นชายทั่วไปที่มีปัญหาจำนวน 1.9 เปอร์เซ็นต์

ปัญหาหลักของนักฟุตบอลเหล่านี้ที่เป็นมาทุกยุคทุกสมัยคือมีรายได้ที่สูงมาก และมีเวลาเหลือมากเกินไป

มันจึงเกิดความคิดเรื่องการเอาเงินไปเดิมพันติดปลายนวม ด้วยความคิดว่าเสียก็ไม่เป็นไร เดี๋ยวก็ได้กลับมาใหม่ แต่ปัญหาไม่ต่างอะไรจากนักพนันทุกคนคือเล่นได้ไม่เท่ากับเสีย และเมื่อเสียแล้วก็หน้ามืดอยากได้คืนไวๆ ก็ใส่หนักขึ้นเรื่อยๆ

เรียกว่าผีพนันเข้าสิง เสพติดการเดิมพัน กว่าจะรู้ตัวอีกทีก็คือไม่เหลืออะไรแล้ว

และการจะไล่ผีพนันออกจากตัวไม่ใช่เรื่องง่าย ต้องให้มืออาชีพช่วยเหลือในการปรับพฤติกรรมเพื่อให้ลาขาดให้ได้ ซึ่งในอังกฤษเองมีการรวมตัวกันของคนที่เคยเป็นผีพนันและชีวิตพังมาก่อน และมีนักฟุตบอลดาวดังในอดีตที่เคยขอรับความช่วยเหลืออย่างเช่น แมทธิว เอเธอริงตัน, เดวิด เบนท์ลีย์, โดมินิก มัตเตโอ, ไมเคิล โชปรา รวมถึงรายของเมอร์สันเอง

ไม่นานมานี้ในพรีเมียร์ลีกก็มีกรณีของ ไอแวน โทนีย์ กองหน้าเบรนท์ฟอร์ดที่เล่นพนันฟุตบอลและถูกลงโทษแบนนานถึง 8 เดือน ส่วน ลูคัส ปาเกตา กองกลางดาวเด่นของเวสต์แฮมก็ประสบปัญหาโดนดำเนินคดีในบ้านเกิดที่บราซิล

นั่นพออนุมานได้ว่ายังมีนักฟุตบอลอีกเป็นจำนวนมากที่ประสบปัญหาในเรื่องการเล่นพนัน และปัญหาเรื่องนี้ก็จัดการได้ยาก เพราะว่าปัจจุบันบริษัทรับพนันถูกกฎหมายยังเข้ามาสนับสนุนเกมฟุตบอลอยู่มาก โดยเฉพาะในระดับสโมสรที่มีตั้งแต่สปอนเซอร์บนอกเสื้อ (ที่เริ่มมีการควบคุม) ไปจนถึงแบนเนอร์ข้างสนามบอล (ตระกูล 777, 888, 999 ทั้งหลาย)

เหยื่อจึงไม่ได้มีแค่แฟนบอล แต่นักฟุตบอลเองก็ด้วยเช่นกันที่พร้อมติดปลายนวม

การที่มีการดำเนินคดี สั่งลงโทษของนักเตะระดับโทนีย์ และเรื่องราวที่ผุดขึ้นมาของโตนาลี จึงเป็นการแจกใบเหลืองแก่ๆ ให้แก่นักฟุตบอลที่หลงผิดทั้งหลายให้เลิกเสีย เพราะนักกีฬาอาชีพกับเรื่องการพนันเป็นสิ่งที่ ‘บ่ได้เลย’ โดยเฉพาะกรณีการพนันที่เกี่ยวกับทีมของตัวเอง ซึ่งเป็นความผิดร้ายแรงมาก เพราะขัดต่อหลักการของกีฬา

สำหรับนักกีฬาเหล่านี้ยังดีที่พอมีคนช่วยเหลือ มีการบำบัดแบบถูกวิธี

แต่สำหรับแฟนบอลที่ชอบเดิมพัน ก็ขอให้คิดได้ไวๆ

ลองคิดดูดีๆ ว่าใครมันจะไปรู้จักนักฟุตบอลลีกฟุตบอลดิวิชัน 2 ของเฮติ แล้วสามารถฟันธงเป็นตุเป็นตะได้

การพนันไม่ทำให้ใครรวย หรือต่อให้พัฒนาเป็นโต๊ะบอล การได้เงินจากความฉิบหายของคนอื่นก็ไม่ทำให้เจริญหรอก สักวันความฉิบหายนั้นจะย้อนกลับมาหาตัวเอง

อ้างอิง: