เมืองซานฟรานซิสโก รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา ประกาศให้โรคฝีดาษลิงเป็นภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุข หลังจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มสูงขึ้น
ลอนดอน บรีด นายกเทศมนตรีเมืองซานฟรานซิสโก กล่าวว่า ประกาศภาวะฉุกเฉินดังกล่าวจะเริ่มมีผลในวันจันทร์นี้ เพื่อเปิดทางให้เมืองสามารถดำเนินมาตรการเตรียมความพร้อม ตลอดจนระดมสรรพกำลังและทรัพยากรมาใช้ในการรับมือและควบคุมการระบาดของโรคให้อยู่ในวงจำกัด
“ซานฟรานซิสโกแสดงให้เห็นในช่วงโควิดว่า การดำเนินการเร็วแต่เนิ่นๆ เป็นเรื่องจำเป็นสำหรับการปกป้องสุขภาพของประชาชน” บรีดกล่าวในแถลงการณ์ “เราทราบดีว่าไวรัสนี้ส่งผลกระทบต่อทุกคนอย่างเท่าเทียมกัน แต่เราก็ตระหนักด้วยว่าผู้ที่อยู่ในชุมชน LGBTQIA+ ของเรามีความเสี่ยงมากขึ้นในขณะนี้ หลายคนในชุมชน LGBTQIA+ กลัวและคับข้องใจ ภาวะฉุกเฉินระดับท้องถิ่นนี้จะช่วยให้เราสามารถสนับสนุนกลุ่มคนที่มีความเสี่ยงสูงสุดต่อไปได้ ในขณะเดียวกันก็เตรียมความพร้อมสำหรับสิ่งที่จะเกิดได้ดีขึ้นด้วย”
ซานฟรานซิสโกพบผู้ติดเชื้อฝีดาษลิงรายแรกเมื่อวันที่ 3 มิถุนายนที่ผ่านมา ปัจจุบันจำนวนผู้ติดเชื้อที่ได้รับการยืนยันเพิ่มขึ้นเป็นกว่า 260 รายแล้ว
สกอตต์ วีเนอร์ ส.ว. ซานฟรานซิสโก จากพรรคเดโมแครต ยกย่องเจ้าหน้าที่ซานฟรานซิสโกที่ประกาศให้โรคฝีดาษลิงเป็นภาวะฉุกเฉิน หลังเมื่อวันก่อนเขาเพิ่งออกมาเรียกร้องให้ซานฟรานซิสโกรวมทั้งรัฐแคลิฟอร์เนียดำเนินการดังกล่าว
“ที่ผ่านมาซานฟรานซิสโกเป็นผู้นำในการตอบสนองด้านสาธารณสุขสำหรับโรค HIV และโควิด และเราจะเป็นผู้นำสำหรับโรคฝีดาษลิง” วีเนอร์กล่าวในแถลงการณ์ “เราไม่สามารถและจะไม่ปล่อยให้ชุมชน LGBTQIA+ ถูกทอดทิ้ง”
อย่างไรก็ดี วัคซีนโรคฝีดาษลิงยังคงขาดแคลนในซานฟรานซิสโกและทั่วพื้นที่ Bay Area โดยคลินิกวัคซีนที่ Zuckerberg General Hospital ในซานฟรานซิสโก ปิดทำการเมื่อวันพุธที่ผ่านมา เนื่องจากไม่มีวัคซีนให้บริการ โดยคาดว่าคลินิกจะกลับมาเปิดให้บริการอีกครั้งในวันจันทร์นี้
กระทรวงสาธารณสุขซานฟรานซิสโกเปิดเผยเมื่อวันพฤหัสบดีว่า ได้รับวัคซีนโรคฝีดาษลิงจำนวน 4,220 โดส ซึ่งจะถูกส่งไปยังคลินิกทั่วเมือง
ภาพ: Getty Images
อ้างอิง:
