วันนี้ (3 กันยายน) เพจเฟซบุ๊ก สำนักงานประชาสัมพันธ์ จังหวัดสระแก้ว เผยแพร่หนังสือจากผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว ถึงผู้ว่าราชการจังหวัดบันเตียเมียนเจ็ย ประเทศกัมพูชา ให้ดำเนินการย้ายราษฎรชาวกัมพูชาที่รุกล้ำพื้นที่ บ้านหนองจานและบ้านหนองหญ้าแก้ว อำเภอโคกสูง จังหวัดสระแก้ว จำนวน 170 ครัวเรือน ออกจากราชอาณาจักรไทย
หนังสือดังกล่าวระบุว่า
เรื่อง ขอความร่วมมือดำเนินการย้ายราษฎรกัมพูชาที่รุกล้ำพื้นที่บ้านหนองจาน และบ้านหนองหญ้าแก้ว อำเภอโคกสูง จังหวัดสระแก้ว แห่งราชอาณาจักรไทย เมื่อวันที่ 29 สิงหาคม 2568
พื้นที่บ้านหนองจานและบ้านหนองหญ้าแก้ว อำเภอโคกสูง จังหวัดสระแก้ว มีราษฎรกัมพูชารุกล้ำเข้ามาปลูกสร้างบ้านเรือนและสิ่งปลูกสร้าง ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่ของราชอาณาจักรไทยและเป็นพื้นที่นอกพื้นที่อ้างสิทธิตามบันทึกความเข้าใจระหว่างไทย – กัมพูชา ว่าด้วยการสำรวจและจัดทำหลักเขตแดนทางบก ลงนามร่วมกันเมื่อวันที่ 14 มิถุนายน พ.ศ.2543 (MOU43) ซึ่งเป็นการละเมิดอธิปไตยและกฎหมายแห่งราชอาณาจักรไทย ในการนี้ ราชอาณาจักรไทยจึงต้องดำเนินการตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับราษฎรกัมพูชาที่รุกล้ำ ดังนี้
1.พื้นที่บ้านหนองจาน อำเภอโคกสูง จังหวัดสระแก้ว (หลักเขตที่ 46 -47) จำนวนประมาณ 64 ไร่ โดยมีราษฎรกัมพูชามาปลูกสร้างบ้านเรือนรุกล้ำ จำนวนประมาณ 135 ครัวเรือน ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่ป่าไม้จึงเป็นการละเมิดกฎหมายของราชอาณาจักรไทย ดังนี้ (1) การบุกรุกพื้นที่ทำไม้ ตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ. 2484 มาตรา 54 และมาตรา 72 ตรี และ (2) การเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย ตามพระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ.2522 มาตรา 33, มาตรา 32 และมาตรา 81
2.พื้นที่บ้านหนองหญ้าแก้ว อำเภอโคกสูง จังหวัดสระแก้ว (หลักเขตที่ 42 -43) จำนวนประมาณ 20 ไร่ โดยมีราษฎรกัมพูชามาปลูกสร้างบ้านเรือนรุกล้ำ จำนวนประมาณ 35 ครัวเรือน ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ จึงเป็นการละเมิดกฎหมายของราชอาณาจักรไทย ดังนี้ (1) การบุกรุกพื้นที่ป่าไม้ ตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ.2484 มาตรา 54 และมาตรา 72 ตรี และ (2) การเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย ตามพระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ. 2522 มาตรา 11, มาตรา 62 และมาตรา 81
ในการนี้ จังหวัดสระแก้วจึงขอความร่วมมือจากผู้ว่าราชการจังหวัดบ็อนเตียย์เมียนเจ็ย ราชอาณาจักรกัมพูชา ให้พิจารณาดำเนินการย้ายราษฎรกัมพูชาที่รุกล้ำออกจากพื้นที่บ้านหนองจาน และพื้นที่บ้านหนองหญ้าแก้ว อำเภอโคกสูง จังหวัดสระแก้ว ออกไปนอกราชอาณาจักรไทย ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
หากราษฎรกัมพูชาที่รุกล้ำพื้นที่ดังกล่าวยังไม่ย้ายออกจากพื้นที่ ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องจะดำเนินการตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ (1) พระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ.2484 มาตรา 54 และมาตรา 72 ตรี (2) พระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ.2507 มาตรา 14 และมาตรา 31 และ (3) พระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ.2522 มาตรา 11 มาตรา 62 และมาตรา 81 ต่อไป
ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวเป็นไปตามบันทึกผลการสำรวจร่วมไทย – กัมพูชา ในการค้นหาสภาพและที่ตั้งของหลักเขตแดนที่ 46 และหลักเขตแดนที่ 47 เมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน 2560 ผลการประชุมวิสามัญคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (General Border Committee : GBC) ระหว่างไทยและกัมพูชา ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย เมื่อวันที่ 7 สิงหาคม 2568
และผลการหารือของคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค (Regional Border Committee : RBC) สมัยวิสามัญ ระหว่างกองทัพภาคที่ 1 แห่งราชอาณาจักรไทยและภูมิภาคทหารที่ 5 แห่งราชอาณาจักรกัมพูชา เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม 2568 ณ จังหวัดสระแก้ว ราชอาณาจักรไทย