บมจ.เซฟ เฟอร์ทิลิตี้ กรุ๊ป หรือ SAFE ผู้ให้บริการคลินิกการแพทย์เฉพาะทางเพื่อการมีบุตร ซึ่งให้บริการด้านการรักษาผู้มีบุตรยาก กำหนดราคาเสนอขาย IPO อยู่ที่ราคา 21 บาทต่อหุ้น เปิดจองซื้อตั้งแต่วันที่ 25-27 ตุลาคมนี้
นพ.วิวัฒน์ กว้างคณานุรักษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เซฟ เฟอร์ทิลิตี้ กรุ๊ป เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้ลงนามแต่งตั้งบริษัทหลักทรัพย์ (บล.) บัวหลวง ให้เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญ และแต่งตั้ง บล.กรุงศรี, บล.เคจีไอ (ประเทศไทย), บล.ฟินันเซีย ไซรัส เป็นผู้จัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้น IPO ของบริษัทฯ
โดยกลุ่มบริษัทฯ เป็นผู้ให้บริการคลินิกการแพทย์เฉพาะทางเพื่อการมีบุตร ให้บริการด้านการรักษาผู้มีบุตรยากด้วยเทคโนโลยีช่วยเจริญพันธุ์ทางการแพทย์แบบครบวงจรในไทย ซึ่งได้รับการรับรองมาตรฐานคลินิกเด็กหลอดแก้วโดยสถาบัน RTAC จากประเทศออสเตรเลียและนิวซีแลนด์เป็นแห่งแรกของประเทศไทย ให้บริการตั้งแต่ให้คำแนะนำ คำปรึกษา ตลอดจนให้การรักษาแก่ผู้มีบุตรยาก
นอกจากนี้กลุ่มบริษัทฯ ยังเป็นผู้นำทางด้านเทคโนโลยีช่วยในการเจริญพันธุ์ทางการแพทย์และห้องปฏิบัติการทางการแพทย์ โดยให้บริการแก่ผู้มีบุตรยากมามากกว่า 15 ปี รวมถึงมีนักวิทยาศาสตร์ในการเพาะเลี้ยงตัวอ่อนที่ได้รับการรับรองมาตรฐานจากยุโรป (ESHRE) เป็นแห่งแรกของไทย จึงมีอัตราความสำเร็จการตั้งครรภ์โดยเฉลี่ยสูงถึง 75%
ทั้งนี้ กลุ่มบริษัทฯ ให้บริการรักษาผู้มีบุตรยากด้วยวิธีปฏิสนธิแบบเจาะจง (ICSI) โดยให้บริการผ่านสาขาทั้ง 5 แห่ง ได้แก่ สาขาอัมรินทร์ พลาซ่า, รามอินทรา, ภูเก็ต ขอนแก่น และศรีราชา มีสัดส่วนลูกค้าชาวไทย 54% และต่างชาติ 46%
ทั้งนี้ SAFE วางกลยุทธ์ในการขับเคลื่อนธุรกิจสู่ผู้นำด้านการรักษาภาวะมีบุตรยากและด้านวินิจฉัยพันธุกรรมตัวอ่อนและเวลเนสในระดับเอเชีย ได้แก่
- การขยายศูนย์การแพทย์เพื่อการมีบุตรและห้องปฏิบัติการเจริญพันธุ์ไปยังโรงพยาบาลพันธมิตรที่มีเครือข่ายครอบคลุมทั่วประเทศ ภายในสถานพยาบาลคู่ค้า ซึ่งตั้งอยู่ในทำเลที่มีศักยภาพในด้านเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว ทั้งในรูปแบบพันธมิตรทางการค้า การร่วมลงทุน รวมถึงการเข้าซื้อกิจการ
- เลือกใช้เทคโนโลยีในการรักษาที่ทันสมัยและมีประสิทธิภาพอยู่เสมอ รวมทั้งพัฒนาบุคลากรในการให้บริการ
- สื่อสารและสร้างแบรนด์ ‘SAFE FERTILITY’ ในฐานะผู้นำทางด้านการรักษาภาวะมีบุตรยากและด้านวินิจฉัยพันธุกรรมตัวอ่อนในเอเชียในเชิงรุกมากขึ้น
- ขยายไปยังธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง เพื่อเพิ่มรายได้และผลกำไร
ด้าน ชนิดา พัธโนทัย ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบัญชีการเงิน SAFE กล่าวว่า ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ได้เกิดโรคระบาดอย่างโรคโควิดที่ระบาดไปทั่วโลก แต่กลุ่มบริษัทฯ ก็สามารถรักษาการเติบโตไว้ได้ โดยมีรายได้รวมในปี 2563-2565 เท่ากับ 529.77 ล้านบาท, 561.96 ล้านบาท และ 729.32 ล้านบาท ตามลำดับ และมีกำไรสุทธิ 42.16 ล้านบาท, 78.23 ล้านบาท และ 161.73 ล้านบาท ตามลำดับ
ส่วนงวด 6 เดือนแรกของปี 2566 มีรายได้รวมอยู่ที่ 409.84 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.4% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 87.4 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 21.52% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
ดาริน กาญจนะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออพท์เอเชีย แคปิตอล จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน กล่าวว่า SAFE ได้รับอนุญาตให้เสนอขายหลักทรัพย์ฯ จากสำนักงาน ก.ล.ต. ปัจจุบันแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์ (Filing) มีผลใช้บังคับแล้ว โดยจะเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนและหุ้นสามัญจำนวนไม่เกิน 76,748,600 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 1 บาท คิดเป็นสัดส่วนไม่เกินร้อยละ 25.25 ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทฯ ภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญครั้งนี้ โดยการเสนอขายแบ่งเป็น
- หุ้นสามัญที่เสนอขายโดยผู้ถือหุ้นเดิม จำนวนไม่เกิน 52.80 ล้านหุ้น
- หุ้นสามัญเพิ่มทุนที่เสนอขายให้กับประชาชนทั่วไป (IPO) จำนวนไม่เกิน 23.95 ล้านหุ้น
ขณะที่ พิเชษฐ สิทธิอำนวย กรรมการผู้อำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) ในฐานะผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย กล่าวว่า ล่าสุดได้กำหนดราคาเสนอขายหุ้นสามัญแก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) ที่ราคา 21 บาทต่อหุ้น และจะเปิดให้นักลงทุนจองซื้อในวันที่ 25-27 ตุลาคม 2566 และคาดว่าจะสามารถนำหุ้น SAFE เข้าซื้อ-ขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยภายในเดือนพฤศจิกายน 2566
ทั้งนี้ SAFE มีแผนจะนำเงินที่ได้จากการระดมทุนนั้นใช้เป็นเงินลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องและสร้างโอกาสในการขยายธุรกิจในอนาคต รวมถึงเพื่อใช้เป็นเงินลงทุนในโครงการขยายสาขา และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจ