สำหรับเด็กๆ ชาวเซเนกัล ลูกฟุตบอลไม่ใช่ของที่ใครจะหาซื้อได้ง่ายๆ แต่เพราะรักและอยากจะเล่น คุณรู้ไหมว่าอะไรคือสิ่งที่พวกเขาเอามาใช้เป็นลูกฟุตบอล?
‘Pamplemousse’
คำตอบของ ซาดิโอ มาเน ไม่ได้ช่วยให้เข้าใจอะไรได้ดีขึ้น จนกระทั่งเขาต้องยอมเฉลยว่าเจ้า Pamplemousse คือชื่อภาษาฝรั่งเศสของเกรปฟรุต ผลไม้สกุลซิตรัสที่หลายๆ คนน่าจะคุ้นเคยกันดี
มาเนเริ่มต้นฝึกฝนการเตะเกรปฟรุต เอ๊ย! ฟุตบอลของเขาในหมู่บ้านแบมบาลี หมู่บ้านเล็กๆ ที่แสนยากจนที่ประชากรทำการเกษตรเป็นหลัก ซึ่งแม้จะแร้นแค้นทางเงินทอง แต่ความรักในเกมลูกหนังของเด็กๆ ในหมู่บ้านนี้เฟื่องฟู
แค่ลูกเกรปฟรุตและเท้าเปล่าก็เพียงพอแล้ว
“เงินหนึ่งปอนด์ก็อาจจะมากเกินไปที่จะใช้จ่ายสำหรับการเล่นฟุตบอล” มาเนเล่าความหลังพร้อมความลับที่เหลือเชื่อ “และครอบครัวของผมก็เกลียดฟุตบอลด้วย”
“ดังนั้นเพื่อจะเล่นฟุตบอล ผมกับเพื่อนๆ ก็เลยลองเอา Pamplemousse มาลองเตะกันดู เพราะลูกมันใหญ่กว่าส้ม เราเอาลูกที่ยังเขียวๆ อยู่ ยังไม่สุกดี เตะแล้วมันจะได้ไม่ระเบิด ซึ่งเราก็สนุกกันมาก”
แต่ถึงจะใช้ลูกเกรปฟรุต พรสวรรค์ของเขาก็เปล่งประกายอยู่ดี สมญาของไอ้หนูซาดิโอที่เพื่อนเรียกขานคือ Ballon Buwa
พ่อมดลูกหนัง!
เรื่องราวชีวิตในวัยเด็กของมาเน หลายคนโดยเฉพาะแฟนบอลลิเวอร์พูลอาจจะพอทราบมาบ้างว่าเขาเผชิญกับความยากลำบากมามากแค่ไหน คำร้องขอที่จะเป็นนักฟุตบอลอาชีพถูกปฏิเสธจากครอบครัวที่อยากให้เขาตั้งใจเรียนเหมือนเด็กทั่วๆ ไป นำไปสู่การตัดสินใจครั้งใหญ่ของเด็กตัวเล็กๆ คนหนึ่งที่ขอหนีออกจากบ้านเพื่อตามหาความฝัน
รถบัสคันนั้นนำเขาไปสู่เมืองหลวงดาการ์ และเทพนิยายของนักเตะอันดับหนึ่งในใจของชาวเซเนกัลเวลานี้ก็เริ่มต้นขึ้น
แต่ถึงเขาจะมาไกลถึงการเป็นแชมป์ยุโรปกับลิเวอร์พูล เป็นฮีโร่ของชาติ และเป็นนักฟุตบอลอันดับหนึ่งของแอฟริกาในปัจจุบัน มาเนไม่เคยลืมเรื่องหนึ่ง
ความตายของพ่อที่น่าเศร้า
“ตอนนั้นผมอายุแค่ 7 ขวบ เรากำลังจะไปเตะฟุตบอลกัน แล้วญาติของผมก็มาบอกว่า ‘ซาดิโอ พ่อของนายตายแล้วนะ’
“ผมตอบไปว่า อ้าวเหรอ ญาติผมเขาล้อเล่น แต่…ผมไม่เข้าใจเลย
“ก่อนที่พ่อจะจากไป เขาป่วยมาหลายสัปดาห์ เราพาเขาไปรักษาด้วยวิธีพื้นบ้านและทำให้เขาอยู่ได้ 3-4 เดือน แต่อาการป่วยก็กลับมา คราวนี้ยามันไม่ได้ผลแล้ว และเพราะว่าที่แบมบาลีไม่มีโรงพยาบาลเลย พวกเขาก็เลยต้องพาพ่อไปหาหมอในหมู่บ้านที่อยู่ถัดไป เพื่อหาคนที่จะรักษาเขาได้ แต่มันก็ไม่ได้เป็นแบบนั้น”
สำหรับมาเน เรื่องนี้คือสิ่งที่ติดค้างในใจของเขา “ตอนที่ผมยังเด็ก พ่อบอกเสมอว่าผมคือความภูมิใจของเขา เขาเป็นคนที่มีจิตใจยิ่งใหญ่ ในตอนที่เขาจากไป มันส่งผลกระทบต่อชีวิตของผมและครอบครัวทุกคนมาก ผมบอกกับตัวเองว่า ‘ถึงเวลาที่ผมจะต้องพยายามดูแลแม่แล้ว’ ซึ่งมันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยสำหรับคนที่ยังเด็กขนาดนั้น”
ความตายของพ่อและความยากไร้ของแบมบาลีที่อยู่ในจังหวัดเซดิอู ซึ่งธนาคารโลกประเมินว่ากว่า 70 เปอร์เซ็นต์ของประชากรเป็นคนยากจน ทำให้เขาพยายามอย่างหนักเพื่อที่จะได้มีวันนี้
วันที่เขาจะมอบอะไรให้กับบ้านเกิดได้บ้าง
วันเวลาผ่านมา 2 ทศวรรษนับจากนั้น มาเนสร้างโรงเรียนเมื่อปีที่แล้ว เพราะเขาเชื่อว่าการศึกษาคือสิ่งสำคัญที่สุด และในปีนี้เขาอยากจะทำภารกิจที่ติดค้างในใจให้ลุล่วง ด้วยการให้ความสำคัญกับเรื่องสุขภาพของทุกคน
ภารกิจนั้นคือการออกทุนในการสร้างโรงพยาบาลท้องถิ่นในหมู่บ้านของเขา เพื่อที่จะให้ชาวแบมบาลีได้มีชีวิตที่ดีขึ้นจริงๆ สักที
“ผมจำได้ว่าน้องสาวของผมก็ต้องคลอดที่บ้าน เพราะเราไม่มีโรงพยาบาลในหมู่บ้าน ซึ่งมันเป็นสิ่งที่น่าเศร้าสำหรับทุกคน
“ดังนั้นผมจึงอยากสร้างโรงพยาบาลขึ้นสักแห่ง เพื่อจะมอบความหวังให้แก่ทุกคน”
โรงพยาบาลดังกล่าวมีกำหนดจะสร้างเสร็จในอีก 6 เดือนข้างหน้า แต่เพราะวันนี้ (10 เมษายน) คือวันคล้ายวันเกิดของเขา
บางทีสิ่งนี้อาจจะเป็นของขวัญวันเกิดล่วงหน้าที่ดีที่สุดในชีวิตสำหรับนักฟุตบอลที่มีจิตใจงดงามที่สุดคนหนึ่ง
คนที่ทุกคนในหมู่บ้านรักและภูมิใจ – ซาดิโอ มาเน บุตรชายแห่งแบมบาลี
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า
อ้างอิง:
- https://www.thetimes.co.uk/article/sadio-mane-i-grew-up-using-a-grapefruit-to-play-football-now-im-dreaming-of-ballon-dor-zwks05zmj
- https://www.theguardian.com/football/2020/apr/08/sadio-mane-documentary-made-in-senegal-liverpool
- เพื่อต่อสู้กับวิกฤตโควิด-19 มาเนบริจาคเงิน 40,000 ปอนด์ให้แก่รัฐบาลเซเนกัล เพื่อรักษาชีวิตคนในบ้านเกิดให้ได้มากที่สุด
- หนึ่งในปัญหาที่มาเนสร้างโดยไม่ตั้งใจคือ ตอนนี้เด็กๆ ที่แบมบาลีอยากจะเป็นนักฟุตบอลแบบเขาหมด ไม่มีใครอยากไปโรงเรียนอีก
- แต่กองหน้าลิเวอร์พูลสอนเด็กๆ ทุกคนว่า ‘การศึกษาสำคัญที่สุด’ อยากเตะฟุตบอลก็เตะได้ แต่ต้องตั้งใจเรียนด้วย
- ใครที่สนใจอยากติดตามเรื่องของมาเน แนะนำสารคดี Made In Senegal ซึ่งชมฟรีทาง Rakuten TV