×

แม่ทัพภาคที่ 1 ชี้แจงวางลวดหนามบ้านหนองจานแค่ยุทธวิธีป้องกันตัว ด้านผู้ว่าฯ สระแก้วยืนยันไม่มีใครมีเอกสารสิทธิในพื้นที่

โดย THE STANDARD TEAM
22.08.2025
  • LOADING...
แม่ทัพภาคที่ 1

วันนี้ (22 สิงหาคม) พล.ท. อมฤต บุญสุยา แม่ทัพภาคที่ 1 ได้แถลงชี้แจงประเด็นข่าวเกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า กองทัพภาคที่ 1 ใช้แผนที่มาตราส่วน 1:50,000 เช่นเดียวกับกองทัพภาคที่ 2 แม้ลักษณะพื้นที่จะแตกต่างกัน โดยพื้นที่ของกองทัพภาคที่ 1 เป็นชุมชนและที่ราบ แต่ยืนยันว่าสามารถดูแลแนวหลักเขตที่ 28-51 ได้ทั้งหมด ด้วยการใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ ทั้งกล้องวงจรปิดและโดรน ส่วนในพื้นที่ที่ยังตกลงเขตแดนไม่ได้ ก็ยึดตามบันทึกความเข้าใจ (MOU) ปี 2543 ที่ห้ามทั้งสองฝ่ายเข้าไปเปลี่ยนแปลงใดๆ

 

พล.ท. อมฤต ชี้แจงถึงปฏิบัติการทางทหารเมื่อวันที่ 24-26 กรกฎาคมที่ผ่านมาว่า การเคลื่อนกำลังพลของกองทัพภาคที่ 1 ซึ่งมีศักยภาพสูงกว่า เป็นไปเพื่อยับยั้งไม่ให้ฝ่ายกัมพูชาเพิ่มเติมกำลังในพื้นที่กองทัพภาคที่ 2 ซึ่งมีความตึงเครียดสูง เพื่อป้องกันไม่ให้สถานการณ์บานปลายเป็นสงครามเต็มรูปแบบ อันจะส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อประชาชน 

 

ขณะเดียวกัน พล.ท. อมฤตยอมรับว่า ตามแนวชายแดนมีทุ่นระเบิดตกค้างตั้งแต่สมัยเวียดนาม-กัมพูชา ดังนั้นพื้นที่ตรงนี้ถึงไม่เกิดเหตุ และสิ่งที่กองทัพภาคที่ 1 ทำก็เพื่อเคลียร์วัตถุที่ตกค้าง ให้เกิดความปลอดภัยรวมถึงประชาชนคนไทยให้ปลอดภัย

 

ส่วนกรณีบ้านหนองจานที่มีการวางแนวลวดหนามนั้น เป็นเพียงหลักการรบเพื่อป้องกันตนเองและควบคุมพื้นที่ไม่ให้ฝ่ายตรงข้ามกลับเข้ามา เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าว อยู่ระหว่างหลักเขตที่ 46 และ 47 ไม่มีหมุดหลักเขตและเป็นพื้นที่ราบ ยืนยันว่า ไม่ใช่การปักปันเขตแดนใหม่ตามที่เป็นข่าว และจะไม่มีทางรื้อลวดหนามตามที่กัมพูชาเรียกร้อง เพราะไม่เกี่ยวกับการเก็บกู้วัตถุระเบิด 

 

ส่วนกรณีบ้านหนองจานที่มีปัญหา 30-40 ปี เพราะติด MOU 43 ทำให้มองว่าควรยกเลิกหรือไม่ แม่ทัพภาคที่ 1 ระบุว่า เรื่องนี้ต้องไปหารือในระดับที่สูงกว่า เพราะไม่ได้เกิดปัญหาที่ท้องถิ่น แต่ MOU 43 ทำขึ้นมาเพื่อเป็นเครื่องมือลดความตึงเครียดในพื้นที่ เปรียบเหมือนชีวิตคนเราเมื่อรั้วบ้านติดกันต้องมีข้อตกลงร่วมกัน เพื่อให้ดำเนินการอย่างถูกกฎหมาย และ MOU ก็เป็นเครื่องที่นำมาพูดคุยลดกระแสต่างๆ รวมถึงต้องมีการปักปันเขตแดน 

 

ผู้สื่อข่าวถามว่า พื้นที่บ้านหนองจาน มีโฉนดที่ดินของคนไทย แต่กัมพูชามาอยู่จะแก้ปัญหาอย่างไรนั้น ปริญญา โพธิสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว ระบุว่า เฉพาะพื้นที่หนองจาน ตรวจสอบแล้วไม่มีเอกสารสิทธิ ไม่มี สก. 1 หรือ นส. 3 สภาพพื้นที่เป็นป่า การอยู่อาศัยทางการไทยจึงออกบ้านเลขที่ให้ เพื่อดำเนินการใช้ไฟฟ้าได้ แต่ไม่ได้ให้สัญชาติคนในพื้นที่ 

 

ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้วยืนยันด้วยว่า ไทยมีแผนที่ให้ดูว่าตั้งแต่จุดเริ่มต้นว่า พื้นที่นั้นเป็นแผนที่ใด ซึ่งสามารถเปรียบเทียบกับปัจจุบันได้ และฝ่ายปกครองขอยืนยันว่าไม่มีพื้นที่เอกสารสิทธิใดๆ แม้กระทั่งคนไทย หากพื้นที่ใดมีเอกสารสิทธิจะมีภาพถ่ายทางอากาศและกรมที่ดินก็จะไประวาง 

 

แม่ทัพภาคที่ 1 ยังกล่าวถึงการรักษาด่านต่างๆ ในจังหวัดสระแก้วว่า เป็นไปตามยุทธวิธีของศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดชายแดน (ศอ.ปชด.) เพื่อปราบปรามยาเสพติดและแก๊งสแกมเมอร์ ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวช่วยตัดเส้นทางการเงินและกำลังบำรุงของกลุ่มผู้กระทำผิดที่สร้างความเดือดร้อนให้คนไทยและทั่วโลก พร้อมทิ้งท้ายว่า ขอให้ประชาชนเชื่อมั่นว่า กองทัพภาคที่ 1 มุ่งมั่นรักษาอธิปไตย ผลประโยชน์ของชาติ ความปลอดภัยและทรัพย์สินของประชาชน

 

ด้าน พล.ต. สุรวิชญ์ แดงจันทร์ เสนาธิการกองทัพภาคที่ 1 เปิดเผยผลสำเร็จการประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค (RBC) ว่า ฝ่ายกัมพูชาได้ตอบรับข้อเสนอหลักของไทย 2 ประเด็น คือ การร่วมมือเก็บกู้ทุ่นระเบิด และการปราบปรามแก๊งสแกมเมอร์ ซึ่งถือว่าประสบผลสำเร็จ 

 

พล.ต. สุรวิชญ์ ยังได้เน้นย้ำถึงความจำเป็นเร่งด่วนในการเก็บกู้ทุ่นระเบิด ที่ต้องดำเนินการทันทีโดยไม่มีเงื่อนไขเรื่องการปักปันเขตแดนให้เสร็จสิ้นก่อน ด้านฝ่ายกัมพูชามีการเสนอว่าการเก็บกู้ทุ่นระเบิดจะต้องหยุดยิงโดยสมบูรณ์ ซึ่งตนได้ตอบกลับไปว่า ทุ่นระเบิดเป็นภัยคุกคามที่พร้อมระเบิดทุกเมื่อ ไม่สามารถรอเวลา การเก็บกู้ระเบิดต้องเกิดขึ้นทันที เพราะระเบิดไม่รู้ว่าจะมีรายที่ 6 รายที่ 7 ขาขาด ทั้งไทยและกัมพูชาหรือไม่ สุดท้ายก็ได้ข้อตกลงร่วมในการเก็บกู้ทุ่นระเบิด พร้อมยืนยันว่าเมื่อกัมพูชารับข้อเสนอในส่วนของกองทัพภาคที่ 1 แล้ว ข้อตกลงนี้จะกลายเป็นผลในพื้นที่ของกองทัพภาคที่ 2 เช่นกัน

 

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising