กระทรวงยุติธรรมเกาหลีใต้ประกาศเพิ่มระดับมาตรการรักษาระยะห่างภายในเรือนจำทั่วประเทศ เป็นขั้นเทียร์ 3 หรือขั้นสูงสุด เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในหมู่ผู้ต้องขัง โดยมีผลบังคับใช้เป็นเวลา 2 สัปดาห์ เริ่มตั้งแต่วันนี้ (31 ธันวาคม) จนถึงวันที่ 13 มกราคม
ภายใต้มาตรการรักษาระยะห่างขั้นสูงสุดนี้ รวมถึงการห้ามเยี่ยม และยกเลิกการทำงานหรือกิจกรรมในเรือนจำทั้งหมด เพื่อลดการติดต่อกันระหว่างผู้ต้องขัง บุคคลภายนอกและเจ้าหน้าที่เรือนจำ ขณะที่จำกัดการเข้าพบของทนายความ และลดการทำงานของเจ้าหน้าที่เรือนจำทุกคน
ประกาศดังกล่าวมีขึ้นหลังเกิดกรณีแพร่ระบาดโควิด-19 ที่เชื่อมโยงกับศูนย์กักกันดองบู ซึ่งเป็นเรือนจำทางตะวันออกเฉียงใต้ของกรุงโซล โดยล่าสุด พบว่ามีผู้ติดเชื้อที่เกี่ยวข้องกับเรือนจำแห่งนี้แล้ว 807 ราย ส่วนใหญ่เป็นผู้ต้องขังและอดีตผู้ต้องขัง และในจำนวนนี้มี 2 ราย เสียชีวิตแล้ว
“กระทรวงยุติธรรมพยายามป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 ภายในทัณฑสถานซึ่งเสี่ยงต่อการติดเชื้อ แต่สถานการณ์นี้เกิดขึ้นจากข้อจำกัดที่มีอยู่ในสถานกักกัน และความล้มเหลวของเราในการดำเนินการตามขั้นตอนการป้องกันไวรัสล่วงหน้า” ลียองกู รัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรมเกาหลีใต้กล่าว พร้อมแสดงความเสียใจ และยืนยันว่าทางกระทรวงยุติธรรมจะเพิ่มมาตรการป้องกันและตรวจสอบเรือนจำต่างๆ อย่างเข้มงวด เพื่อไม่ให้เกิดกรณีการติดเชื้อเพิ่มเติม
นอกจากนี้ ทางกระทรวงยุติธรรมเกาหลีใต้กำลังพิจารณาย้ายผู้ต้องขังจากศูนย์กักกันดองบู ไปยังเรือนจำอื่นๆ มากขึ้น เพื่อลดความแออัด ซึ่งตอนนี้มีจำนวนผู้ต้องขังมากกว่าที่เรือนจำรองรับได้ ถึง 116.6%
ซึ่งก่อนหน้านี้ มีผู้ต้องขังหลายร้อยคนรวมถึงกลุ่มผู้ติดเชื้อ ถูกย้ายไปยังเรือนจำอื่นๆ ทั่วประเทศแล้ว ขณะที่ทางกระทรวงกำลังพิจารณาปล่อยตัวผู้ต้องขังแบบมีเงื่อนไข (Parole) เพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะผู้ต้องขังที่มีโรคประจำตัว หรืออยู่ในกลุ่มความประพฤติดี
ขณะเดียวกัน จะดำเนินการตรวจเชื้อผู้ต้องขังและเจ้าหน้าที่เรือนจำทุกคน เพื่อป้องกันกรณีการติดเชื้อแบบไม่แสดงอาการ และตั้งศูนย์รักษาผู้ติดเชื้อในเรือนจำ และบริเวณพื้นที่รอบนอก สำหรับการรักษาผู้ติดเชื้อที่มีอาการไม่รุนแรง
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์
อ้างอิง: