ทางการรัสเซียยืนยันว่าเครื่องบินแอนโตนอฟ An-148 สายการบิน Saratov Airlines ประสบอุบัติเหตุตกเมื่อช่วงบ่ายวานนี้ (11 ก.พ.) ตามเวลาท้องถิ่น หลังบินออกจากท่าอากาศยานโดโมเดโดโว กรุงมอสโก เพียงไม่กี่นาที ขณะที่ผู้โดยสาร 65 คน และลูกเรือ 6 คนเสียชีวิตทั้งหมด
รายงานระบุว่าเครื่องบินโดยสารเที่ยวบิน 6W703 สู่เมืองออร์สก์ ทางตอนใต้ของรัสเซีย ได้บินไต่ระดับไปถึงความสูง 6,400 ฟุต จากนั้นได้ลดระดับลงอย่างรวดเร็วเฉลี่ย 3,300 ฟุตต่อนาที และขาดการติดต่อกับหอควบคุมการจราจรทางอากาศหลังบินออกจากสนามบินได้ราว 4 นาที ต่อมาเจ้าหน้าที่ยืนยันว่าพบซากเครื่องบินตกอยู่บริเวณเขตราเมนสโกเย ห่างจากสนามบินมอสโกประมาณ 40 กิโลเมตร
ผู้เห็นเหตุการณ์ในหมู่บ้านอาร์กูโนโว ซึ่งอยู่ใกล้กับจุดตกเล่าว่า พวกเขาเห็นเครื่องบินเกิดไฟลุกไหม้กลางอากาศขณะตกลงมา
สำหรับสาเหตุการตกครั้งนี้ยังไม่ทราบแน่ชัด แต่เจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่าอาจเกิดจากสภาพอากาศที่เลวร้าย เนื่องจากรัสเซียมีหิมะตกหนักต่อเนื่องหลายวัน ดังนั้นทัศนวิสัยจึงย่ำแย่ นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ยังไม่ตัดความเป็นไปได้ว่าอาจเกิดจากความผิดพลาดของนักบิน หรือเครื่องบินเกิดปัญหาขัดข้อง อย่างไรก็ตาม พวกเขาไม่ได้พูดถึงความเป็นไปได้เกี่ยวกับการก่อการร้าย
ด้านสายการบิน Saratov Airlines ยืนยันกับสำนักข่าว Ria-Novosti ของรัสเซียว่า นักบินมีประสบการณ์มากด้วยชั่วโมงบินกว่า 5,000 ชั่วโมง ขณะที่เครื่องบินลำดังกล่าวมีอายุ 7 ปี โดย Saratov Airlines เพิ่งซื้อต่อจากสายการบินหนึ่งเมื่อ 1 ปีก่อน
ล่าสุดกระทรวงสถานการณ์ฉุกเฉินของรัสเซียรายงานว่า เจ้าหน้าที่ได้พบอุปกรณ์บันทึกเสียงในห้องนักบิน และสามารถกู้ศพผู้โดยสารได้แล้ว 2 ศพ นอกจากนี้ยังเปิดเผยรายชื่อผู้โดยสารบนเครื่องทั้งหมดแล้ว โดยหนึ่งในนั้นเป็นเด็ก
ด้านประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ได้แสดงความเสียใจต่อครอบครัวของผู้เสียชีวิต พร้อมสั่งการให้เจ้าหน้าที่เร่งสอบสวนหาสาเหตุการตกครั้งนี้แล้ว
รัสเซียมีสถิติความปลอดภัยด้านการขนส่งทางอากาศที่ไม่ดีนัก โดยเมื่อเดือนธันวาคม ปี 2016 เครื่องบินลำเลียงทหารตูโปเลฟ Tu-154 เกิดอุบัติเหตุตกในทะเลดำ ส่งผลให้ลูกเรือเสียชีวิตทั้ง 92 คน และก่อนหน้านั้นในวันที่ 31 ตุลาคม ปี 2015 เครื่องบินโดยสารแอร์บัส A-321 ของสายการบิน Metrojet ตกในคาบสมุทรไซนาย ประเทศอียิปต์ โดยผู้โดยสารและลูกเรือรวม 224 คนเสียชีวิตยกลำ
อ้างอิง: