รายงานของหน่วยข่าวกรองสวิตเซอร์แลนด์ระบุว่า ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ถูกใช้เป็นฐานปฏิบัติการของสายลับรัสเซียและจีนหลายร้อยคน และตัวเลขสมาชิกเหล่านี้เพิ่มสูงขึ้นอย่างมากนับตั้งแต่รัสเซียเปิดฉากรุกรานยูเครน โดยจากการประเมินเบื้องต้นคาดว่า มีตัวแทนของรัสเซียกว่า 220 คนปฏิบัติหน้าที่อยู่ในเมืองเจนีวาและกรุงเบิร์น เมืองหลวงของสวิตเซอร์แลนด์ โดยราว 1 ใน 3 ทำงานให้กับหน่วยสืบราชการลับรัสเซีย
ขณะที่รัฐบาลกลางของสวิตเซอร์แลนด์ได้แสดงความกังวัลต่อคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (UNSC) ว่า สถานการณ์ดังกล่าวเป็นภัยคุกคามที่กำลังก่อตัวขึ้นต่อประชาชนชาวสวิส และทางการกำลังเร่งตัดสินใจดำเนินการต่อประเด็นนี้
โดยรายงานประจำปีฉบับนี้ยังระบุอีกว่า ในทวีปยุโรป สวิตเซอร์แลนด์เป็นหนึ่งในประเทศที่มีสายลับรัสเซียปฏิบัติงานภายใต้ภาพลักษณ์ของเจ้าหน้าที่ทางการทูตมากที่สุด ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากบทบาทของสวิตเซอร์แลนด์ในฐานะประเทศเจ้าบ้าน หรือเป็นหนึ่งในศูนย์กลางขององค์กรระหว่างประเทศจำนวนมาก ตัวอย่างเช่น สำนักงานใหญ่ของสหประชาชาติ (UN) รวมถึงหน่วยงานของ UN อีกหลายแห่งล้วนตั้งอยู่ในเมืองเจนีวาของสวิตเซอร์แลนด์
นักการทูตจำนวนมากจึงต่างรวมตัวกันอยู่ในประเทศแห่งนี้ เพราะถือว่าสวิตเซอร์แลนด์เป็นหนึ่งในตะวันตกไม่กี่ประเทศที่ไม่มีการขับไล่นักการทูตรัสเซียกลับประเทศนับตั้งแต่สงครามรัสเซีย-ยูเครนปะทุขึ้นเมื่อช่วงต้นปี 2022
และถึงแม้ว่าหน่วยสืบราชการลับรัสเซียที่อยู่ในยุโรปดูเหมือนจะทำงานยากขึ้นตั้งแต่การปะทุขึ้นของสงคราม แต่เจ้าหน้าที่หน่วยข่าวกรองสวิสเชื่อว่า การสู้รบในสงครามครั้งนี้ก็ได้เปิดโอกาสการทำงานในรูปแบบใหม่ๆ รวมถึงการปลอมตัวเข้าประเทศภายใต้หน้ากากผู้ลี้ภัยให้กับสายลับเหล่านี้ โดยสายลับรัสเซียมีแนวโน้มที่จะปฏิบัติหน้าที่ได้สะดวกขึ้นในสวิตเซอร์แลนด์เมื่อเทียบกับตะวันตกประเทศอื่นๆ
ปัจจุบันสหรัฐอเมริกาเป็นประเทศที่มีการขับเจ้าหน้าที่ทางการทูตรัสเซียกลับประเทศมากที่สุดถึง 45 คนนับตั้งแต่สงครามรัสเซีย-ยูเครนเปิดฉากขึ้น ตามมาด้วยสวีเดน 41 คน และสเปน 40 คน
นอกจากนี้เจ้าหน้าที่หน่วยข่าวกรองยังกล่าวเสริมอีกว่า สงครามในยูเครนได้บังคับให้มีการขยายพื้นที่เฝ้าติดตามให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น ซึ่งก่อนหน้านี้อาจเป็นพื้นที่ที่เคยได้รับความสนใจเพียงเล็กน้อย ตัวอย่างเช่น ตุรกี อินเดีย และสหภาพเศรษฐกิจยูเรเชียทั้ง 5 ประเทศ ไม่ว่าจะเป็นอาร์เมเนีย เบลารุส คาซัคสถาน คีร์กีซสถาน และรัสเซีย
โดยเจ้าหน้าที่หน่วยข่าวกรองสวิสกล่าวทิ้งท้ายว่า รัสเซียได้ทำลายระเบียบแบบแผนสันติภาพในยุโรปไปแล้ว ขณะที่ประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานขององค์กรระหว่างประเทศเพื่อสันติภาพและความมั่นคงก็ลดลงอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งยังไม่มีสัญญาณของระเบียบแบบแผนใหม่ที่มีเสถียรภาพมากพอในขณะนี้
แฟ้มภาพ: Only_NewPhoto / Shutterstock
อ้างอิง: