ที่สถานทูตรัสเซียวันนี้ (15 มีนาคม) เยฟกินี โทมิคิน เอกอัครราชทูตสหพันธรัฐรัสเซียประจำประเทศไทย ตั้งโต๊ะแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนไทยบางสำนักที่ได้รับเลือก เกี่ยวกับวิกฤตการณ์สงครามยูเครน-รัสเซียที่กำลังดำเนินอยู่ ซึ่งโดยหลักๆ แล้วเป็นการชี้แจงเหตุผลที่รัสเซียตัดสินใจส่งกำลังทหารบุกยูเครน หรือที่รัสเซียเรียกว่า ‘ปฏิบัติการทางทหารพิเศษ’
ในการแถลงข่าวนาน 1 ชั่วโมงครึ่ง โทมิคินเริ่มต้นด้วยการกล่าวถึงภูมิหลังความสัมพันธ์อันดีระหว่างไทยกับรัสเซีย พร้อมชื่นชมจุดยืนที่ ‘สมดุล’ ของรัฐบาล พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา แม้ว่าไทยจะโหวตประณามการรุกรานยูเครนในเวทีสมัชชาใหญ่สหประชาชาติก่อนหน้านี้ก็ตาม
เอกอัครราชทูตรัสเซียเผยว่า มีการพูดคุยกับกระทรวงการต่างประเทศของไทยอย่างเปิดเผย และรู้สึกยินดีที่รัฐบาลไทยพร้อมรับฟังสิ่งที่มอสโกพูด พร้อมกันนี้ยังยกย่องไทยที่เลือกวางตัวเป็นกลาง แม้ว่าจะถูกกดดันอย่างหนักจากชาติตะวันตกก็ตาม ซึ่งโทมิคินวิจารณ์ด้วยว่า การเยือนกระทรวงการต่างประเทศของคณะทูตยุโรป 25 คนเมื่อเดือนที่แล้วนั้นไม่สามารถกดดันไทยได้
“ไทยคือหุ้นส่วนระยะยาวที่ไว้ใจได้ เราไม่มีความขัดแย้งทางการเมืองต่อกัน” โทมิคินกล่าว
ส่วนประเด็นการรุกรานยูเครนนั้น ทูตรัสเซียยืนกรานว่ารัสเซียจำเป็นต้องปกป้องพลเมืองชนชาติรัสเซียที่พูดภาษารัสเซียในภูมิภาคดอนบาส (โดเนตสก์และลูฮันสก์) ที่ถูกคุกคามจากกองกำลังฝั่งรัฐบาลยูเครน
“เราไม่มีทางเลือก หลังจากกองทัพยูเครนโจมตีดอนบาส รัสเซียพยายามจะหยุดยั้งสงครามในยูเครนที่เริ่มต้นขึ้นเมื่อ 8 ปีก่อน” โทมิคินกล่าว
เขายืนกรานด้วยว่า ปฏิบัติการทางทหารครั้งนี้มีเป้าหมายเพื่อทำลายโครงสร้างพื้นฐานทางทหารของยูเครน โดยมอสโกต้องการเห็นยูเครนที่สันติและเป็นมิตร ไม่ใช่สปริงบอร์ดของ NATO และตัวเขาก็ไม่คิดว่านี่คือสงคราม พร้อมยกตัวอย่างกรณีสหรัฐฯ ส่งกำลังทหารเข้าไปในอัฟกานิสถาน และย้อนถามกลับว่านั่นใช่สงครามหรือไม่ เพราะเขาจำได้ว่า สหรัฐฯ ไม่เคยประกาศสงครามกับอัฟกานิสถาน
โทมิคินยังวิจารณ์นักการเมืองชาติตะวันตกที่ทำผิดคำมั่นสัญญาว่าจะไม่ขยายอิทธิพล NATO เข้าไปในพรมแดนประเทศอดีตสหภาพโซเวียต นอกจากนี้เขายังวิจารณ์สหรัฐฯ ที่รู้สึกว่าตนเองอยู่เหนือประเทศอื่นจนสามารถทำอะไรก็ได้ แม้กระทั่งยั่วยุ
“หากใครบางคนถูกตีศีรษะเป็นเวลานาน บางทีอาจจะ 8 ปีหรือ 30 ปี คุณคิดว่าจะทนได้นานแค่ไหน?” โทมิคินกล่าว “เป็นเวลา 30 ปี (นับตั้งแต่สหภาพโซเวียตล่มสลาย) เราไม่รู้สึกว่าได้รับการเคารพจากประเทศตะวันตกเลย ในขณะที่ทหารอเมริกันมีฐานทัพมากกว่าสถานทูตของเราในต่างประเทศเสียอีก”
อย่างไรก็ตาม เอกอัครราชทูตรัสเซียประจำประเทศไทยยอมรับว่า สงครามทำให้เกิดการสูญเสีย และเป็นสิ่งที่เลวร้าย โดยเฉพาะสำหรับพลเรือน แต่เขาตำหนิองค์การระหว่างประเทศ เช่น UNICEF ว่าไปอยู่ที่ไหนตลอด 8 ปีที่ผ่านมา
ขณะเดียวกันโทมิคินยืนกรานว่า ทหารรัสเซียไม่ยิงใส่โครงสร้างพื้นฐานของพลเรือน แต่หวังทำลายโครงสร้างพื้นฐานทางทหารเท่านั้น ทว่าสงครามไม่ว่าสมรภูมิไหนก็มีผู้เสียชีวิตเป็นจำนวนมาก
กับคำถามว่า สงครามในยูเครนจะดำเนินไปอีกนานแค่ไหนนั้น โทมิคินตอบว่า เป็นคำถามที่ตอบยาก โดยเฉพาะเมื่อทหารยูเครนพยายามซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางพลเรือน เขากล่าวว่ารัสเซียไม่มีกรอบเวลาปฏิบัติการที่แน่นอน แต่มีเป้าหมายที่ต้องทำให้สำเร็จก็คือ ทำลายโครงสร้างพื้นฐานทางทหาร และขจัดระบอบนาซีในยูเครน
ภาพ: Stinger
อัางอิง:
- สถานเอกอัครราชทูตรัสเซียประจำประเทศไทย