×

สรุปสงครามยูเครนรอบ 24 ชั่วโมง ระเบิด-ไซเรน ดังตลอดคืนในเคียฟ มาริอูโปลอ้างรัสเซียยึดโรงพยาบาล จับตัวประกันกว่า 400 คน เซเลนสกีเผยสัญญาณบวกเจรจาสันติภาพ

16.03.2022
  • LOADING...
สงครามยูเครน

สงครามยูเครน

 

  • สถานการณ์ในกรุงเคียฟของยูเครน ตลอดคืนที่ผ่านมา มีเสียงระเบิดและไซเรนเตือนภัยการโจมตีทางอากาศดังต่อเนื่องเป็นระยะ หลังนายกเทศมนตรีกรุงเคียฟ ประกาศขยายระยะเวลาเคอร์ฟิวอีก 35 ชั่วโมง ตั้งแต่ 18.00 น. ของเมื่อวานนี้ (15 มีนาคม) จนถึง 07.00 น. ของวันพฤหัสบดี (17 มีนาคม) เพื่อรับมือการโจมตีจากฝ่ายรัสเซียที่ระดมยิงขีปนาวุธเข้าใส่อาคารพักอาศัยหลายหลังในพื้นที่ชุมชน ซึ่งมีรายงานผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 2 คน 

 

  • กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ เปิดเผยว่า ขบวนรถของกองทัพรัสเซียยังคงปักหลักอยู่บริเวณชานกรุงเคียฟ ห่างตัวเมืองราว 20 กิโลเมตร และแทบไม่มีความคืบหน้าในการบุก ซึ่งทางการยูเครนเผยว่า รัสเซียมีการโจมตีพลเรือนเพิ่มมากขึ้น 

 

  • สถานการณ์ในเมืองอื่นๆ ยังมีรายงานการโจมตีทางอากาศและภาคพื้นดินเกิดขึ้นต่อเนื่อง โดยในคาร์คิฟ เมืองใหญ่อันดับ 2 ทางตะวันออกเฉียงเหนือ มีการปะทะระหว่างกองทัพรัสเซียที่พยายามบุกยึดเมือง กับกองทัพยูเครนที่ปักหลักต่อต้าน

 

  • ที่แคว้นเคอร์ซอน ทางตอนใต้ มีรายงานจากรัสเซีย ที่อ้างว่า กองทัพสามารถบุกยึดพื้นที่ไว้ได้สำเร็จ แต่ยังไม่มีการรุกคืบโจมตีใน 2 เมืองสำคัญอย่างซาปอริซเซียและมิโคลาเยฟ ขณะที่มีการเผยแพร่ภาพถ่ายดาวเทียม แสดงให้เห็นเฮลิคอปเตอร์กองทัพรัสเซียอย่างน้อย 3 ลำซึ่งจอดอยู่ที่สนามบินนานาชาติเคอร์ซอน ถูกระเบิดและเกิดไฟลุกไหม้อย่างรุนแรง ซึ่งรายงานชี้ว่า เป็นฝีมือการโจมตีของกองทัพยูเครน

 

  • ส่วนที่มารีอูโปล ซึ่งถูกกองทัพรัสเซียปิดล้อม มีรายงานการยิงปืนใหญ่โจมตีต่อเนื่องจากทางฝั่งตะวันออกและตะวันตกของเมือง ขณะที่รองนายกเทศมนตรีของเมืองอ้างว่า ทหารรัสเซียได้บุกเข้ายึดโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง และจับเจ้าหน้าที่โรงพยาบาล แพทย์ และผู้ป่วยกว่า 400 คน ไว้เป็นตัวประกัน โดยทั้งหมดถูกขังไว้ที่ชั้นใต้ดินของโรงพยาบาล ซึ่งเป็นส่วนที่ใช้รักษาผู้ป่วย

 

  • ทางการยูเครนเผยว่า เมื่อวานนี้สามารถอพยพพลเรือนออกจากเมืองต่างๆ ได้ราว 29,000 คน ซึ่งที่มารีอูโปลมีพลเรือนกว่า 20,000 คน นำรถส่วนตัวราว 4,000 คันหนีออกจากเมืองมาได้ ส่วนที่เมืองซูมี ทางตะวันออกเฉียงเหนือ สามารถอพยพพลเรือนหลายพันคนออกมาด้วยรถบัส 100 คัน หลังรัสเซียไฟเขียวให้เปิดฉนวนมนุษยธรรม

 

  • ขณะเดียวกัน Russia Today สื่อทางการของรัสเซีย เปิดเผยรายงานข่าวว่า มีการประท้วงเกิดขึ้นที่ด้านนอกของสนามบินในเมืองปิซาของอิตาลี หลังพนักงานสนามบินบางรายอ้างว่า เที่ยวบินขนส่งเสบียงอาหารและยาไปยังยูเครนถูกใช้ในการส่งอาวุธกระสุนปืนและวัตถุระเบิด โดยกลุ่มผู้ประท้วงประณามว่า เป็นการใช้เที่ยวบินช่วยเหลือทางมนุษยธรรมบังหน้า เพื่อเติมเชื้อไฟสงครามในยูเครน

 

  • เดนนิส ชมีฮาล นายกรัฐมนตรียูเครน อ้างว่า ยูเครนได้รับความเสียหายคิดเป็นมูลค่ารวมแล้วมากกว่า 500 พันล้านดอลลาร์ นับตั้งแต่ที่เกิดสงครามขึ้นเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ และยืนยันว่ารัสเซียต้องเป็นฝ่ายชดใช้หลังสิ้นสุดสงคราม

 

  • สำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ (UNHCR) ชี้ผลพวงจากสงครามในยูเครน ทำให้ประชาชนอพยพออกจากยูเครนมากกว่า 3 ล้านคนแล้ว 

 

  • ส่วนการสนับสนุนจากนานาชาติ เมื่อวานนี้ นายกรัฐมนตรีจาก 3 ชาติสมาชิก EU คือโปแลนด์ สโลวีเนีย และสาธารณรัฐเช็ก ได้เดินทางด้วยรถไฟไปยังกรุงเคียฟ เพื่อแสดงท่าทีเชิงสัญลักษณ์ในการสนับสนุนยูเครน ซึ่งถือเป็นผู้นำชาติตะวันตกกลุ่มแรกที่เดินทางไปยังยูเครนนับตั้งแต่เกิดสงคราม และได้พบปะหารือกับประธานาธิบดีโวโลดีเมียร์ เซเลนสกี ของยูเครน ซึ่งเซเลนสกีแสดงความขอบคุณต่อการเยือนของทั้ง 3 ผู้นำ ที่ถือเป็น ‘การแสดงออกอันทรงพลังในการสนับสนุนยูเครน’

 

  • การหารือมีขึ้นท่ามกลางประกาศเคอร์ฟิวและเสียงระเบิดภายในเมืองที่ดังเป็นระยะ ขณะที่ผู้นำของทั้ง 3 ประเทศ ต่างยกย่องการต่อสู้ของยูเครนและยืนยันว่ายูเครนไม่ได้สู้เพียงลำพัง โดย มาเตอุซ โมราเวียสกี นายกรัฐมนตรีโปแลนด์ ทวีตข้อความว่า “ยุโรปจะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป หากสูญเสียยูเครน” และ “ยุโรปจะเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ ถูกเย้ยหยัน และน่าสมเพชยิ่งกว่าที่เคยเป็นมา”

 

  • สำหรับการเจรจาสันติภาพรอบ 5 ซึ่งมีขึ้นเมื่อวานนี้ เป็นการประชุมผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ โดยผู้แทนของยูเครนเผยว่า เป็นการพูดคุยในเชิงสร้างสรรค์มากขึ้น ซึ่งฝ่ายรัสเซียมีท่าทีอ่อนลงและหยุดการเรียกร้องให้ยูเครนยอมจำนน 

 

  • ผลการพูดคุยที่เกิดขึ้น ทำให้คณะผู้แทนของยูเครนรู้สึกมีความหวังในแง่บวกพอสมควร แต่ย้ำความจำเป็นในการพูดคุยกันระหว่างประธานาธิบดีเซเลนสกี และประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน เพื่อให้การเจรจาเกิดความก้าวหน้าครั้งสำคัญ 

 

  • ทางด้านเซเลนสกี เผยแพร่คลิปวิดีโอแถลงการณ์ผ่าน Facebook ระบุว่า การเจรจามีสัญญาณเป็นไปในทิศทางบวกและเริ่มจะมี ’ความเป็นไปได้จริงมากขึ้น’ แต่ยังต้องการเวลาเพื่อตัดสินใจในสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อยูเครน และเพื่อบรรลุเป้าหมายในการยุติสงคราม และย้ำว่า ชัยชนะเหนือรัสเซียนั้นจำเป็นต้องอาศัยการทำงานของพลเมืองยูเครนทั้งหมด รวมถึงทีมผู้แทนเจรจา ซึ่งคาดว่าการเจรจาสันติภาพจะจัดขึ้นต่อเนื่องอีกในวันนี้ (16 มีนาคม)

 

  • อย่างไรก็ตาม ในการประชุมทางไกลกับเจ้าหน้าที่กองทัพก่อนหน้านี้ เซเลนสกีเผยท่าทีว่า ยูเครนคงต้องยอมรับว่าจะไม่ได้เข้าร่วมเป็นสมาชิก NATO ซึ่งถือเป็นการส่งสัญญาณในการยุติความพยายามที่จะเข้าเป็นสมาชิก NATO แต่ยังไม่เป็นไปตามข้อเรียกร้องของรัสเซีย ที่ต้องการให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อรับรองว่า ยูเครนจะไม่เข้าร่วมกลุ่มพันธมิตรระหว่างประเทศใดๆ ซึ่งรวมถึง NATO และ EU

 

  • “เราได้ยินมาหลายปีว่าประตูนั้นเปิดอยู่ แต่เราก็ได้ยินมาเช่นกันว่าเราไม่สามารถเข้าร่วม (NATO) ได้ มันคือความจริงและเราต้องยอมรับ” เขากล่าว

 

ภาพ: Photo by Maxym Marusenko / NurPhoto via Getty Images

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising
X