การเจรจาระหว่างรัสเซียกับยูเครนเริ่มมีความคืบหน้า โดยทางการรัสเซียย้ำชัดไม่ได้มีเจตนาโค่นล้มรัฐบาลยูเครน ส่งผลดีต่อตลาดหุ้นทั่วโลก ดาวโจนส์ปิดตลาดบวก 653 จุด หุ้นยุโรปพุ่งกว่า 4.6% ขณะที่ราคาทองคำร่วงหนักกว่า 55 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เช่นเดียวกับราคาน้ำมันที่ดิ่งลง 16.8 ดอลลาร์
กระทรวงการต่างประเทศรัสเซียออกแถลงการณ์เปิดเผยความคืบหน้าในการเจรจากับรัฐบาลที่กรุงเคียฟ หลังจากที่ทั้งสองฝ่ายมีการพูดคุยหารือบริเวณพรมแดนระหว่างเบลารุสกับโปแลนด์ 3 ครั้ง โดยมีเป้าหมายเพื่อแก้วิกฤตความขัดแย้งและยุติสงครามในยูเครน
มาเรีย ซาคาโรวา โฆษกกระทรวงการต่างประเทศรัสเซียย้ำว่า การเจรจาคืบหน้าด้วยดี ขณะที่กำหนดการเจรจาครั้งต่อไปจะมุ่งเน้นไปที่งานด้านมนุษยธรรม โดยเฉพาะในเรื่องของการอพยพพลเรือน ก่อนใช้โอกาสนี้ตอกย้ำยืนยันเจตนารมณ์ของรัฐบาลรัสเซียว่า การกระทำที่ผ่านมาทั้งหมดไม่ได้ต้องการที่จะยึดครองหรือโค่นล้มรัฐบาลยูเครนแต่อย่างใด
ซาราโควาระบุว่า เป้าหมายของกองทัพไม่ได้ต้องการยึดครองยูเครน ทำลายความเป็นรัฐของยูเครน หรือคว่ำรัฐบาลยูเครน และไม่มีเป้าหมายโจมตีพลเรือน ก่อนใช้โอกาสนี้กล่าวหารัฐบาลยูเครนกำลังขัดขวางความพยายามในการอพยพพลเรือนด้วยการจงใจไม่สื่อสารข้อมูลที่ถูกต้องกับประชาชน บีบให้คนที่ต้องการอพยพไปยังรัสเซียต้องมุ่งหน้าไปทางตะวันตกแทน โดยขณะนี้มีประชาชนชาวยูเครนราว 2 ล้านคนต้องการอพยพมายังรัสเซีย สอดคล้องกับตัวเลขของทางสำนักงานข้าหลวงใหญ่เพื่อผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ (UNHCR) ประเมินว่าจะมีชาวยูเครนอพยพโยกย้ายหนีออกจากยูเครนมากถึง 2.2 ล้านคน
ขณะเดียวกัน มีรายงานจากทางฝั่งรัฐบาลยูเครนระบุว่า เส้นทางอพยพที่รัฐบาลรัสเซียเสนอนั้นเป็นเส้นทางที่ยอมรับไม่ได้ และบางเส้นทางก็เป็นเส้นทางอพยพไปยังรัสเซีย
ทั้งนี้ ทาง อิฮอร์ โซฟวา เจ้าหน้าที่ระดับสูงของยูเครน และเป็นผู้ช่วยของประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครน กล่าวว่า ยูเครนเปิดกว้างที่จะหาทางออกตามแนวทางการทูตเพื่อยุติสงครามกับรัสเซีย และประธานาธิบดีเซเลนสกีพร้อมที่จะพบกับประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย เพื่อแก้ปัญหาความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครน
แนวโน้มความคืบหน้าในทางบวกที่สงครามความขัดแย้งระหว่างรัสเซียกับยูเครนกำลังจะสิ้นสุดลงในเร็ววัน ช่วยคลายความวิตกกังวลให้ตลาดทุนทั่วโลก โดยตลาดหุ้นวอลล์สตรีทของสหรัฐฯ พลิกกลับมาพุ่งแรงเมื่อวานนี้ (9 มีนาคม) โดยเฉพาะหุ้นในกลุ่มการเงินและเทคโนโลยี ท่ามกลางการจับตามองไปที่การเจรจารอบใหม่ระหว่างยูเครนกับรัสเซีย หลังประธานาธิบดียูเครนแสดงท่าที่อ่อนข้อยอมตามเงื่อนไขของรัฐบาลรัสเซีย
โดยดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ขยับพุ่งขึ้น 653.61 จุด หรือ 2.00% ปิดที่ 32,286.25 จุด ส่วนดัชนีเอสแอนด์พี 500 เพิ่มขึ้น 107.18 จุด หรือ 2.57% ปิดที่ 4,277.88 จุด และดัชนีแนสแด็ก เพิ่มขึ้น 460.00 จุด หรือ 3.59% ปิดที่ 13,255.55 จุด
ทั้งนี้ ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปรับตัวในแดนบวกเพิ่มขึ้นไปเกือบ 700 จุด โดยได้แรงหนุนจาก Salesforce, Nike และ J.P. Morgan ส่วนดัชนีเอสแอนด์พี 500 ทำสถิติขยับขึ้นรายวันที่ดีที่สุดนับตั้งแต่เดือนพฤษภาคมปี 2020 และดัชนีแนสแด็ก ทำสถิติรายวันที่ดีที่สุดนับตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนปี 2020 อานิสงส์หุ้นในกลุ่มบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่
ด้านดัชนีแพน-ยูโรเปียน สตอกซ์ 600 ของยุโรป ปิดตลาดปรับตัวเพิ่มขึ้น 4.7% กลายเป็นวันที่ดีที่สุดนับตั้งแต่เดือนมีนาคมปี 2020 โดยได้แรงหนุนจากหุ้นในกลุ่มยานยนต์ที่ขยับเพิ่มขึ้นมากที่สุดถึง 9.5%
ก่อนหน้านี้ ตลาดหุ้นในยุโรปค่อนข้างผันผวนหนัก โดยเฉพาะเมื่อวันอังคาร (8 มีนาคม) หลังจากที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐฯ ประกาศแบนนำเข้าน้ำมันจากรัสเซีย ทำหลายฝ่ายกังวลว่าจะส่งผลให้ราคาน้ำมันที่ปรับตัวพุ่งสูงอยู่แล้วสูงขึ้นไปอีกเพราะความกังวลด้านซัพพลาย
ทั้งนี้ นักลงทุนในตลาดเริ่มมองเห็นความหวังและความเป็นไปได้ที่สงครามยูเครนกำลังจะยุติในเร็ววันหลังจากที่ยืดเยื้อมานานกว่าสองสัปดาห์ ทำให้นักลงทุนฟื้นความเชื่อมั่นและก่อแรงซื้อกลับเข้ามาในตลาด โดยเฉพาะรายงานที่ระบุว่า ผู้นำยูเครนส่งสัญญาณโอนอ่อนตามที่รัสเซียต้องการคือการยุติการเรียกร้องขอเป็นสมาชิกกองกำลัง NATO ทั้งยังส่งสัญญาณพร้อมประนีประนอมเกี่ยวกับสถานะของสองเขตทางตะวันออกที่แยกตัวจากยูเครน
สถานการณ์ที่เริ่มมีแววว่าจะคลี่คลายทำให้แรงกดดันด้านน้ำมันและพลังงานลดลง ส่งผลให้ราคาน้ำมันปรับตัวร่วงลงมากถึง 16 ดอลลาร์ หรือ 12% นับเป็นการปรับตัวลดลงที่หนักที่สุดนับตั้งแต่ก่อนเกิดวิกฤตโควิดระบาดในปี 2020
โดยราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส งวดส่งมอบเดือนเมษายน ลดลง 15 ดอลลาร์ ปิดที่ 108.70 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เป็นวันที่เลวร้ายที่สุดนับตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน ส่วนราคาน้ำมันดิบเบรนต์ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนพฤษภาคม ลดลง 16.84 ดอลลาร์ ปิดที่ 111.14 ดอลลาร์
นอกจากนี้ ราคาน้ำมันยังได้แรงฉุดจากความเคลื่อนไหวในฝั่งสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์และอิรักที่ออกมาเปิดเผยว่า สมาชิก OPEC ยินดีสนับสนุนให้เพิ่มกำลังการผลิตเพื่อบรรเทาความระส่ำระสายจากปัญหาความวุ่นวายในยูเครนกับรัสเซีย
ข่าวดีดังกล่าวส่งผลให้นักลงทุนหันมาเทขายสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำ ฉุดให้ราคาทองคำในวันพุธ (9 มีนาคม) ร่วงลงไปอยู่ต่ำกว่า 2,000 ดอลลาร์อีกครั้ง โดยราคาทองคำโคเม็กซ์งวดส่งมอบเดือนเมษายน ลดลง 55.10 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,988.20 ดอลลาร์ต่อออนซ์
อ้างอิง:
- https://www.channelnewsasia.com/world/russia-says-some-progress-made-talks-ukraine-2552076
- https://www.cnbc.com/2022/03/08/stock-market-futures-open-to-close-news.html
- https://www.cnbc.com/2022/03/09/european-markets-set-to-rise-as-russia-ukraine-volatility-persists.html
- https://www.cnbc.com/2022/03/09/us-oil-prices-take-sudden-leg-downward-now-off-10percent-following-a-march-rally-to-13-year-highs.html
ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH
Twitter: twitter.com/standard_wealth
Instagram: instagram.com/thestandardwealth
Official Line: https://lin.ee/xfPbXUP