มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 50 คน ในจำนวนนี้เป็นเด็ก 5 คน หลังจากกองกำลังรัสเซียโจมตีสถานีรถไฟในเมืองครามาทอร์สก์ ทางตะวันออกของยูเครน ซึ่งในขณะเกิดเหตุพลเรือนกำลังใช้สถานีรถไฟแห่งนี้เพื่อพยายามหลบหนีการสู้รบ เจ้าหน้าที่ยูเครนเปิดเผยเมื่อวันศุกร์ (8 เมษายน)
พาฟโล คีรีเลนโก หัวหน้าฝ่ายบริหารการทหารในภูมิภาคในโดเนตสก์ เปิดเผยว่า ผู้ได้รับบาดเจ็บ 98 คน ซึ่งเป็นเด็ก 16 คน ผู้หญิง 46 คน และผู้ชาย 36 คน ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลในท้องถิ่น
ประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน กล่าวก่อนหน้านี้ว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บเกือบ 300 คนจากการโจมตีครั้งนี้
โดยในการปราศรัยต่อรัฐสภาของฟินแลนด์เมื่อวันศุกร์ ผู้นำยูเครนกล่าวว่า “ทหารรัสเซียโจมตีสถานีรถไฟ” พร้อมกับเสริมว่า “มีพยาน มีวิดีโอ มีเศษขีปนาวุธ และศพผู้เสียชีวิต
“ผู้คนรอรถไฟกันอย่างเนืองแน่นที่สถานีแห่งนี้ เพื่ออพยพไปยังดินแดนที่ปลอดภัย ทำไมพวกเขาต้องโจมตีพลเรือนด้วยขีปนาวุธ ทำไมจึงช่างโหดร้ายที่โลกได้เป็นประจักษ์พยานความโหดร้ายนี้ในเมืองบูชาและเมืองอื่นๆ ที่ได้รับการปลดปล่อยโดยกองทัพยูเครน” เซเลนสกีกล่าวต่อรัฐสภาฟินแลนด์
ขณะที่ตำรวจท้องที่กล่าวในแถลงการณ์ว่า จรวดได้พุ่งเข้าใส่ห้องรอชั่วคราว ซึ่ง ‘ผู้คนหลายร้อยคนกำลังรอรถไฟอพยพ’
“นี่เป็นอีกหลักฐานว่ารัสเซียสังหารพลเรือนยูเครนอย่างป่าเถื่อน โหดเหี้ยม โดยมีเป้าหมายเดียวเท่านั้นคือ ฆ่า” นายกเทศมนตรีเมืองครามาทอร์สก์กล่าวในแถลงการณ์
นายกเทศมนตรีระบุว่า ในช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมา ประชาชนเดินทางไปที่สถานีรถไฟแห่งนี้เพื่ออพยพมากถึงราว 8,000 คนต่อวัน และมีคนมากถึง 4,000 คนเมื่อเกิดเหตุขีปนาวุธโจมตี
ดิมิโทร คูเลบา รัฐมนตรีต่างประเทศยูเครน เรียกการโจมตีดังกล่าวว่าเป็น ‘การสังหารหมู่โดยไตร่ตรองไว้ก่อน’
“รัสเซียรู้ว่าสถานีรถไฟในครามาทอร์สก์เต็มไปด้วยพลเรือนที่รอการอพยพ” รมว.ต่างประเทศยูเครนกล่าว
ด้านกระทรวงกลาโหมรัสเซียออกแถลงการณ์เมื่อวันศุกร์ ระบุว่า ขีปนาวุธดังกล่าวเป็น ‘การยั่วยุ ปลุกปั่น’ เช่นเดียวกับครั้งก่อนๆ ที่รัสเซียปฏิเสธข้อกล่าวหาเกี่ยวกับการสังหารพลเรือนอย่างไม่เลือกหน้าในเมืองบูชา นอกกรุงเคียฟ
“แถลงการณ์ทั้งหมดของบรรดาผู้แทนของระบอบชาตินิยมเคียฟที่กล่าวหารัสเซียโจมตีด้วยขีปนาวุธเมื่อวันที่ 8 เมษายน ที่สถานีรถไฟในครามาทอร์สก์นั้น เป็นการยั่วยุและไม่สอดคล้องกับความจริงอย่างแน่นอน” แถลงการณ์จากกระทรวงกลาโหมรัสเซียระบุ
“เมื่อวันที่ 8 เมษายน กองทัพรัสเซียไม่ได้ดำเนินการหรือวางแผนการยิงปืนใหญ่ในเมืองครามาทอร์สก์ เราขอเน้นว่า ขีปนาวุธทางยุทธวิธี Tochka-U ซึ่งพบเศษซากใกล้กับสถานีรถไฟและเผยแพร่โดยผู้เห็นเหตุการณ์นั้น ถูกใช้โดยกองทัพยูเครนเท่านั้น”
CNN รายงานว่า กองกำลังของยูเครนมีขีปนาวุธ Tochka อยู่ในคลังแสง แต่อาวุธดังกล่าวซึ่งออกแบบโดยโซเวียตก็เคยถูกใช้โดยกองกำลังรัสเซียและกองกำลังแบ่งแยกดินแดนเช่นกัน
ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ทหารและเจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัสเซียต่างออกมาปฏิเสธการโจมตีพลเรือน โดยอ้างว่าไม่มีหลักฐานว่ามีการสังหารหมู่พลเรือนในเมืองบูชา ทั้งที่เหตุการณ์ดังกล่าวถูกบันทึกภาพและเรื่องราวเอาไว้อย่างกว้างขวาง
สำหรับเมืองครามาทอร์สก์ ทางตะวันออกของยูเครนนั้น เป็นหนึ่งในสถานที่แรกๆ ที่ตกเป็นเป้าโจมตีของกองทัพรัสเซียตั้งแต่เปิดฉากการรุกรานยูเครนเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ โดยตั้งแต่ช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ชาวยูเครนใช้สถานีรถไฟในเมืองนี้เพื่ออพยพหนีการสู้รบในภูมิภาค
ภาพ: Andrea Carrubba / Anadolu Agency via Getty Images
อ้างอิง: