สงครามระหว่างรัสเซียและยูเครนทวีความซับซ้อนและตึงเครียดมากขึ้น หลังหลายประเทศตัดสินใจปลดล็อกการใช้ขีปนาวุธที่ทรงอานุภาพในการโจมตี
โดยสหรัฐฯ อนุญาตให้ยูเครนใช้งานระบบขีปนาวุธยุทธวิธีของกองทัพบก หรือที่รู้จักในชื่อ ATACMS (Army Tactical Missile System) ซึ่งมีความเร็วเหนือเสียงและมีศักยภาพการโจมตีที่แม่นยำ
ส่วนอังกฤษและฝรั่งเศสอนุญาตให้ยูเครนใช้ขีปนาวุธนำวิถีพิสัยไกลจากอากาศสู่พื้น Storm Shadow (ชื่ออังกฤษ) หรือ SCALP (ชื่อฝรั่งเศส) ที่มีศักยภาพทำลายล้างด้วยหัวรบแบบเจาะทะลุหลายชั้น
ภายหลังได้รับไฟเขียวกองทัพยูเครนเปิดฉากใช้งานขีปนาวุธทั้ง ATACMS และ Storm Shadow โจมตีใส่เป้าหมายในดินแดนรัสเซียหลายจุดช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา
ขณะที่รัสเซียตอบโต้กลับด้วยการใช้ขีปนาวุธ Oreshnik ซึ่ง วลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย เผยว่า เป็นขีปนาวุธพิสัยกลาง (IRBM) ที่ติดตั้งหัวรบความเร็วเหนือเสียง แต่ไม่ได้ใช้หัวรบนิวเคลียร์ โดยคาดว่า ขีปนาวุธชนิดนี้เป็นรุ่นที่ลดระดับลงมาจากขีปนาวุธข้ามทวีป (ICBM) รุ่น Yars-M
ภาพประกอบ: นิสากร ฤทธาภัย